ลองฟังเสียงแห่งความโดดเดี่ยวด้วยหูของเธอ
มองความอ้างว้างด้วยสายตาคู่นั้น
นิ่งงันแต่แน่วแน่ในที
รู้สึกถึงกายที่เดียวดายตอนนี้
เพื่อเราจะอยู่ด้วยกัน
.
ลองยินเสียงอย่างแยบยลจากที่ใกล้และไกล
พริ้วผ่านเข้ามาไหวน้อยๆ ข้างในตัว
ดื่มด่ำดมดอมกลิ่นที่สายลมฝากให้
ขณะที่เธออยู่กับตน
ด้วยใจที่เต็มตื่นและตื้นตัน
.
ลองทักทายอารมณ์ที่แวะเวียนด้วยความเงียบ
แขกนานาผู้จรมาแล้วลาจาก
กับบทสนทนาคุ้นเคยอันเรียบง่าย
ดีบ้าง ร้ายบ้าง ไม่มีอะไรมาก
ต่างอยู่ในคำว่า อนิจจัง
.
เธอลอง…อยู่กับความเหงาอย่างเต็มใจ
ยอมให้ตนโดดเดี่ยวบ้าง
ปิดโทรทัศน์ โทรศัพท์ สังคม และใครๆ
พักการกระทำหรืออยากทำ และปล่อยวาง
ปรีดากับความอ้างว้าง
.
ความไม่มี…มิได้ลดทอนสิ่งที่มี
เธอจะเห็นความมีได้ชัดเจน…เมื่อไม่มี
เดียวดายก็หาใช่ลำพังอย่างมั่นหมาย
ว่างเปล่าก็หาใช่มืดหม่น
แค่เราละเลยอะไรไปมากมาย
.
โลกที่หนีเหงาอย่างฉาบฉวย
ติดกับดัก…อยากยึด…จนย่อยยับ *
ไม่มีอะไรน่าคลุกคลีหรือฉกฉวย
เดียวดายยังดีนักไม่ยับเยิน
.
อยู่ด้วยกันตรงนี้ในความโดดเดี่ยว
เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับใครๆ ที่คอยเธออยู่
เรารอตรงนี้อย่างนิ่งงัน แต่แน่วแน่เด็ดเดี่ยว
เจอกันในความว่างที่กว้างใหญ่
.
เนตัง มะมะ
เนโส หมัสมิ
นเมโส อัตตาติ
นั่นไม่ใช่ของเรา
นั่นไม่เป็นตัวเรา
นั่นไม่ใช่ตัวตน
.
.
อนุรักษ์ ครูโอเล่
คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” ตอนที่ 38
15 ธันวาคม 2564
* อยากยึด = ตัณหาอุปาทาน
ความเหงาและรู้สึกโดดเดี่ยวลึกๆ ในใจมนุษย์ที่ไม่อาจเห็นคุณค่าในตัวเองอย่างแท้จริง พาให้ทำลายโลกอย่างยับเยินทั้งทางธรรมชาติและการเมืองนักต่อนัก รวมทั้งชีวิตของตน
????อ่านบทความอื่นในคอลัมน์นี้
www.dhammaliterary.org/คอลัมน์-บทภาวนาอนัตตา/
.
????สนับสนุนการอบรม
www.dhammaliterary.org/open-course/