รายชื่อผู้ผ่านการอบรมและบทเรียนคอร์ส “เขียนภาวนา”
ในหลักสูตรชุด เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๓๖
มีผู้ผ่านการอบรม ๒๘ คน จำนวนส่งการบ้าน ๓๑๗ ครั้งในการเรียนทางไกลสี่สัปดาห์
(เริ่มวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ถึง ๙ มิถุนายน ๒๕๖๒)
“ชอบกิจกรรม ชอบหัวข้อที่คุณครูให้เลือกเขียน และเมื่อได้ลงเขียนบันทึก ความรู้สึกต่างๆเกิดขึ้นขณะเขียนบันทึก ซึ่งในตอนแรกยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เมื่อเขียนเหตการณ์ต่างๆ ไปเรื่อยๆ ความรู้สึกเหล่านั้นเริ่มชัดเจนขึ้น พอที่เขียนสรุปส่งให้คุณครู ในขณะที่ความชัดเจนยังไม่มากพอ เมื่อคุณครูให้ตอบคำถามก่อนที่จะเลือกเขียนหัวข้อต่อไป ตรงนั้นแหละค่ะที่ทำให้เกิดความแจ่มชัดในสิ่งที่เข้าใจมากขึ้น
.
“ในขณะเขียนเฉพาะลมหายใจออก ตอนแรกไม่ชอบเลยเพราะช้า ไม่ทันใจ แต่เมื่อฝึกเขียนไปเรื่อยๆ เริ่มชอบเพราะการเขียนตอนหายใจออกทำให้มีเวลาหยุด หยุดเพื่อพิจารณา คิด และรวบรวมความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะเขียนหัวข้อนั้น ดูความรู้สึกของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น
การเรียนการสอนเขียนภาวนา เหมาะสมกับชื่อหลักสูตรมากค่ะ เพราะได้ทั้งวิธีฝึกสมาธิในการเขียน ได้ปัญญาจากการเขียนเรื่องราวของตัวเองในแต่ละหัวข้อ
ชอบที่เวลาส่งการบ้านแล้วไม่ต้องรอนาน คุณครูตอบกลับรวดเร็วมากค่ะ ขอขอบพระคุณคุณครูโอเล่ที่กรุณาสอนวิธีการเขียนแบบนี้ โดยมีเมตตากับผู้เรียนเป็นอย่างมากค่ะ”
.
คุณภัทรวดี (นุ้ย) อาชีพ กสิกรรมพอเพียง
.
.
“ชีวิตการทำงานที่ยุ่งตลอดทำให้ที่ผ่านมาไม่เคยหยุดคุยกับตัวเองอย่างจริงจัง ทุกอย่างเป็นไปตามอัตโนมัติ แต่เมื่อมีเวลามากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าใจของเราเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเราไม่มีสติ ไม่อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับตัวเอง เป็นเพื่อนตัวเองไม่ได้ ใจจะไม่สงบ และไม่มีความสุข
.
“หัวข้อบันทึกที่ชอบ คือ ดวงตาลิขิต ที่เขียนถึง 4 ครั้ง ชอบในแง่ที่ได้ค้นพบตัวเองว่า เป็นคนที่มีกรอบตลอดเวลา โดยไม่รู้ตัว (แม้ตัวเองจะพยายามเป็นคนไม่มีกรอบ แต่พบว่าไม่จริง) ยึดติดอยู่ในสิ่งที่คิด โดยไม่พิจารณาโจทย์อย่างรอบคอบ แม้อ่านหลายครั้งก็ยังไม่เห็น การค้นพบนี้กระตุกให้ตัวเอง ต้องกลับมาทบทวนตัวเองใหม่
.
“หัวข้อที่ชอบคือ เวลาที่ดีที่สุด การปล่อยวาง และ อยากและยึด เพราะระหว่างการเขียนได้ทบทวนใจตัวเอง กับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกวัน ทุกนาทีไม่สิ้นสุด”
.
คุณชมพูนุท (เอ้) อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว
.
.
“สอนใจตัวเองเลยค่ะ ว่าการยึดติด ความอยาก เป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์จริง การปล่อยวางต่างหากที่จะทำให้จิตเราหลุดพ้นจากการบีบคั้นต่างๆ พอจิตคลายไม่กำแน่นไว้ ทั้งกายและจิตจะโล่งโปร่งสบาย สมองที่เคยตื้อ ก็เบาขึ้นโรคไมเกรนที่เป็นบ่อยๆก็คลายลง เราไม่ควรเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางในทุกสิ่งทุกอย่างปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น ทุกสิ่งมันเป็นอนิจจัง ไม่ยึดมั่นถือมั่น เมื่อส่ิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี มันเป็นเช่นนั้นเอง
.
“การอบรมครั้งนี้ฝึกการเรียงลำดับความคิดได้ดีขึ้น มีความอดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่ต้องทำ ควรทำได้มากขึ้น เปลี่ยนทัศนคติบางอย่างไป จากที่เคยยึดติดบางอย่างแบบแน่นหนา ก็เริ่มจะปล่อยวางบ่อยขึ้น เห็นจิตตัวเองที่ อึดอัด ขัดข้อง ขุ่นมัว โทสะมา หรือ ยินดี มีความสุข ได้เร็วขึ้น ได้ฝึกภาวนา ได้มากขึ้น”
.
“การเขียนภาวนาสอนเรื่องความอดทนมาก สอนให้รอคอย สอนให้เห็นจิตตัวเอง ได้ทบทวนสิ่งที่จะทำจะเขียนก่อนเขียนหรือทำลงไป เห็นขณะ ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ ระหว่าง ลมหายใจเข้าและหายใจออก ได้ฝึกการรู้ตัวไม่ปล่อยมันให้มันไหลไปจมอารมณ์ ความคิด เห็นเลยว่าจิตเรามันเร็วจริงบางคราวคิดเขียนสิ่งนี้พอหยุดไปตอนหายใจเข้า หายใจออก ความคิดเปลี่ยนไปแล้ว”
.
คุณปริยากร (กลอย) อาชีพ ผลิตเครื่องสำอางสมุนไพร, แพทย์แผนไทย
???? อ่านสรุปการอบรมของผู้เรียนได้ที่ : http://bit.ly/2WER3Tb
“เขียนภาวนา” ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์
หลักสูตรการเขียนเพื่อการขัดเกลาจิตใจด้วยหลักธรรมและการภาวนา เขียนเพื่อบ่มเพาะจิตใจ ฝึกฝนเท่าทันการยึดติด เขียนด้วยลมหายใจ ย้อนมองกลไกในจิตตนผ่านอักษร อีกทั้งยังมุ่งหมายบ่มเพาะความดีงามในหัวใจด้วยการน้อมนำคุณธรรมที่อยู่ในตนผ่านกระบวนการบันทึก ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การใช้การเขียนเพื่อต่อยอดจากการภาวนาและการส่งเสริมการปฏิบัติธรรม โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานการภาวนาหรือความสนใจการปฏิบัติธรรมมาก่อน
.
✍ สมัครเข้าเรียน และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม :
www.dhammaliterary.org/เขียนภาวนา/