คอร์ส “เขียนข้ามขอบ” ในชุดหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต ทางไกล 4 สัปดาห์ รุ่นที่ 37 ได้จบลงแล้ว มีผู้ผ่านการอบรม 36 คน รวมจำนวนส่งการบ้าน 425 ชิ้น
.
“รู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นคะ ตอนแรกที่ยังไม่อบรมคือเรามักจะมีคำถามในใจที่คิดวกไปวนมาเยอะแยะไปหมด คนรอบข้างพยายามให้กำลังใจและเชื่อมั่น ซึ่งเราก็จริงๆเข้าใจและรู้ว่าคำตอบมันคืออะไรแต่ก็ยังเหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจก้าวข้ามไม่ได้ซะที ระหว่างอบรมได้ทำแบบฝึกหัดมันก็เหมือนการทวนสอบคำตอบ เราได้เห็นสิ่งที่เราคิดผ่านการเขียน ได้อ่านได้เจอคำพูดจากแบบฝึกหัด ให้กระโดด ให้ทะยานออกมาทำให้หลังการอบรมตอนนี้รู้สึกเหมือนมีทริคเล็กๆ ว่าวันหน้าถ้าเจอเหตุการณ์ใดๆ ก็น่าจะกระโดด และข้ามผ่านมันได้คะ
.
“ส่วนตอนนี้เหมือนได้ข้ามมาอีกฝั่งแล้วคะ รู้สึกได้ปลดปล่อยแต่อีกฝั่งก็มีหลายเรื่องให้ต้องปรับต้องเรียนรู้ซึ่งก็อยู่ในกำลังความสามารถที่เราเอาอยู่คะ ตอนนี้ต้องบอกกับตัวเองว่าหัดทำอะไรที่ไม่มีแผนบ้างชีวิตน่าจะสงบและมีความสุขขึ้นเยอะคะ จริงข้อคิดที่ได้มันก็คือหัวข้อในแบบฝึกหัดที่ทางอาจารย์ให้ทำมันตอบโจทย์และเปิดโลกทัศน์ในการคิดได้ดีคะว่ามันมีวิธีนี้อยู่ด้วยนะ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกล้วอะไรละ มีเหตุการณ์ใดไม่พึ่งประสงค์ก็กระโดดออกมา ต้องเชื่อมั่น และเราจะได้ความสงบ กราบขอบพระคุณอาจารย์มากๆคะ”
.
จิรภัทร (อี๊ด) อาชีพ พนักงานบริษัท
.
.
“๑. ฉันประทับใจความใส่ใจและคำแนะนำของครูผู้สอนค่ะ ครูตอบemailสม่ำเสมอและให้คำแนะนำที่น่าสนใจตลอด และมีคำถามกลับมาให้เราค้นหาตัวเองต่อได้อีก
๒. หัวข้อกิจกรรมบันทึกต่างๆ ที่เป็นแบบฝึกหัดให้เราคิดและเขียนบันทึก ก็จัดมาให้หลากหลายมาก ใจของฉันอยากทำทุกหัวข้อเลยนะคะ แต่ติดเรื่องของเวลาและการงานอื่นๆที่รับผิดชอบในชีวิต
๓. ฉันประทับใจมาก จนนำไปเล่าต่อให้เพื่อนๆฟัง และลองให้พวกเขาลองทำด้วย เขาบอกว่า ฉันหากิจกรรมที่เรียนแบบนี้นับว่าคุ้มมาก
.
“ชอบหัวข้อ ๑. มองสิ่งมีค่าอย่างศิลปิน
๒. ลาลั้นล้าลา
๓. ลงลึกในเรื่องราว
๔. เปิดพื้นที่กว้าง
๕.มักคิด
๖. ประหลาดใจเหลือ (ชอบมาก เพราะต้องแก้ไขที่ทำผิดตอนแรก จนกลายเป็นจดจำหัวข้อนี้ได้มากที่สุด ใช้ในชีวิตได้ดีที่สุด)
๗. ฉันกระโดด
๘. การเสพติด (ค้นลงไปให้ลึกเจอต้นเหตุและคลี่คลายใจได้ ฉันรู้สึกว่ามันวิเศษมากค่ะ)
๙. ตัวตนอีกด้าน (สอนใจเรื่องการเปิดใจรับและรู้จักตัวเองในแบบอื่นๆ รู้สึกโชคดีมากค่ะที่ได้ทำหัวข้อนี้)”
.
“การก้าวข้ามขอบของฉัน มันเริ่มจากการต้องเจอขอบซะก่อน
กิจกรรมบันทึกต่างๆ พาให้เราลงลึกไปหาตัวตนของเรา พบความกังวลเรื่องใด ก็เรื่องนั้นล่ะค่ะที่เป็นขอบ
แต่…พิเศษตรงที่กิจกรรมบันทึก พาให้เรามองเห็นสิ่งที่กว้าง และไปได้ไกลกว่าความรู้สึกนึกคิดที่เราเคยยึดไว้ ที่เราเคยเป็นทุกข์ ทำให้เราเปิดใจยอมรับ คำที่ฉันได้จากการเรียนครั้งนี้
~ ไม่กะเกณฑ์
~ รักตัวเอง
~ รับฟังตัวเอง
~ ความรู้สึกยอมรับในตัวตน ทั้งด้านที่ยังไม่เติบโต และด้านที่เข้าใจตน
~ วางใจและเชื่อมั่นในตน
ยังมีขอบให้เราได้ค้นเจอได้อีก ครูบอกว่าเหมือนการเดินทางไปเรื่อยๆ ผ่านภูเขาลูกหนึ่ง ย่อมเจอลูกใหม่
ฉันรู้สึกว่าการเจอขอบนั้นดีจริง ดีใจที่ค้นเจอขอบ แล้วเราจะก้าวได้อย่างเข้าใจเพิ่มขึ้นๆ”
.
สวยใส (ป้อม) อาชีพ อาสาสมัครวารสาร
.
.
“เหมือนมีโค้ชส่วนตัวอยู่กับเรา เพราะทุกครั้งที่เราส่งการบ้านไป ครูจะมีข้อแนะนำ ข้อเสนอแนะ และมองเห็นจุดที่เราต้องพัฒนาต่อไป ซึ่งทำให้เรากลับมามองตัวเองในจุดที่ครูแนะนำ และส่งเสริมจุดแข็งของเราที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นต่อไป ชอบอ่านบทความที่ครูส่งมาให้มันเหมือนได้รับพลังงานดีๆกลับมา
.
“มองสิ่งที่มีค่าอย่างศิลปิน เป็นหัวข้อแรกที่ทำส่งครู แล้วเหมือนเปิดเจอหีบทองคำฝังอยู่ในตัวเราที่เราเองก็นึกไม่ถึง คือ การดูแลความคิดเรื่องการเปรียบเทียบกับคนอื่น หาความมั่นใจจากสิ่งที่เราทำและใส่ใจในคุณค่าของสิ่งที่เราเป็น
.
“เทคนิคการเขียนโดยก่อนเขียนให้หลับตา ผ่อนคลาย แล้วเขียนแบบไม่วางปากกาในเวลาที่กำหนด และในบางครั้งเพียงเราเติมคำบางคำลงไปมันทำให้มุมมองของเราเปลี่ยนไปได้ โดยเฉพาะเมื่อเรากลับมาอ่านซ้ำที่เราเขียน
.
“ได้รับความมั่นใจมากขึ้น เพราะเห็นตัวเองได้ชัดเจน อย่างเรื่องเปรียบเทียบกับคนอื่นและไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่มี มันเหมือนเป็นตะกอนที่นอนก้นในใจของเราอยู่แล้ว แต่เมื่อเราเขียนข้ามขอบมันสะท้อนตัวตนของเราได้อย่างดี เรายอมรับมันและต้องการที่จะพัฒนาตนเองต่อไป ขอบคุณครูโอเล่ที่คอยแนะนำและสนับสนุนลูกศิษย์”
.
รุสดา (ดา) อาชีพ พนักงาน
> บทเรียนและความประทับใจ “เขียนข้ามขอบ” รุ่นที่ 37 : http://bit.ly/2KVCqCf
> อ่านรายละเอียดการอบรม “เขียนข้ามขอบ” : www.dhammaliterary.org/เขียนข้ามขอบ/
> ศึกษาชุดหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต : www.dhammaliterary.org/เขียนเปลี่ยนชีวิต/