รายชื่อผู้ผ่านการอบรม : “เขียนภาวนา”
ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๓๒
การเขียนเพื่อเจริญสติ ขัดเกลาใจ และพิจารณาธรรม ๔ สัปดาห์ กับครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์
ส่วนหนึ่งของบทเรียน
“รู้สึกขอบคุณตัวเองที่พาให้มาเจอคอร์สอบรมการเขียนนี้และขอบคุณครูโอกาสที้ให้โอกาสเปิดคอร์สนี้และให้คำแนะนำในการเขียนภาวนาที่ผ่านมา ได้กลับเข้ามาทบทวนและเห็นคุณค่าหัวใจตัวเองมากยิ่งขึ้น
.
“ชอบหัวข้อ ทางสายกลางรู้สึกตระหนักเห็นคุณค่าและเคารพหัวใจตัวเอง ได้ฝึกกลับมาอยู่กับลมหายใจของปัจจุบัน เห็นคุณค่าของเวลาในปัจจุบันเรียนรู้บทเรียนจากอดีตที่ผิดพลาดมาสอนตัวเอง ช่วยพัฒนาใจให้เข้มแข็งและอ่อนโยน ได้มองเห็นสิ่งต่างอย่างที่เป็นไม่เอาความคิดเราไปตัดสินโทษใครๆ ยอมรับความจริงที่เข้ามาในชีวิตเพราะเราเลือกของเราเองทั้งดีและไม่ดีมีทั้ง 2 ด้าน ใจค่อยยอมรับและเห็นคุณค่าตัวเองคะ
.
“ได้ฝึกฝืนจากความเคยชินเดิมๆ ที่ใจร้อนทำไรรวดเร็ว มันมีขัดใจช่วงเขียนแรกๆพอเขียนไปใจปรับไปได้เป็นเบาสบายไม่กดดันใจตัวเองรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และเห็นคุณค่าของลมหายใจที่มีอยู่ในปัจจุบัน รู้สึกขอบคุณและกราบหัวใจตัวเองได้ เห็นค่าตอนนี้เวลานี้เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดมากๆเลยคะ”
.
จากคุณสุภาวดี (เอ๋) อาชีพ กิจการส่วนตัว
.
.
“การมีสติสมาธิเขียนหนึ่งคำหนึ่งลมหายใจ เป็นสิ่งที่ดึงเราให้อยู่กับปัจจุบัน ได้รับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นแต่ละขณะ พร้อมเริ่มต้นใหม่เสมอ ปล่อยวางความกังวล ความคิด ด้วยการรับรู้ แล้วเริ่มต้นใหม่กับลมหายใจและสิ่งที่อยู่กับปัจจุบัน ด้วยความเพียรในการทำหน้าที่ปัจจุบันให้ดีที่สุดพร้อมสติและสมาธิ
.
“ทำให้ได้ฝึกอยู่กับปัจจุบันจริงๆ ขณะเขียน. เขียนสิ่งที่รู้สึกในปัจจุบัน มีจังหวะหยุด หยุดสิ่งที่จบไปแล้ว เริ่มต้นใหม่เขียนสิ่งที่รู้สึกใหม่ปัจจุบัน ดูความเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกและร่างกายขณะเขียน
.
“เราสามารถปล่อยวางหลายสิ่งด้วยการรับรู้แล้วปล่อยวาง ทำสิ่งที่ทำอยู่ปัจจุบันให้ดีที่สุดด้วยความระลึกรู้ในสิ่งที่ทำด้วยสติ ทำสมาธิให้ตั้งหมั่นในสิ่งๆเดียวที่ทำแต่ละขณะ สำรวจความรู้สึกตนเองขณะทำ ยอมรับและเริ่มต้นใหม่ด้วยความผ่อนคลายและความพยายาม”
.
จากคุณจินตนา (เจน) อาชีพ รับจ้าง
.
.
“เป็นประสบการณ์การอยู่กับตัวเองโดยการเขียนประกอบกับลมหายใจที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้มากก่อน , สามารถฝึกต่ออย่างต่อเนื่องด้วยตัวเองได้ , เรียนได้ง่ายเวลาใหนก็ได้ที่สะดวก , รู้สึกโชคดีที่ได้เรียนคอร์สนี้ , ครูโอเล่ตอบกลับเร็วมาก..และให้กำลังใจตลอด
.
“ทำให้ใจเย็นลง พิจารณาจิตใจอยู่กับความรู้สึกของตัวเองอย่างช้าๆมากขึ้น.ใช้ความคิด หาเหตุผลที่จะเข้ามาสนับสนุนความต้องการของตัวเองน้อยลง ปล่อยวางมากขึ้นเพราะลดความอยาก ลดการตความการแปลความที่ปรุงแต่งอารมณ์ตัวเรา สะกดอารมณ์ในทางลบได้มากขึ้นด้วยการใช้ลมหายใจดึงสติตนเองกลับมา ฟุ้งซ่านน้อยลง
.
“รู้จักหยุดยั้งเพื่อรอจังหวะหยุดความคิดหยุดการกระทำเพื่อตั้งหลักชีวิตก็เช่นกันต้องมีจังหวะในการเดิน , บทเรียนที่ไม่ผ่านต้องฝึกซ้ำๆ..ใจต้องนิ่ง กายต้องพร้อมและใช้ความเพียรพยายาม , การเรียนการเขียนต้องใช้สมาธิและสติอย่างมากฉะนั้นการที่เราจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จเราจึงต้องมีสติและสมาธิคู่กัน
.
“การบันทึกหลังการเขียนเป็นการสะท้อนความคิดตัวเราว่าคิดอย่างไรในขณะนั้น เมื่อเวลาผ่านไปนำกลับมาอ่านใหม่เหมือนได้ทบทวนตัวเราเอง ได้มองดูตัวดูใจเราเองโดยข้อคิดเห็นจากครูเป็นตัวเตือนสติ..เตือนความคิดเรา บางบทเรียนไม่ผ่านต้องลดอัตตา..และทำซ้ำๆเสมือนให้โอกาสฝึกตัวเอง”
.
จากคุณจุไรรัตน์ (หง่าว) อาชีพ พยาบาล
อ่านรวมสรุปการอบรม ได้ที่
https://drive.google.com/open?id=1cVQeBd7je2ePsvacJsm005Fbx4a2YgiR
“เขียนภาวนา” ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์
หลักสูตรการเขียนเพื่อการขัดเกลาจิตใจด้วยหลักธรรมและการภาวนา เขียนเพื่อบ่มเพาะจิตใจ ฝึกฝนเท่าทันการยึดติด เขียนด้วยลมหายใจ ย้อนมองกลไกในจิตตนผ่านอักษร อีกทั้งยังมุ่งหมายบ่มเพาะความดีงามในหัวใจด้วยการน้อมนำคุณธรรมที่อยู่ในตนผ่านกระบวนการบันทึก ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การใช้การเขียนเพื่อต่อยอดจากการภาวนาและการส่งเสริมการปฏิบัติธรรม โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานการภาวนาหรือความสนใจการปฏิบัติธรรมมาก่อน
.
✍ สมัครเข้าเรียน และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม :
www.dhammaliterary.org/เขียนภาวนา/