” ฉันได้คุยกับตัวเองมากขึ้นในแง่มุมที่ฉันคิดไม่ถึง และมีรายละเอียดหลายอย่างที่ฉันแปลกใจในตัวเอง ฉันเริ่มลงมือทำบางอย่างหลังการบันทึกที่ฉันบอกว่าฉันจะทำ ฉันแค่ลงมือทำหลังจากมีบางอย่างจุดประกาย แค่ลงมือทำ
.
” ฉันเอาแต่คิดว่า ฉันจะ ฉันจะ ฉันผลัดวันประกันพรุ่ง ฉันเอาแต่มอง คิด แล้วหยุด ไปคิดเรื่องใหม่ ไม่ลงมือทำ ฉันเหมือนเดิม และอยู่ที่เดิมมานานแล้ว เพราะฉันปฏิเสธการเติบโตกับตัวเองมาตลอด
.
” ฉันพบความเป็นไปได้ในความสำเร็จระหว่างบันทึก บางเรื่องสิ่งที่ฉันบันทึก แอบมีแผนขั้นตอนแนบมาให้จากการบันทึก
ฉันจะเริ่มต้นให้รายละเอียด และ to do list ในแต่ละเรื่อง เพื่อเป็นแนวทางให้ฉันลงมือทำ ฉันต้องเป็นนักปฏิบัติให้มาก
ฉันอนุญาตให้ตัวเอง ก้าวข้ามความลังเลใจและเปิดรับสิ่งที่เหมาะสมแก่คุณค่ามาสู่ฉัน
.
” ฉันละทิ้งกระดองเต่าอันเดิมของฉัน เพื่อเดินให้ไกลขึ้น เพื่อเติบโตขึ้น เพื่อบทเรียนบทใหม่ในชีวิต ”
.
คุณชลลดา ( อุ๋ย ) อาชีพ ที่ปรึกษา
.
.
” การเขียนทุกครั้งทำให้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองได้มากขึ้น รวมทั้งได้คำชี้แนะจากครูที่ให้เขียนซ้ำในหัวข้อเดิมเพื่อที่จะเจาะลึกลงไปอีก และมันก็ได้ผลเป็นอย่างดีมากๆ และขอบพระคุณมากนะคะที่ต่อเวลาให้
.
” อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดคือความคิดของตัวเราเอง การปรุงแต่งเรื่องต่างๆ การไม่อยู่กับความจริงแท้ การไม่อยูกับปัจจุบัน ทำให้เราอ่อนแอและหลงทาง
.
คุณบุษกร (บี) อาชีพ พนักงานองค์กรระหว่างประเทศ
.
.
” ขอบแรกที่เจอคือ การก้าวข้ามในการเปลี่ยนแปลงการอบรมในครั้งนี้ จากรูปแบบเก่าสู่รูปแบบใหม่นี้ ขอบที่สองที่ตัวเองพบ คือ ข้อจำกัดในตัวเองที่คิดว่ามันยาก พอทำไปได้สักพักเราก็มักจะถอย หรือเลิกไปซะดื้อๆ แล้วก็กลับมาใช้ชีวิตในแบบเดิมๆ ของเรา และสุดท้ายมันก็จะมีความคิดแว๊บนึงที่คิดขึ้นมาว่าทำไมเรายังไม่ไปไหน ทำไมไม่ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ที่เราชอบละ ถ้าเราทำอย่างต่อเนื่อง และด้วยความตั้งใจ ป่านนี้เราไปถึงไหน แล้วก็มาเฝ้าโทษตัวเองว่าตัวเองไม่ดี ทำไม่ไม่ขยัน ไม่อดทนละ เราไม่ทนทำจนกว่ามันจะสำเร็จ เลิกกลางคันทุกทีเลย
.
” เราต้องมองสิ่งตรงหน้าให้มากขึ้น แต่ต้องมีเป้าหมายนะ แต่อย่าไปกังวลถึงความยาก ความไกลห่างจากความสำเร็จ หรือใช้เวลานานกว่าจะทำได้ เราแค่ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้มันดี ค่อยๆ ทำไป ปรับเปลี่ยนไปทีละเล็กละน้อย ให้มีความอดทน เพียรพยายาม ลงมือทำ ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ ของตัวเอง และทำอย่างต่อเนื่อง สู้ไม่ถอยจนกว่าจะสำเร็จ ”
.
คุณคณัส (ตุ้ม) อาชีพ อิสระ
.
.
” ความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมอบรมกึ่งออนไลน์ ในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ซึ่งตอนแรกก็คิดไว้ว่าจะเป็นลักษณะไหน อย่างไร แต่ด้วยระบบ ที่ออกแบบมาทำให้เราทำออกมาได้ดี ผุ้เรียนเอง ก็ง่ายต่อการเรียนรู้ และสามารถพัฒนาความคิด ความรู้สึก อารมณ์ ได้ดี ทำให้ผู้เรียนสามารถเลือกหัวข้อได้อย่างมีอิสระ และเป็นตัวของตัวเอง ได้เป็นอย่างดี ขอบคุณครูโอเล่ และทีมงานทุกท่านมากค่ะ ที่คิดระบบการเรียนรู้แบบนี้ มีมากค่ะ และประทับใจที่สุดค่ะ
.
” ได้ทบทวนตัวเอง ได้รับรู้อารมณ์ ความรู้สึก และเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในที่เกิดขึ้น เห็นความสงบนิ่ีงภายใน ความกลัว ความกังวลใจ และสามารถปลดปล่อยมันออกมาได้ผ่านการเขียนอย่างอิสระ “ขอบ”ที่ค้นพบ คือ ความกลัว ความไม่ชัดเจน อะไรก็ตามที่เราไม่รู้มาก่อน หรือไม่มีความแน่นอน จะทำให้เราเกิดความกังวลล่วงหน้า และไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ มีความอึดอัด และกลัวว่าจะทำออกมาได้ไม่ดี แต่พอได้มาเขียนใน หัวข้อเสียงอักษร ทำให้รับรู้อารมณ์ ความรู้สึกได้ ถึงความกลัว ความวิตกกังวลจากหัวข้อที่เลือกอย่างอิสระ เห็นปัญหาของตัวเอง ซึ่งอารมณ์ ความรู้สึกที่สัมผัสได้ จะแตกต่างจากหัวข้ออื่นๆ ที่เลือกเขียน
.
” การเขียนข้ามขอบเป็นการเขียน ที่ทำให้เราได้ทบทวนสิ่งต่างๆ ทั้งประสบการณ์ดี และประสบการณ์ที่ยากจะลืม ทำให้เราได้นำมันมาใคร่ครวญใหม่อีกครั้ง ผ่านขั้นตอนการเขียนที่มีอิสระ และเปิดกว้าง จากความคิด และผ่านอารมณ์ ความรู้สึกที่อยู่ภายใน โดยไม่ต้องสนใจ รูปแบบ ตัวอักษร ผิดหรือถูก และไม่จำป็นต้องอ่านได้ หรือสวยงาม มีอิสระที่จะระบายแต่งแต้มสีต่างๆ โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะสวยงานหรือไม่ ทำให้เราได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่เก็บไว้ข้างใน ไหลผ่านมือออกมา ผ่านปากกาที่จรดลงกระดาษ ออกมาเป็นตัวอักษร เราได้ทำความรู้จักและเข้าใจตัวตนของตนเองมากขึ้นผ่านการเขียน อย่างอิสระจากความคิด
.
คุณรวีวรรณ (เจน) อาชีพ อิสระ
.
.
บทเรียนและความประทับใจการอบรม “เขียนข้ามขอบ” ในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต รูปแบบกึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๑
www.dhammaliterary.org