บทเรียนและความประทับใจจากการอบรม “เขียนภาวนา”
ในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๗
⭐ ⭐ ⭐
” ประทับใจในการเรียนรู้เทคนิคการเขียน ที่ทำให้ตัวเองมีสติมากขึ้น ประทับใจในวินัยของตัวเองที่แม้เดือนนี้จะมีงานยุ่ง แต่ก็เขียนภาวนาตามการบ้านที่ได้รับมอบหมายอย่างสม่ำเสมอ แม้จะได้ทีละนิดละหน่อย ประทับใจในหัวข้อการเขียน ที่ทำให้ตัวเองได้เห็นได้เรียนรู้สิ่งสำคัญที่หลายครั้งไม่ได้มองถึงความสำคัญ ประทับใจในความเอาใจใส่ของอาจารย์ ที่ช่วยถามคำถาม กระตุ้นให้คิดให้ได้ข้อสรุปด้วยตัวเอง และให้คำแนะนำต่อยอดความคิด ต่อยอดหัวข้อในการเขียนบันทึก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เข้าอบรม
.
” ชอบหลายหัวข้อ เช่น ไม่ใช่ตัวตน ทุกข์ พลัดพรากและไม่ยั่งยืน และไม่เสมอไป เพราะทำให้ได้เรียนรู้หลักธรรมะที่เป็นธรรมดาธรรมชาติ โดยโยงเข้ากับตัวเองอย่างแท้จริง ทำให้ได้เห็นว่าธรรมะคือธรรมดา คือธรรมชาติ เป็นเรื่องที่อยู่ในตัวเราและรอบๆตัวเรา ถ้าเราเข้าใจหลักธรรมะธรรมดานี้ เราจะเข้าใจตัวเองและเข้าใจสิ่งต่างๆรอบตัว
.
” อันดับแรกเลยคือได้ฝึกวินัยให้ทำการบ้านเขียนภาวนาอย่างสม่ำเสมอภายในเวลาจำกัด และเต็มไปด้วยภาระทางการงานที่ค่อนข้างมากในเดือนนี้ ทำให้ได้เห็นว่าทำอย่างสม่ำเสมอทีละนิดทีละหน่อก็สำเร็จตามเป้าหมายได้ และได้ฝึกสติตนเองสม่ำเสมอ ได้ให้สิ่งดีๆกับตัวเองจากความสงบในช่วงระหว่างการเขียนภาวนา การจะเข้าใจหลักธรรมะด้วยใจที่เห็นจริงจะทำได้ต่อเมื่อมีสติและใจสงบ ไม่มีอารมณ์ ความคิด หรือความรู้สึกใดมากวนใจขณะนั้น ซึ่งสติจะเกิดขึ้นได้เมื่อเรารู้สึกตัวรู้สึกใจ ดังเช่น ขณะที่เขียนภาวนา ที่มีสติรับรู้การเขียนให้สอดคล้องกับลมหายใจ ฉะนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ใดกับกายกับใจ จะกลับมารู้สึกตัว รู้ลมหายใจ เพื่อให้มีสติ ให้ใจสงบเพียงพอ จะได้เข้าใจหลักธรรมะธรรมดาของสิ่งนั้นๆให้ใจทุกข์น้อยที่สุด”
.
คุณธนิกา (มด) อาชีพ รับราชการ
.
.
” การเขียนขณะที่หายใจออกเท่านั้น ทำใหเรียนรู้ในการที่จะหยุด หรือ ช้าลง เหมือนเป็นการให้เวลากับเรื่องต่างๆ ที่เรากับกำลังทำอยู่ หรือ กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งการหยุด หรือ ช้าลง ทำให้เราได้ใช้เวลาในการไตร่ตรองมากขึ้น ได้ฝึกการพูดคุยกับตัวเองผ่านการเขียน มีการเว้นจังหวะสำหรับการเขียนในลมหายใจออกถัดไปจุดนี้เหมือนให้โอกาสตัวเองได้ไตร่ตรองก่อนเขียนออกมา ได้ฝึกที่จะอยู่กับลมหายใจตัวเองมากขึ้นไม่ใช่แค่ตอนนั่งสมาธิเท่านั้น
.
” ที่ผ่านมามัวแต่กังวลกับเรื่องต่างๆ จนขาดสติบางเรื่องมาก บางเรื่องน้อย การเขียนภาวนาทำให้รู้ว่าตัวเองลืมลมหายใจของตัวเองไป และ เห็นว่าพอกลับมาอยู่กับลมหายใจของตัวเองในยามที่เขียนในหัวข้อที่เลือกมา ทำให้พอจะเห็นว่าเพราะอะไรเราถึงยังไม่บรรลุผลอย่างที่เราต้องการ”
.
คุณอาภรณ์ (แหม่ม) อาชีพ พนักงานบริษัท
.
.
” ประทับใจในกระบวนการ รู้สึกยาก ฝืน กับการเขียนเฉพาะลมหายใจออก ในบันทึกแรก แต่พอเริ่ม คุ้นชิน และใส่ใจแต่เฉพาะงานที่จะทำตรงหน้า ก็ไหลลื่นขึ้น และประทับใจครู กระบวนกร ที่ออกแบบ กระบวนการ ชื่นชมในความอดทนที่ต้องเผชิญความท้าทาย ความไม่เข้าใจ สัญญาเก่า อัตตาตัวตน ของผู้เรียน , ชื่นชมตัวเอง เมื่อมีหัวข้อที่ท้าทาย เพราะตรงกับความรู้สึก ที่อยากรู้ อยากผ่าน ไปให้ได้ ในขณะนั้น แม้จะไปไม่สุด แต่ก็รู้สึกดีที่มีความกล้า (แม้จะมีบางขณะปนกลัว) แต่อย่างน้อยยอมเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลอง ได้เผชิญ ชอบหัวข้อบันทึกชุดหลังๆ ที่เริ่มตั้งแต่หัวข้อ ภาวนา รู้สึกถึงสภาวะจิตใจ ที่เหมาะกับ วัตถุประสงค์การเรียนในคอร์สนี้จริงๆ เข้าใจความหมายของคำว่า ภาวนา ผ่านการปฏิบัติมากขึ้น
.
” ได้ฝึกฝืนกิเลส ฝืนความเคยชิน ได้ลดกิเลส อัตตา ได้เห็นเหตุ ได้รู้จักยอมรับตัวเองในฐานะปุถุชนคนหนึ่งมากขึ้น ได้ทำให้จิตใจคลาย แม้ในภาวะยากที่จะคลาย ได้สักแต่ว่ารู้ตามความเป็นจริง ได้รู้สึกเข้าถึงพื้นที่ความว่าง ยามคลายและไกลจากความคิดแทรก ได้ฝึกทำในสิ่งที่ยาก แต่จริงๆก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ เกิดปัญญาเห็นเหตุ เห็นผล จากบางบันทึก เห็นว่า ภาวนาที่แท้ ไม่ใช่ เพื่อเอาดี แม้ว่า ภาวนาจะแปลโดยศัพท์ว่า ทำให้มีทำให้เจริญขึ้น จริงๆแล้วคือการขัดเกลาจิตแบบหนึ่ง เพื่อให้จิตอยู่ในสภาวะทีสามารถรับสิ่งที่ละเอียดขึ้น หรือรับรู้ตามความเป็นจริงได้มากขึ้น (ไม่ไปหลงหรือจมกับการปรุงแต่งมากหรือบ่อยอย่างที่จิตที่ไม่ได้ฝึกมักเคยชินที่จะไหลไปรวมแบบนั้น)
.
คุณ Jinnutcha (leng) อาชีพ พนักงาน
.
.
? บทเรียนและความประทับใจจากการอบรม “เขียนภาวนา” ในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๗
.
? อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม :
www.dhammaliterary.org/เขียนภาวนา/