บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๑)

16105782_1303460549719309_2701321746025317465_n

บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) #เขียนเปลี่ยนชีวิต

” ทบทวนบันทึกที่ผ่านมา และสรุปการอบรม ทั้งความรู้สึก บทเรียน และการก้าวผ่านต่างๆ

ในทุกบันทึกที่เขียนนำพาเราค่อยๆ พบกับแสงสว่าง ทำให้เรามองตัวเองได้ชัดเจน เห็นทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี ได้พบกับคุณค่าในตัวเราเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากมองผิวเผินแต่ละหัวข้อไม่น่าจะมีสิ่งเชื่อมโยงกันนัก แต่พอบันทึกไปเรื่อยๆ กลับพบว่าทุกหัวข้อมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงร้อยรัดเป็นหนึ่งเดียวกัน ความทุกข์จากบันทึกหนึ่งสู่การคลี่คลายอีกบันทึกหนึ่ง สลับกับคำถามประจำวันที่เป็นเสมือนไกด์ไลน์สำคัญช่วยกระตุกความคิดให้หันกลับมาทบทวนและสังเกตสิ่งรอบตัวในช่วงเวลานั้น

บันทึกที่ถือว่าเป็นการก้าวข้ามออกจากไข่แดงคือ บันทึกหัวข้อ “ฟังใจ” นับเป็นประตูบานใหญ่ที่พาเราไปสู่การคลี่คลายความทุกข์ในหัวข้ออื่นๆ เราจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้หากเราไม่กลับมาฟังเสียงหัวใจตัวเอง ตราบใดที่เราละเลยหัวใจตัวเองเราจะเป็นทุกข์ จะสับสนและรู้สึกขัดแย้งภายในตลอดเวลา และกว่าจะได้ยินสิ่งที่หัวใจอยากบอกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ครูมีวิธีการที่แยบคายมากทำให้เราสามารถเผชิญหน้ากับหัวใจตัวเองอย่างน่าอัศจรรย์ ระหว่างที่ทำบันทึกทั้งตื่นเต้น ดีใจ เศร้าใจ สงสาร ประหลาดใจ ในจินตภาพที่เราสัมผัสได้มีทั้งภาพและเสียงชัดเจนมาก ราวกับกำลังดูละครเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

หัวใจที่อยู่กับเรามาทั้งชีวิตแต่เรากลับละเลยเขา ไม่สนใจสิ่งที่เขาต้องการสื่อสาร เมื่อกลับมาฟังเสียงหัวใจอีกครั้งเราได้ยินในสิ่งที่เราไม่คาดคิดมากมาย จนตัวเองรู้สึกหลงรักหัวใจตัวเองอย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ได้ตะกอนความคิดจากหัวข้อบันทึกนี้เยอะมาก เช่น “เราอาจจะดูละครกันมาหลายเรื่อง แต่หารู้ไม่ว่าละครที่น่าติดตามที่สุดคือชีวิตของเราเอง” “ถ้าเราไม่ตกหลุมรักตัวเองก่อน แล้วใครจะมาตกหลุมรักเรา” เป็นต้น

เมื่อประตูหัวใจเปิดออกแล้ว ก็ดูเหมือนว่าบันทึกหลังจากนั้นเป็นการพิสูจน์ความแข็งแรงของหัวใจ พิสูจน์ความรักของผู้ปกป้อง และค้นพบคุณค่าภายในตนเอง แต่ละหัวข้อบันทึกในช่วงหลังนั้นต้องทำงานกับตัวเองหนักมาก เรียกว่าทำสารพัดวิธีเพื่อให้ได้คำตอบ ให้ปัญหานั้นคลี่คลาย ให้ร่องรอยเจ็บปวดในอดีตจางลง เราจำเป็นต้องเดินย่ำผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นซ้ำอีกหน กลับไปร้องไห้ เสียใจ ซาบซึ้ง ดีใจ กลับไปเพื่อทบทวนและเขียนมันลงไปอย่างละเอียด ซึ่งทำให้เราได้เห็นมุมมองเหตุการณ์เหล่านั้นใหม่ด้วยสายตาของเราในปัจจุบัน กระทั่งสามารถก้าวข้ามอดีตอันขื่นขมมาได้

การเขียนแต่ละหัวข้อที่บันทึกมีสิ่งที่ได้เรียนรู้ เช่น สัมผัสความดีงามจากเด็กน้อยภายใน ความเข้มแข็งจากผู้ปกป้อง ความนุ่มนวลและกล้าหาญจากหัวใจ ได้ฝึกที่จะยืดหยุ่นและผ่อนคลายให้เกิดความสมดุลในชีวิต หัดเปิดใจให้กว้าง รับฟังเสียงเล็กๆ ที่หลากหลายภายในตนเอง เรียนรู้ที่จะใหอภัยทั้งกับตนเองและผู้อื่น และยอมรับ มองเห็นคุณค่าภายในของตนเองทุกๆ ด้าน รักตัวเองได้อย่างเต็มหัวใจ

การเขียนสามารถเยียวยาเราได้จริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นครูมีส่วนสำคัญอย่างมากในการสะท้อนตัวเราอีกด้านหนึ่ง ครูทั้งให้กำลังใจ ทั้งผลักดัน ชี้แนะแนวทางด้วยกลวิธีต่างๆ จนเราสามารถเข้าใจตัวเองได้ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม

———————–
มือข้างไม่ถนัดอยากเขียนบ้าง

ช่วงเวลา ๕ สัปดาห์ที่ผ่านมาการเขียนบันทึกทำให้เรารู้จักตัวเองและเข้าใจตัวเองได้มากกว่าชีวิตที่เราผ่านมาทั้งหมดเสียอีก เมื่อก่อนเราเดินบ้าง วิ่งบ้าง หกล้มบ้าง แล้วเราก็ลุกขึ้นเดินต่อไปโดยไม่เคยหันกลับมามองเส้นทางที่เราผ่านมาว่า หินก้อนไหนทำเราหกล้มเป็นแผล หลุมบ่อไหนทำเราเสียเวลา ต้นไม้ดอกไม้อะไรทำเราสดชื่น แต่คอร์สนี้ทำให้เราเห็นคุณค่าของช่วงเวลาเหล่านั้น

ขอบคุณสำหรับการดูแลใส่ใจอย่างดีเยี่ยมของครูค่ะ
ไข่มุก”