สิ่งที่คิดเป็นประจำ จะเป็นกรงขังเราไว้เอง :
ความคิดและพฤติกรรมที่นำมาสู่ความสุขหรือความทุกข์ ล้มเหลวหรือสำเร็จ ต่างทำงานซ้ำๆ เป็นร่องวงจร วนไปเวียนมา ย่ำและย้ำเป็นความเคยชิน จนเราเองก็หลงลืมไปว่า เราไม่จำเป็นต้องคิดแบบนั้นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็ได้ เรามีวิธีคิดและทางเลือกมากมายในทุกสถานการณ์ แต่เราเลือกขังตัวเราไว้ด้วยวิธีคิดแบบเดิมๆ
.
🤔 เราอาจเคยสงสัยว่าเหตุใด เราจึงผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก เจอเหตุการณ์หรือคนแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า บางความเห็นกล่าวว่าเป็น “กฎของกระจก” เราเจอสิ่งใดก็สะท้อนว่าสิ่งนั้นอยู่ในตัวเราหรือจิตเรามาก่อนแล้ว เราดึงดูดสิ่งต่างๆ เข้าหาตัวเอง แต่ที่จริงแล้ว เราก็ไม่ใช่หลุมดำหรือดาวเคราะห์ที่ดึงดูดทุกสิ่งโดยมีตัวตนเป็นศูนย์กลาง แต่เป็นหัวใจเราเองวนเวียน ย้ำคิด ย้ำทำ เลือกวิธีคิดแบบเดิม เลือกวิธีใช้ชีวิตแบบเดิม ปัญหาแบบเดิมก็ย่อมตามมา
.
ความรู้สึก นึก และคิด ก่อให้เกิดการกระทำทั้งภายในใจและในชีวิตของเรา เมื่อความรู้สึก นึก และคิด วนเวียนอยู่ในแบบเดิมๆ เราก็ย่อมขังตัวเองเอาไว้ในวงจรชีวิตแบบนั้น
.
สิ่งที่เป็นปัญหา มักไม่ใช่ตัวปัญหา แต่เป็นวิธีคิดที่ไม่เหมาะสม ไม่ตอบโจทย์ และสร้างปัญหาขึ้นมา และยิ่งเราพยายามหาทางออกให้ชีวิต ด้วยวิธีคิดแบบเดิม คิดย้ำในทางเก่าๆ ก็มีแต่ยิ่งวนเวียนอยู่ในทางที่เราหลงทาง
.
เมื่อเรารู้ว่าเราหลงทางแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือเลือกหาหนทางใหม่ การคิดและการใช้ชีวิตก็เช่นกัน เราไม่เคยมีหนทางเดียว เมื่อการคิดแบบนั้นกับการใช้ชีวิตแบบนั้น มันไม่สามารถทำให้ตัวเราเองและคนรอบตัวดีขึ้นได้ ไม่มีความสุขอย่างแท้จริง เหตุใดเราจึงมัวแต่พยายามเดินไปในทางเดิม ทั้งที่เบื้องหน้าคือทางตัน
.
🔑 ความคิดกับความเชื่อ เป็นกุญแจสำคัญดอกหนึ่งของความสุขและความสำเร็จของชีวิต เราจะไขจากปัญหาและสิ่งที่ขวางกั้น เราต้องเลือกกุญแจให้ถูกประตู
.
สมองกับจิตใจ มีความสามารถที่จะคิดอย่างไม่จำกัด แต่คนเราทั่วไปมักใช้ไม่ถึงครึ่ง สมองกับจิตเราทุกคนมีพรสวรรค์ของการริเริ่ม สามารถเชื่อมโยงและปรุงแต่งต่างๆ ได้มากมาย แต่เมื่อเราปล่อยให้วงจรของความคิดทำงานในร่องเดิมๆ แล้ว สมองก็ไม่มีโอกาสได้เชื่อมสายใยความคิดใหม่ ความสามารถของการริเริ่มก็ฝ่อลงไม่ได้ใช้งาน ชีวิตจึงติดลูป
.
เรามีความสามารถที่จะคิดแบบภาพ จินตนาการ ใช้ดนตรี การเคลื่อนไหว เขียนบันทึก และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่จำเป็นต้องคิดเป็นเสียงในใจอย่างเดียว
.
🕳 ความคิดที่เป็นปัญหามักนำมาซึ่งปัญหาเสียเอง เราต้องเปลี่ยนที่ความคิดของตนเองก่อน ด้วยการเปลี่ยนมุมมอง หากิจกรรมช่วยคิด ฝึกนึกเป็นภาพ ใช้จินตนาการ ทำสมาธิ ฟังความเห็นผู้อื่น และเปลี่ยนเสียงพูดในใจ คิดไปในทางที่เป็นประโยชน์
.
การตั้งคำถามใหม่ต่อปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดที่สำคัญ บ่อยครั้งที่เราขังตัวเองไว้ด้วยคำถามที่ปิดกั้น ตอกย้ำด้านลบ และไม่ตรงโจทย์ เราควรถามตัวเอง หรือหาคำตอบให้แก่ปัญหา ด้วยคำถามที่เปิดกว้าง สร้างสรรค์ มองโอกาส และเข้าใจสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง
.
ทุกสิ่งที่เราคิดในใจ เป็นทางเลือกจากจิตตนเองทั้งสิ้น นักสะกดจิตเป็นเพียงผู้โน้มน้าวการคิดในใจเหล่านั้น แต่เราเป็นนักสะกดจิตตัวเองอยู่แล้ว เพราะเราคิดอยู่แล้วแทบตลอดเวลา ทุกความคิด ความรู้สึก และการระลึกถึง หัวใจเราเป็นผู้เลือกเองเสมอ
.
🌞 เมื่อใดที่เรามีสติ รู้ทันความคิดตน เมื่อนั้นเรากำลังมีโอกาส เป็นนักสะกดจิตให้ตัวเอง สั่งการความคิดให้เป็นไปในทางช่วยเหลือ เปิดโอกาส ให้กำลังใจ มองเห็นประโยชน์ และหาทางออกใหม่ๆ
.
ทุกสถานการณ์มีทางเลือกมากมาย หากเราไม่จมอยู่ในความรู้สึกและการคิดแบบเก่า เพียงแค่เราตั้งสติ หาตัวช่วยคิด มองมุมต่างๆ ไม่ปักใจเชื่อง่าย ไม่หลงเสียงตอกย้ำจากอดีต เมื่อนั้นเราก็จะเห็นทางเลือกมากมายที่เราสามารถทำได้
.
หากเราหลับตาเสียแล้ว เราจะเห็นทางได้อย่างไร เมื่อปิดกั้นตัวเองไว้ด้วยความคิดตอกย้ำ เราก็หมดทางเลือก เมื่อใดที่ทางตัน มุ่งหน้าไปทางเดิมเช่นนั้น ชีวิตก็หมดหนทาง
.
การฝึกคิดเป็นภาพ หรือจินตนาการในใจอย่างผ่อนคลายและมีพลัง เป็นเครื่องมือช่วยคิดที่ทรงอานุภาพ เพราะกระตุ้นการทำงานของสมองทั้งสองซีก เปิดโอกาสให้หยุดการคิดเป็น “คำๆ” แบบเดิมในหัว จินตนาการ มองภาพกว้าง ภาพรวม หรือใช้ความรู้สึกมากขึ้น
.
🌈 ลึกๆ แล้วคำตอบล้วนอยู่ในจิตตนเองเสมอ เมื่อเราหาวิธีคิดที่เหมาะสมได้ เราย่อมเข้าถึงขุมทรัพย์นี้ในตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องเข้าคอร์สการอบรมราคาแพงแต่อย่างใด
.
เมื่อใดก็ตามที่เราหลงทาง มิว่าความคิดหรือการใช้ชีวิต แทนที่จะบ่นพร่ำหรือตอกย้ำตัวเองกับกำแพงนั้น เราแค่หันไปดูรอบๆ มองในมุมที่เราไม่เคยเห็น แล้วเลือกทางใหม่ อย่าปล่อยให้การคิดเป็นกรงขังหัวใจ
📖 บทความนี้ตัดทอนจากคอลัมน์ #ไกด์โลกจิต ประจำปี 2560 ตอน “5 ข้อคิด เปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนชีวิต”
🧘♀️ อ่านบทความคอลัมน์ไกด์โลกจิต :
https://www.dhammaliterary.org/คอลัมน์-ไกด์โลกจิต/
🦋 เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสะกดจิตบำบัด และการสะกดจิตตนเอง ได้ที่หลักสูตร “ห้องเรียน พลังแห่งจิต”
https://www.dhammaliterary.org/mindpower/