โดย Kathleen adams, M.A. (1990:14-23) และ อนุรักษ์ เม่นหรุ่ม C.Ht
1.ค้นพบนักเขียนภายในตัวเรา
เราจะพบว่าการเขียนไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อแบบที่เคยคิด และไม่มีรูปแบบที่ตายตัว เป็นงานอดิเรกที่เกือบสมบูรณ์แบบ ทำให้เราได้กลับมาดูแลตัวเอง ซึ่งเมื่อเราได้เขียนออกมาอย่างเต็มที่และเปิดกว้างแล้ว เราจะรักสิ่งที่เขียนออกมาอย่างน่าประหลาดใจ
2.เก็บบันทึกการเดินทางของชีวิตเพื่ออนาคต
ทำให้เราเห็นการเติบโต เส้นทางชีวิต เส้นทางที่ถูกลืม เห็นความหวัง ความกลัว ความฝัน ความเจ็บปวด ทำให้เห็นบทเรียนและความหวังสำหรับอดีตที่ผ่านมาและอนาคต
นักธุรกิจหลายคนที่ได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับธุรกิจการงาน ทำให้เห็นว่า “เมื่อการขายเริ่มตกต่ำ ฉันสามารถกลับไปปรับเปลี่ยนสิ่งที่ฉันทำเพื่อกระตุ้นการขายในช่วงท้ายของวงจรนี้” “ค่อนข้างอุ่นใจเมื่อย้อนอ่านบันทึกธุรกิจของฉันและตระหนักว่ามันไม่มีอะไรเป็นสิ่งสุดท้ายนิรันดร์”
3.รู้จักตัวตนที่แตกต่างในตัวเอง
นักจิตวิทยา Roberto Assagioli เรียกส่วนที่แตกต่างในตัวเราว่าบุคลิกภาพย่อย เหมือนกับชุดที่เราสวมใส่ มีบุคลิกภาพที่เรารู้จักและรู้เท่าทัน และมีบางด้านที่เป็นเงาเราไม่ทันเห็น
4.ได้รับประโยชน์จาก “ความเป็นเพื่อนจำเป็น” และเครื่องมือในกระบวนการบำบัด
ผู้เขียนได้ศึกษาในปี 1987 พบว่าการเขียนบันทึกเป็นเครื่องมือทรงคุณค่าในการบำบัดตัวเอง และกว่า 87เปอร์เซ็นที่รู้สึกว่าการเขียนบันทึกเป็นเพื่อนหรือนักบำบัดคนหนึ่ง มีการนำการเขียนบันทึกมาใช้ในการรักษาในคลินิก เป็นการบ้าน เป็นข้อมูลช่วยผู้ให้คำปรึกษา ช่วยพัฒนากระบวนการบำบัด เพิ่มความมั่นใจในการแก้ไขปัญหา พัฒนาทักษะส่วนตัว อีกทั้งประหยัดเงินและเวลา
5.เยียวยาความสัมพันธ์
ทำให้เรามีพื้นที่ในการระบายความรู้สึก ได้สื่อสารในสิ่งที่สื่อสารลำบาก และยังได้รับฟังในมุมมองที่แตกต่าง สะสางสิ่งที่ค้างคาใจ ก้าวข้ามความขัดแย้งและความเจ็บปวด
6.เข้าถึงข้อมูลในจิตไร้สำนึกและจิตใต้สำนึก
การเขียนบันทึกเหมือนกับดวงจันทร์ ดึงดูดน้ำขึ้นน้ำลงให้สิ่งที่อยู่ใต้ทะเลได้ปรากฏขึ้นอยู่บนพื้นผิวน้ำ ใต้ทะเลเปรียบเหมือนจิตใต้สำนึก ส่วนผิวน้ำคือจิตสำนึก
7.เข้าถึงข้อมูลในจิตใต้สำนึกร่วม (collective unconscious)
และตัวตนที่สูงส่ง (higher self) ภูมิปัญญาที่มีในจิตใจไม่ใช่ของใครคนหนึ่ง แต่เราทุกคนสามารถเข้าถึงและพัฒนาขุมปัญญาในตัวเราได้ผ่านสมาธิภาวนา และพัฒนาจิตใต้สำนึก เราทุกคนยังมีตัวตนที่สูงส่งที่สามารถชี้แนะทิศทางของชีวิตและกำกับตนเองได้ การเขียนจากกระแสจิตใต้สำนึกสามารถพาเราดำดิ่งลงในโลกอันกว้างใหญ่ของจิตใจมนุษย์
8.เข้าใจความฝันยามหลับใหล
เทคนิคการทำงานเกี่ยวกับความฝันอันหลากหลายไม่ว่าของจุง , เกสตัลท์ และฟรอยด์ ต่างสามารถแปลงเป็นรูปแบบการเขียนได้ ทำให้เราใช้ความฝันเป็นเส้นทางสู่จิตใต้สำนึกและทำงานกับสถานการณ์หรือความสัมพันธ์ในชีวิตยามตื่นผ่านความฝันกลางคืน
9.เข้าใจสัญลักษณ์ในชีวิต และพัฒนาปัญญาญาณ
ชีวิตไม่ได้เรียบแบนแต่มีความลึกล้ำให้เราไข สังเกต และพิจารณาด้วยปัญญา ผ่านปรากฏการณ์ในชีวิตที่เกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ นิมิต สัญลักษณ์ของไพ่ทาโรต์ จนถึงเหตุการณ์ซ้ำซาก การเขียนเชื้อชวนตัวเราสังเกตและขยายความหมายของสัญลักษณ์ในชีวิตเหล่านั้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและบ่มเพาะปัญญา
10.ประหยัดเวลาและพัฒนาการงาน
การเขียนบันทึกทำให้เกิดไอเดียที่จะมาพัฒนาการงานมากมาย ทำให้ช่วยในการจัดการเวลาและการงาน
11.เผยความคิดสร้างสรรค์
สมุดบันทึกของเราจะเป็นผ้าใบแห่งการให้อภัยกับการแสดงออกความคิดสร้างสรรค์ที่เรากลัวว่ามันจะตายและถูกฝัง
12.เห็นวงจรหรือแบบแผนของชีวิต
และการเขียนบันทึกช่วยให้เราสัมผัสกับความรู้สึกตนเอง การพัฒนาด้วยตัวเอง พัฒนาความเป็นตัวตน ทดลองลักษณะนิสัยและพฤติกรรมใหม่ จินตนาการถึงความเป็นไปได้และความจริงเหมือนจินตนาการ
ศึกษาเพิ่มเติม
( คลิกที่หัวข้อเพื่อเปิดอ่าน )