บทเรียนและความประทับใจ เขียนภาวนา 2560 (4)

 

 

” การได้รู้จักวิธีภาวนาแบบใหม่ผ่านการใช้ลมหายใจกำกับการเขียนนั้น ไม่เพียงเปิดโลกทัศน์แห่งการภาวนาผ่านการเขียน ยังทำให้จิตได้ตระหนักรู้ถึงการมีมีสติอยู่กับลมหายใจและการทำกิจวัตรประจำวันมากขึ้นตามไปด้วย ประกอบคำคำแนะนำของครูโอเล่ที่มีความเข้าใจในสภาวะจิตและการภาวนาอย่างลึกซึ้ง จึงทำให้ผู้เรียนได้ทั้งรับทั้งแง่คิดในการพัฒนาจิตและการฝึกภาวนาได้อย่างตรงจริตและตรงประเด็น ได้ผลลัพธ์เป็นความสุขสงบอิ่มเอมใจ รวมถึงการเข้าใจ เห็นตัวเองเป็น และวางตัวเองได้ และที่สำคัญสุดคือ เกิดปัญญา เมื่อใจได้วาง และว่างพอ
.
” ได้ฝึกการลดอัตตา ลดความสงสัย ในการวางทุกอย่างที่เคยฝึกมา และลองมาฝึกตามวิธีใหม่ที่ครูแนะนำ อย่างเปิดใจ เข้าใจ และยอมรับ และลองดูผลที่ประจักษ์ได้เองแก่ใจตน เพื่อได้ฝึกที่จะเข้ามารู้ ดูใจตัวเองตามความจริงอย่างตรงไปตรงมา ยอมรับ และเข้าใจ เพื่อที่จะได้รู้ว่าแล้วเราจะปรับปรุงแก้ไข หรือเรียนรู้การวางใจได้อย่างไร ผ่านการเขียน ที่ไม่ได้เตรียมอะไรล่วงหน้า แต่ปล่อยให้ความคิดที่ผุดขึ้นมาในจิตภายใต้การกำหนดผ่านหัวข้อกิจกรรม และถ่ายทอดผ่านการเขียนที่มีลมหายใจกำกับอีกที จึงทำให้ตัดความฟุ้ง ปรุงแต่งออก กรองให้เหลือแต่สิ่งที่ใจคิดตามจริง จึงได้เห็นตัวเองตามความเป็นจริงของมันอย่างตรงไปตรงมา
.
” ได้เห็นตัวเองมากขึ้น รู้จักยอมรับตัวเองตามความเป็นจริง และกระจ่างชัดขึ้นในการเห็นความเป็นไปในปัจจุบันของตัวเอง และทางที่จะนำไปสู่เป้าหมายชีวิต และพัฒนากายใจของตัวเองมากขึ้น รู้จักการใช้ชีวิตให้ช้าลงผ่านการใช้ลมหายใจกำกับการเขียน การรู้จักมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะมากขึ้น
.
” ก่อนจะคิดว่าเราเป็นใคร กำลังทำอะไร และจะไปทางไหนนั้น การ “เห็นตัวเอง” ตามความเป็นจริงและตรงไปตรงมาให้ได้ก่อนอย่างแรกนั้นสำคัญมาก เพราะเมื่อเราเห็นตัวเอง ก็จะเข้าใจตัวเอง วางใจตัวเองเป็น เห็นผู้อื่น เข้าใจผู้อื่น และเข้าใจโลก ก็จะช่วยให้เราเกิดปัญญาในการรู้ว่า สิ่งที่สำคัญและควรเลือกทำคืออะไร และทางที่ควรเลือกให้กับชีวิตนั้น คือทางไหน ให้ทั้งกายและใจได้มีความสุข และเติบโตภายในได้อย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากตัวเราเอง
.
” จะนำวิธีเขียนภาวนานี้ รวมถึงการรู้ลมหายใจ รู้เนื้อรู้ตัว ไปฝึกฝนต่อเป็นประจำ ให้ใจสามารถอยู่กับขณะปัจจุบันได้มากขึ้นเรื่อยๆ พบกับความสุขภายในมากขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น และวางใจเป็น เห็นอัตตาตัวเอง และรู้จักลดละอัตตาตัวเองลงให้ใจได้สงบเย็นเป็นมากขึ้น ”
.
คุณภัทริน (พราว) อาชีพ พนักงานเอกชน
.
.
” การอบรม หลักสูตรกึ่งออนไลน์ นี้คือครั้งแรก สำหรับเรา(ผ่านการแนะนำจากเพื่อนรุ่นพี่) ก่อนเข้าอบรม เรายังหวั่นใจอยู่ไม่น้อย ว่าเราจะเหมาะกับการเรียนแบบนี้มั้ย? แต่ด้วยหัวข้อหลักสูตร “เขียนภาวนา กำกับใจ” เป็นสิ่งที่สะดุดใจเรา จึงลองสมัครเรียนดู เมื่อเริ่มเข้าสู่การเรียน สิ่งสำคัญในคอร์สกึ่งออนไลน์ มอบให้คือ
.
” คุณครูผู้สอน นั้นมีศักยภาพอย่างยิ่ง ในการใส่ใจถ่ายทอด และ นำพาผู้เรียน เข้าถึงหัวใจของการ”เขียนภาวนา”…
คุณครูมีความเชี่ยวชาญ ในการพาเราผู้เขียนภาวนา ลงลึก ต่อบันทึกของตน (โดยที่ครูและผู้เขียนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน) ผ่านการบ้านที่ส่งครู อย่างเข้มข้น และชวนเราผู้เขียน สะท้อนตนเอง ซ้ำ…ในหัวข้อเดิม ที่เรายังมองตนเองไม่แตกฉาน…จนเราสามารถมองเห็น ตัวเราเล็กๆ ในที่ซ่อน ด้านลึก – ด้านมืด ที่เราเองขุดหลุมฝังตัวเองไว้ ครูทำหน้าที่ช่วยสะท้อน อีกมิติหนึ่ง ทำให้เราเกิดการเรียนรู้ อย่างเข้าใจ ในมุมมองทุกรอบด้าน เสมือนนักสำรวจ “นักเดินทางภายใน” โดยมี เข็มทิศหัวใจ ของตัวเราเป็นผู้นำทาง
.
” การกำหนดหัวข้อ ในคอร์ส แต่ละระดับ นั้น สำคัญมาก…
หัวข้อที่เขียน ในแต่ละระดับ เป็นเครื่องวัด ความเข้าใจของผู้เขียน มีการเลื่อนระดับการเขียน โดยภายในระดับการเขียน มีหัวข้อหลากหลาย ที่ เราสามารถเลือกเขียนได้ ทุกๆหัวข้อ ผ่านการคัดสรร กลั่นกรองไว้อย่างดีแล้ว
.
” “หัวข้อ” คือ กรอบความคิด ที่กำหนดเราให้มีFocus ในขณะเดียวกัน ก็ให้ความเป็นอิสระกับเราผู้เขียน เห็นธรรมชาติภายใน เชื่อมโยง ให้เราใส่ใจตัวเอง โดยเรา คือ ผู้สะท้อนคนเองผ่านบันทึก แยกเรา(ตัวปลอม)ออก ผ่านกระบวนการ ลมหายใจ…กำกับใจ..เชื่อมโยงความรู้สึก ดำดิ่ง ภายใน จนสามารถแย้มกำแพงประตูแห่งจิต(จิตใต้สำนึก)ออกได้ อย่างที่เราผู้เขียนก็ Amazing กับการเรียนรู้ครั้งนี้เช่นกัน.
.
” ชอบหัวข้อ”อารมณ์แห่งใจ” สามารถพาเราผู้เขียนย้อนเวลาไป สังเกต ความทรงจำบางอย่าง ที่เราอาจลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า ยังคงอยู่ ตกตะกอนติด คราบลึกฝังแน่น เหมือนอุปสรรค(ด้านลึก) ที่เคลือบติดผนังแห่งจิต เป็นเครื่องกีดขวางการพัฒนาชีวิตภายใน การเขียนภาวนาหัวข้อนี้ พาเรา ลอกเปลือกหุ้มความรู้สึก เป็นบทเรียนรู้ ผ่านลมหายใจ..ออก..ยาวพอที่จะผลักประตูแห่งจิตเปิดออก เห็นที่ว่างภายในมีแสงสาดส่อง เสียงประตูเปิดออกอย่างบางเบา
.
” คอร์สนี้ พาเรา ฝึกพิจารณา ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ด้วยความซื่อสัตย์ ความรู้สึกตัว ในลมหายใจ มีเรื่องราวให้เรา สังเกตมอง อย่างเป็นกลาง ได้อย่างดี พาเราฝึก ลด – ละ อารมณ์เหตุแห่งความทุกข์ได้ ผ่านอักษร ที่เขียนได้ อย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมเราลงสู่ใจกลาง ความรู้สึกภายใน เรียนรู้การฟังเสียงธรรมชาติภายใน(Inner Voice) ที่เรา ไม่เคยได้ยิน…ผ่านใจ เพื่อพาตัวเราเป็นผู้ฟัง และให้โอกาสตัวเรา เริ่มต้นใหม่ ฟังว่า เราต้องการสิ่งใดและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ได้ในทุกๆวัน
.
” การเรียนรู้คอร์สนี้ ทำให้เราย้อนกลับมาให้เวลา ใส่ใจตัวเอง ฝึกเป็นเพียง”ผู้สังเกต” และ เป็น”ผู้ฟัง”ตัวเราอย่างเข้าใจ ทำให้เราสามารถก้าวข้ามความไม่รู้ ก้าวข้ามความกลัว ให้อภัยตัวเรา ให้โอกาสตัวเรา และ โอบกอดตัวเราด้วยความรู้สึก อย่างเข้าใจ จนสามารถพาตัวเราเข้าถึง พื้นที่ “ขุมทรัพย์ภายใน” เรียนรู้ เพื่อการปรับปรุงซ่อมแซม(บ้านภายใน) เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยให้ชีวิตด้านใน ได้ตื่นขึ้น รับรู้ พัฒนาชีวิต อย่างเบิกบานในแต่ละวัน ด้วยความไม่ประมาทต่อโลกใบนี้.
.
” ขอขอบคุณขอบคุณคอร์สการเรียนรู้ดีๆแบบนี้ ที่ทำให้เรา มีเวลาทบทวนตัวเราเอง ผ่านการเขียน ทุกหัวข้อ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่เรามีลมหายใจ อยู่กับปัจจุบัน ทุกขณะตัวอักษร มีความหมาย มีคุณค่า ด้วยเราเขียนทุกๆ ลมหายใจออก… ตระหนักรู้”คุณค่า ของเวลา” (กาลเวลาภายใน) เพื่อบ่มเพาะ พัฒนาปัญญา ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เพื่อพาตัวเรา สำรวจ ตรวจสอบ ทำความเข้าใจ ด้วยเข็มทิศหัวใจ ในเรา เป็นการเชื่อมโยงต่อยอดธรรม แห่งสติปัฏฐานภาวนา เสมือนของขวัญ อันล้ำค่า ที่เรามอบให้แด่ตนเอง เพื่อส่งท้ายปีเก่า๒๕๖๐ นี้”
.
คุณณัฐฐิญา (มด) อาชีพ ครูโยคะ
.
.
บทเรียนและความประทับใจจากการอบรม “เขียนภาวนา” ในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต โดย ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์
.
ติดตามการอบรมและบทความ ได้ที่ www.dhammaliterary.org