ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๕)

 

“เข้าเรียนคอร์สนี้เพราะรุ่นพี่ชวนมา พี่เล่าถึงคอร์สภาวนาที่เรียนมาก่อนหน้านี้ว่าทำให้เธอได้ค้นพบอะไรบางอย่าง ซึ่งมันดีมากสำหรับเธอ ก็เลยตกลงใจสมัครเรียนด้วย แรกๆ ทำด้วยความรู้สึกโลภว่า อยากทำเยอะๆ หลายๆ หัวข้อ แต่พอครูตอบกลับมา ไม่เน้นปริมาณ เน้นคุณภาพ อยากให้ค่อยๆทำ สังเกตตัวเองดีๆ จึงเปลี่ยนมาทำเมื่อรู้สึกอยากทำ ค่อยๆเขียน ให้เวลาอยู่กับตัวเอง หัวข้อบันทึกหลังๆ มักย้อนนึกถึงเรื่องราวหลากหลายที่ผ่านมาของชีวิต ได้เห็นตัวตนของตัวเองในหลายแบบ บางเรื่องราวนึกว่าลืมไปแล้ว จริงๆ ก็ยังอยู่ที่เดิม คล้ายๆกำลังรอเวลาให้เรากลับไปสงบสุขกับเรื่องราวนั้น นึกขอบคุณตัวตนที่ตัวเองเป็นในแต่ละช่วงเวลา ทุกสิ่งที่เป็นมา ดีงามที่สุดแล้ว ^^
.
“เห็นตัวเองชัดเจนขึ้นในหลายๆ ด้าน ได้รู้ว่าตัวเองแสดงตัวตนด้านไหนอยู่มากที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา ฉันต้องเข้มแข็ง จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เมื่อเราอนุญาตให้ตัวตนแสดงออกอยู่ด้านเดียว และปิดการรับรู้ตัวตนอื่นๆ ก็เหมือนกับว่าเราปฏิเสธที่จะยอมรับตัวเอง มันก็จะกลายเป็นความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจ และอาจจะหลงลืมการดูแลตัวเอง ความต้องการของตัวเอง
ชีวิตเสียสมดุล การได้เป็นตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ช่วงเวลาใด สถานการณ์อะไร มันคือ ดีที่สุดแล้ว แค่เรียนรู้ รักษาสมดุลไว้ ไปต่อได้ ก็พอแล้ว
.
“จงเป็นตัวของตัวเอง และอนุญาตให้คนอื่นเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน รับรู้ ไม่ต้องวิพากษ์ วิจารณ์ ตัดสินอะไรใคร แม้แต่ตัวเอง เพราะบางที ตัวเอง เรายังรู้จักไม่หมดทุกตัวเลย แล้วจะไปรู้จักคนอื่นดีกว่าตัวเขาได้ไง”
.
คุณยุพาภรณ์ (ยุ) อาชีพ พนักงานบริษัท
.
.
“เป็นการเขียนบันทึกที่มหัศจรรย์มาก เพราะได้ทั้งน้ำตา ความน่ารัก ความอึดอัด ความสนุก ที่สำคัญหลังบันทึกรู้สึกมีความสุข ทั้งได้รับและได้แผ่ความรักความเมตตาความปรารถนาดี และการอภัย ชอบหัวข้อ ฉันเหมือนเด็ก หัวข้อนี้ทำให้รู้สึกถึงความมีอิสระ ใช่ มันหายไปไหน หายไปตั้งแต่เมื่อไร แต่พอได้บันทึก ความเป็นอิสระ ความสดใสเริงร่า ก็กลับมา แท้จริงเขาไม่ได้ไปไหนเขาอยู่กับเราตลอดเวลา
.
“เราเป็นมากกว่าที่เราคิด เราเป็นมากกว่าที่เราเห็น หลายๆพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ก็อยู่ในตัวเรา ถ้าเราทำสิ่งใดอย่างมีสติ มีสมาธิ โอกาสผิดพลาดก็น้อย ถ้าเราทำสิ่งใดด้วยความสุขเราจะสนุกกับมัน ในตัวเรานี้มีสิ่งมหัศจรรย์ที่บางครั้งก็หลงลืม เรามักสร้างกรอบครอบตัวเองไว้ หรือบางทีก็อนุญาตให้บุคคลอื่นมาล้ำเส้น
.
“จะฝึกใช้สมองข้างขวาให้มากขึ้น เขียนบันทึกให้มากขึ้น อยู่กับตัวเองและฟังเสียงตัวเองให้มากขึ้น จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ สร้างอารมณ์การเป็นเด็กน้อยบ่อยๆ ให้อภัยและวางอย่างง่ายดาย”
.
คุณขจรขวัญ (ขวัญ) อาชีพ นักธุรกิจ
.
.
“ประทับใจกับการเขียนที่ทำให้เราใส่ใจรายละเอียดของตัวเองมากขึ้น เข้าใจและยอมรับมันได้ดีกว่าก่อน ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ลูกแสดงออกมา แล้วเราพยายามผลักออกไป กลับเป็นการเรียกให้เราใส่ใจตัวเรา รักตัวเรา ยืดหยุ่นให้ตัวเรา และเราก็จะยอมรับและใส่ใจในมุมนั้นของเขาได้ดี ประทับใจกับการที่ได้รู้ และมันชัดเจน เมื่อเราได้เขียนออกมา
.
“ชอบหัวข้อสายธารชีวิต ได้มีโอกาสย้อนไปเห็นตัวเองที่ผ่านมา เห็นความเจ็บปวดของตัวเอง และก็เห็นสิ่งที่เป็นในวันนี้ พอเห็นเหตุก็เห็นภาพสะท้อนปัจจุบัน ที่เราก็ไม่ต่างไปจากสิ่งที่เราได้รับ และกำลังจะส่งต่อให้ลูก หัวข้อนี้เป็นจุดที่ทำให้เราพินิจตัวเองนานขึ้น เห็นภาพสะท้อนออกมามายก่อน และเมื่อครูแนะนำให้เขียนดูแลตัวตนที่เปราะบาง ซึ่งก็ต่อยอดได้รับทราบและเข้าใจความรู้สึกของตัวเองจริงๆ
.
“ในการอบรมนี้เห็นตัวเองชัดในเรื่องการยอมรับตัวเอง และรักในตัวเองในทุกมิติ คอยแต่หาข้อไม่ดีและปรับปรุงให้ดีขึ้น ตัวเองจึงตึงไปหมด ทั้งๆ ที่มีหลายสิ่งที่ทำได้ดีก็ไม่เคยให้กำลังใจตัวเอง การกดดันตัวเอง ขาดความยืดหยุ่นให้ตัวเอง พอเราผ่อนลง เราสบายขึ้น สิ่งต่างๆ ก็ยอมรับได้ง่ายขึ้นค่ะ”
.
คุณรัตนติยา (เปรี้ยว) อาชีพ แม่บ้าน
.
.
บทเรียนและความประทับใจจากการอบรม “เขียนค้นตน” ในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๘ การเขียนบันทึกเชิงจิตวิทยาเพื่อพัฒนาการรู้เท่าทันและละวางตนของผู้เขียน โดย ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ www.dhammaliterary.org