สายน้ำคือช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านไป #งานเขียนต่อยอดการรู้จักตนเอง

“สายน้ำคือช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านไป”
งานเขียนจาก กิตติญา สุขญาติ ม.บูรพา การจัดการทรัพยากรมนุษย์
การอบรมการเขียนเพื่อรู้จักตนเองและการสะท้อน

 

สายน้ำในลำธารจะไหลไปเรื่อยๆตามเส้นทาง จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำที่ห่างไกลและไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดที่ไหน ตลอดระยะเวลา 18 ปี ฉันได้เห็นและเรียนรู้สิ่งต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา โดยที่สิ่งต่างๆเหล่านั้นไม่เคยย้อนกลับมา ณ จุดที่เคยผ่านไปได้เลย เฉกเช่นเดียวกันกับสายน้ำที่ไม่เคยไหลย้อนกลับมายังจุดกำเนิดได้อีก…

 
สายน้ำที่เย็นฉ่ำในลำธารไหลจากต้นน้ำไปยังปลายน้ำ จากภูเขาลงสู่ลำธาร จากลำธารเล็กๆสู่ลำธารที่ใหญ่ขึ้น โลกใบเล็กๆเริ่มเติบโตสู่โลกที่กว้างใหญ่ จากภัยอันตรายแค่เพียงฝนตกกลับกลายเป็นพายุลูกใหญ่ โลกที่ใหญ่ขึ้นก็จะมาพร้อมกับอันตรายที่มากขึ้นเช่นกัน ภายใต้สิ่งที่เลวร้ายต่างๆทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง พายุฝน จนกระทั่งไฟป่าเป็นสิ่งที่เจ็บปวดและเลวร้ายมากสำหรับสายน้ำในลำธารอย่างเธอ ถึงแม้เธออยากจะช่วยเหลือเพียงใดแต่ก็ต้องช่วยเหลือตนเองให้รอดก่อน แต่กระนั้นเมื่อสิ่งร้ายๆผ่านพ้นไปความสงบสุขก็กลับเข้ามา ความอ่อนโยนจากสิ่งต่างๆ ริมลำธาร ทำให้ทุกอย่างดูสมบูรณ์และน่าจดจำเป็นที่สุด

 
ในวันหนึ่งที่สงบสุขเธอได้พบเจอกับดอกไม้ริมลำธารที่รวงหล่นลงในลำธาร ดอกไม้ล่องลอยและไหลไปตามแรงลมที่พัดผ่าน ดอกไม้ชั่งดูสวยงามและดูสนุกสนานกับสิ่งที่พบเจอ เธอไหลตามไปดูดอกไม้ที่ถูกสายลมพัดไปเรื่อยๆ เธอเพลิดเพลินกับสิ่งใหม่ที่พึ่งพบเจอมาก แต่สุดท้ายดอกไม้ก็หายลับไปเพราะถูกกระแสน้ำที่แรงพัดจมลงสู่ใต้ลำธารเธอเสียใจที่ช่วยดอกไม้ไม่ทัน เธอจึงบอกกับตัวเองว่า”นี่แหละคือชีวิตที่โหดร้าย”

 
สายน้ำในลำธารเล็กๆมีเส้นทางไม่มากนักที่จะได้เลือกไหลไป น้อยครั้งที่จะพบเจอทางแยก มันยากมาก ที่จะเลือกไปทางไหน และสิ่งที่ยากกว่าคือการที่เธอไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไร หลังจากเลือกเส้นทาง แต่ก็ต้องยอมรับสิ่งที่พบเจอหลังจากเลือกเส้นทางเพราะนี่คือการตัดสินใจของตนเอง

 
“โลกที่ดูสวยงาม สดใส และสงบ” อาจเป็นเพียงความคิดที่เธอหวังที่จะได้พบเจอหลังจากที่เธอเลือกเส้นทาง เธออยากที่จะพบเจอสิ่งต่างๆที่เหมือนกับถิ่นกำเนิดของเธอ เธอหวังที่จะพบความสงบสุขและความปลอดภัยเหมือนกับบ้านเธอ แต่มันคงเป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น เพราะสิ่งที่เธอพบเจอมันไม่ใช่เช่นนั้นเลย ท้องฟ้ามืดครึ้ม สายลมที่พัดแรง ต้นไม้ที่ลู่ลมจนแทบจะหักลงมาสู่ลำธาร สัตว์น้อยใหญ่ตามพากันวิ่งหาที่หลบซ่อนอย่างปลอดภัย มันชั่งดูเลวร้ายและน่ากลัวมาก เธอหวั่นไหว เธอกลัว เธอทำได้เพียงแค่ยอมรับชะตากรรมเพราะเธอเลือกเส้นทางนี้มาแล้ว ยังไงเธอก็ต้องผ่านไปให้ได้ ถึงแม้มันจะโหดร้ายมากก็ตาม สายน้ำที่เปลี่ยนสี จากสีน้ำใสดูเย็นฉ่ำ กลายเป็นสีแดง น่ากลัว อิทธิพลจากสิ่งรอบข้างทำให้เธอต้องเปลี่ยนสีของตนเองไปด้วย เธอไม่อยากเป็นเช่นนี้เลย เพราะนี้ไม่ใช่ตัวตนของเธอ มันทำให้สิ่งต่างๆรอบเธอมองตัวเธอเปลี่ยนไป

 

 

พายุลูกนี้ชั่งยาวนานเหลือเกิน เธอแทบจะทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอทุกข์ทรมานอย่างมากที่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ และยังต้องทนพบเจอกับสัตว์ต่างๆที่ล้มตายไปเพราะหนีไม่พ้นต้นไม้ใหญ่ที่หักโค้นลงมา มันเจ็บปวดอย่างมากที่ต้องมองภาพแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา มันชั่งยาวนานเหลือเกิน มันยาวนานมากเกินไปแล้ว หลังจากพายุที่ยาวนานแสนนานผ่านพ้นไป เหลือเพียงแต่ซากต้นไม้ที่หักโค้นและดินโคลนที่ไหลลงสู่ลำธาร เธอผ่านมาได้ เธอผ่านพายุลูกใหญ่นั้นมาได้ เธอดีใจมาก แต่สิ่งรอบข้างเธอมันชั่งดูหดหู่เหลือเกิน เธออยากจะไปให้พ้นจากที่นี้เร็วๆ แต่ทำได้เพียงไหลไปเรื่อยๆเท่านั้น เธอได้ย้อนกลับมาถามตนเองว่า”เลือกเส้นทางถูกแล้วหรือไม่”ในแง่หนึ่งเธอก็มองว่ามันชั่งปวดร้าวมากที่ได้พบเจอสิ่งเหล่านั้น มันเจ็บปวด แต่ในอีกแง่หนึ่งมันเป็นเหมือนบททดสอบของชีวิต ทดสอบว่าเธอจะผ่านสิ่งเลวร้ายเหล่านั้นมาได้ไหม และสุดท้ายมันก็พิสูจน์ได้ว่าเธอผ่านการทดสอบนี้ เธอผ่านมันมาได้

 
“โลกที่สงบ และสวยงามยังมีอีกไหม” วันเวลาผ่านไปเธอไหลมาไกลจากถิ่นกำเนิดของเธอมาก เธอคิดถึงบ้านเหลือเกิน แต่เธอกลับไปไม่ได้ เธอไหลย้อนกลับไปบ้านไม่ได้ เธอทำได้เพียงคิดถึงและไหลไปตามลำธารที่เธออยู่ พบเจอกับสิ่งใหม่ๆไปเรื่อยไม่มีที่สิ้นสุด แต่เธอก็ไม่มีความสุขเท่าบ้านของเธออีกแล้ว

 
คำถามต่อไป”เธอต้องเลือกเส้นทางใหม่อีกไหม” คำตอบของเธออยู่ไม่ไกลมากนักหลังจากที่เธอไหลผ่านลำธารที่เจอพายุลูกใหญ่มา อีกไม่กี่อึดใจเธอก็จะพบกับทางแยกที่เธอต้องเลือกอีกครั้ง และแล้วก็มาถึงเวลาที่เธอต้องเส้นทางอีกครั้ง เธอกลัวที่จะต้องเลือกมัน เธอกลัวที่จะได้พบเจอเหมือนกับครั้งที่แล้วที่เธอได้เลือกเส้นทางนั้นทำให้เธอต้องพบเจอกับความเลวร้ายที่ไม่น่าจดจำ แต่เธอต้องเลือก เธอต้องตัดสินใจอีกครั้ง และเธอต้องเตรียมใจอีกครั้งที่จะพบเจอสิ่งต่างๆหลังจากที่เธอเลือก ความสงบสุขที่เธอใฝ่ฝันถึงที่จะได้พบเจออีกครั้งก็ปรากฏขึ้นหลังจากที่เธอเลือกเส้นทางหนึ่ง เธอรู้สึกสงบและมีความสุขมาก เธอรู้สึกเหมือนเธอได้อยู่บ้านอีกครั้ง เธอรื่นรมกับสิ่งใหม่ที่ได้พบเจอ เธอกลับมาเป็นสายน้ำที่เย็นฉ่ำอีกครั้ง สายน้ำที่ให้ความชุ่มชื่นกับสัตว์น้อยใหญ่ที่ผ่านมา และเป็นน้ำให้ต้นไม้ได้ใช้ดำรงชีวิตอีกครั้ง

 
“ชีวิตที่เป็นอยู่ดีแล้วเหรอ” ความเคยชินและความเบื่อหน่ายเริ่มเกิดขึ้นภายใต้ความสุขของเธอ เธอเบื่อกับสิ่งที่เจอทุกๆวัน เธอต้องการพบเจอสิ่งใหม่ๆอีกครั้ง และเวลาของการพบเจอสิ่งใหม่ๆก็เริ่มต้น เธอไหลไปตามลมที่พัดผ่านมาอีกครั้ง เธอไล่มองไปบนเส้นทางที่เธอได้ผ่าน ชีวิตหลายชีวิตเติบโตไปตามเวลา จากตัวเล็กๆสู่ตัวโตเต็มวัย เธอหยุดคิดและนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา ในชีวิตของเธอ เธอได้ผ่านอุปสรรคที่เลวร้ายเพียงครั้งเดียว แต่มันก็ยิ่งใหญ่มากสำหรับสายน้ำเล็กๆอย่างเธอ ทุกย่างก้าวผ่านไปเรื่อยๆ เธอหยุดนิ่งบางในระหว่างทาง และเดินต่อเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนเองใฝ่ฝัน เธอใฝ่ฝันที่จะพบเจอสถานที่ที่เป็นเหมือนบ้านของเธอที่จากมา เธอต้องการความสงบสุขที่ไม่น่าเบื่อ แต่กระนั้นเมื่อไหร่ล่ะ เมื่อรัยจะถึงเวลานั้นเธอถามตนเองเสมอ

 
วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เธอเติบโตมากขึ้น เห็นโลกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เธอได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย กับตัวเองเธอไม่ได้ประสบเรื่องร้ายๆมากนัก แต่เธอได้พบเห็นสัตว์ต่างๆที่เวียนว่ายตายเกิด หรือแม้กระทั่งสัตว์ตัวเล็กที่ถูกสัตว์ใหญ่กัดกินจนตาย เธอสงสัยมาตลอดว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แต่ตอนนี้เธอได้คำตอบแล้ว

 
“ทุกชีวิตมีที่สิ้นสุด” สำหรับเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะถึงที่สิ้นสุด ลำธารที่เธอไหลมามันชั่งกว้างใหญ่และยาวไกลมาก เธอไม่พบทางแยกอีกหลังจากที่เลือกในครั้งนั้น เธอรู้สึกดีในลำธารแห่งนี้ เพราะมันทำให้เธอรู้จักชีวิตมากขึ้น เธอได้เรียนรู้สิ่งต่างๆที่เธอไม่เคยได้รู้เลย เธอได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆมากมายถึงแม้มันจะผ่านมาแล้วผ่านไปเท่านั้น แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกดีมากๆ กับสิ่งที่ได้พบเจอ ทุกชีวิตที่เธอได้พบเห็นต่างมีจุดสิ้นสุดของชีวิตที่แตกต่างกันออกไป บางชีวิตตายเพราะหมดอายุขัย บางชีวิตถูกทำลายจนตาย มันชั่งหดหู่ยิ่งนัก เธอได้พบพายุอีกครั้งหลังจากไม่ได้ประสบมายาวนาน แต่ครั้งนี้เธอเตรียมพร้อมตนเองอย่างดี เพราะเธอรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องเจอ มีเรื่องเดียวที่เธอไม่รู้คือพายุลูกนี้จะมาแรงหรือน้อย จะสั้นหรือจะยาวนานเท่านั้นเอง พายุพัดมาเป็นระยะๆ ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมาเป็นพายุลูกใหญ่โหมเข้ามาทีเดียว เธอไม่รู้สึกกลัวกับสิ่งที่เจอมากนัก เธอรู้สึกว่ามันชั่งเป็นเรื่องที่ไม่หนักมากถ้าเทียบกับครั้งที่ผ่านมา พายุลูกนี้ยาวนานกว่าครั้งที่แล้วแต่มาเป็นระยะเท่านั้นเอง สัตว์น้อยใหญ่มีการเตรียมตัวอย่างดี ทำให้มีสัตว์ล้มตายไม่มาก

 
พายุพัดผ่านหายไปเหลือเพียงภาพความทรงจำไว้ให้ได้คิดถึง ลำธารสายนี้ ผืนป่าริมลำธารต้องใช้เวลาอีก สักพักเพื่อฟื้นฟูกลับมาสวยงาม แต่คงจะไม่เหมือนเดิม เพราะพายุลูกนั้นได้นำพาสวยงามเหล่านั้นไปซะแล้ว เธอรู้สึกเหว่หว้า สิ่งรอบข้างเธอวุ่นวายกับการฟื้นฟูตนเอง พวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อมกับการรับมือพายุในช่วงแรกๆ ความเสียหายจึงมีมาก แต่ใช้เวลาไม่นานนักที่จะฟื้นฟูสิ่งต่างๆ สิ่งที่ยากกว่าการฟื้นฟูคือจิตใจที่หวาดกลัว กลัวพายุจะกลับมาอีกครั้ง ลำธารสายนี้น้อยครั้งที่จำพบเจอสิ่งเลวร้าย มันจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะหวาดกลัว เธอเห็นสิ่งต่างๆเหล่านี้มามากพอที่จะรู้ว่าควรทำอะไรในช่วงนี้ เธอไม่อยู่นิ่งเฉยๆ เธอช่วยในสิ่งที่เธอช่วยได้ และนั้นคือการให้สัตว์ได้ดื่มกินน้ำที่เย็นฉ่ำเพื่อลดความเหนื่อยล้า

 
ตลอดระยะเวลาที่เธอได้ไหลมา เธอได้ประสบพบเจอสิ่งต่างๆ ได้เรียนรู้มากมาย มันเป็นบทเรียนที่คุ้มค่ากับการที่เธอได้ออกมาจากบ้านมาก เธอได้พบเจอโลกที่กว้างใหญ่ถึงแม้บางครั้งเธอจะคิดถึงบ้านของเธอมากก็ตาม แต่กระนั้นเธอก็ได้เพียงแต่คิดถึง เธอไม่สามารถย้อนกลับไปที่นั้นได้อีก ชีวิตของเธอมีแต่ไหลไปข้างหน้าและเจอทางแยกใหม่ๆให้เธอได้ตัดสินใจเลือกอีก และมันก็ยากมากทีเดียวที่จะเลือก สุดท้ายชีวิตเธอก็ไม่รู้ว่าจะจบลงเช่นไหร่ ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะประสบเรื่องดีหรือเรื่องร้าย เธอทำได้เพียงแต่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เตรียมรับมือทุกสถานการณ์เพื่อไม่ให้บาดเจ็บและเจ็บปวดเหมือนกับครั้งแรกที่พบ มันสาหัสมากจริงๆ
บทเรียนที่เธอได้รับมาโดยตลอดคือการเปลี่ยนแปลงที่ยากเกินกว่าจะคาดเดา เธอไม่รู้ว่าเมื่อเลือกเส้นทางแล้วเธอจะเจออะไร แต่เธอจะไม่ยอมแพ้ เธอต้องสู้กับอุปสรรคที่ได้พบเจอ เพราะสิ่งเหล่านี้เมื่อผ่านไปสิ่งที่ตามมามันสวยงามเสมอ เธอรู้เพียงเท่านี้ชีวิตเธอก็มีความสุขมากพอแล้ว