” พ่อไม่อาจอยู่กับลูกได้นานกว่านี้แล้ว
พ่อจำเป็นต้องปล่อยมือเพื่อกายใจลูกจักเข้มแข็งและเติบใหญ่ พ่อมิอาจเดินต่อกับลูกไกลกว่านี้ ทั้งหมดคือนิ้วที่พ่อชี้ทาง แต่ลูกจะก้าวไปไหม
.
ลูกรักพ่อ หากแต่เวลานี้ได้มาถึง ดังสัญญาณที่แสงอุทัยล่วงลับ ลูกอย่าได้ฝากศรัทธาไว้ที่พ่อลำพัง หัวใจน้อยจงเป็นดวงดาว เปล่งแสงแห่งคุณค่าแก่แผ่นดินนี้ เพื่อที่สิ่งที่ดีที่สุดของพ่อ จักยังคงอยู่ในลูกทุกคน และดำรงอยู่ในบ้านที่พ่อแสนห่วงใย
.
ถึงเวลาลูกต้องเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองดังคำสอน พ่อจากไปเป็นสัญญาณ ว่าหมดเวลาแล้วที่ลูกจะย่ำก้าวซ้ำกับที่เดิม ลูกจำเส้นทางที่พ่อชี้ให้เห็นไหม ความดีของพ่อจักเคียงข้างทุกก้าวย่างของลูกบนทางนี้ แรงใจและแรงกายที่พ่อลงแรงเพื่อแผ่นดิน คือความเข้มแข็งในทุกมือและหยาดเหงื่อที่ลูกทำเพื่อบ้านเรา ลูกจำดวงตาที่พ่อมองต่อลูกทุกคนได้ไหม ขอให้ลูกมองพี่น้องของตนเช่นนั้น ให้รักของพ่อมีลมหายใจในลูกทุกคนเสมอ
.
และพ่อจักอยู่ที่นั่น ท่ามกลางหัวใจที่งดงาม ”
บันทึกวันพ่อจากไป…
ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙
ติดตามอ่านคอลัมน์ “บันทึกนักเขียนบำบัด” ได้ที่
https://www.dhammaliterary.org/?page_id=3904