สิ่งที่ได้รับจากการอบรม “เขียนภาวนา รุ่นที่ 16”

 

การเขียนภาวนาสอนอะไรแก่ฉันบ้าง ?

 

“สอนให้มีสติมากขึ้น และเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ ที่้เราสามารถค้นหาคำตอบจากคำถามได้จากการเขียน”

“สอนให้มีสติอยู่กับสิ่งที่ทำ รู้เท่าทันความคิด ให้รู้จักระงับใจตัวเอง”

“เห็นทุกข์ที่เก็บไว้มานาน และสุขที่เกิดได้จากความสงบ แม้เพียงไม่กี่นาทีถ้าเราเลือกและลงมือทำด้วยความรู้ตัว”

“สอนให้ช้าลง ให้โฟกัส สอนให้ไม่ฟุ้งซ่าน ดีดเด้งความรู้สึกไปมาแบบไร้ทิศทาง”

“สอนให้ช้าลง ให้หยุด การยอม ให้พอ ให้เริ่มใหม่ ให้ไปต่อทีละนิด เห็นความคิด เห็นกิเลส”

“สอนให้มีสติ สมาธิมากขึ้นในแต่ละขณะ เป็นการส่งเสริมการนั่งสมาธิให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น การเขียนภาวนาที่เป็นการบ้านระหว่างสัปดาห์ ช่วยให้เขียนแบบมีสติ ระลึกรู้ปัจจุบัน ไม่หลงไปกับความเพลินในการเขียน กลับมาอยู่กับลมหายใจ เมื่อเรานั่งสมาธิ ทำให้จดจ่ออยู่กับปัจจุบัน รู้เท่าทันตนเองมากขึ้น รวมถึงการเปิดไพ่ต่างๆยังช่วยสะกิดเตือนให้เรามองเหตุการณ์ต่างๆในอีกมุมหนึ่ง ทำให้มีอุเบกขากับเรื่องนั้นได้ดีขึ้น”

“การเรียนเขียนภาวนาครั้งนี้ ทำให้ได้กลับมาใช้เวลา ดึงความสนใจออกจากความทุกข์ ความสับสน และทำใจยอมรับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตช่วงนี้ ได้ทบทวน ทำความเข้าใจตัวเอง จากการเขียนและการภาวนาไปพร้อม ๆ กัน อย่างมีสติและผ่อนคลายมากขึ้น”

“สอนให้เห็นถึงความสำคัญของการกำหนดจุดปักใจเพียงหนึ่งเดียวที่ลมหายใจ การนิ่ง สงบ เมื่อใดก็ตามที่เผลอไปคิด ก็ขัดใจแล้วกลับมาจุดปักใจเดิมซ้ำ ๆ ทำให้เห็นสภาวะจิต ที่ซัดส่าย ไปมา แต่ตอนนี้มีจุดกำหนดกรอบให้จิตลิงเกาะไว้ ไม่ต้องไหล เลี้ยว เตลิดไปไกลกับความหลง คิด นู่นนี่ เหมือนหลักปักไว้ เมื่อใด จิตลิง ลิงโลด ก็สามารถดึงกลับมาที่กาย / ปัจจุบันได้บ่อยมากขึ้น และการเรียนรู้วงจรแห่งทุกข์ ในการสร้างเหตุปัจจัยแห่งตน โดยลดความคาดหวัง แค่เพียร ทำไปเรื่อย ๆ ใจร่ม ๆ ปล่อยวาง”

“การวางใจและเข้าใจธรรมะแบบท้องฟ้า ที่ผันแปรและไม่เที่ยง ช่วยให้คลายความยึดติด ลดความกังวลได้ดี”

“สอนให้ช้าลง ให้สังเกตความรู้สึกตัวเอง กลับมามีสติมากขึ้น รู้จักละวาง เท่าทันความอยาก นำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันแต่ละขณะ”

“การเขียนภาวนาสอนให้ฉันได้ฝึกฝืน ทำอะไรช้าลง ยืดหยุ่น ผ่อนคลาย ทำให้ฉันได้กลับมาสังเกตรับรู้ลมหายใจของตัวเองมากขึ้น สอนให้ฉันได้หยุด รอ ไวขึ้นบ้างกับการรับรู้ความคิดและความคาดหวังของตัวเอง ได้เรียนรู้ว่าความคิดที่เกิดจากการปล่อยให้คิดกับความคิดที่มาในตอนที่มีการเขียนภาวนาไม่ค่อยเหมือนกัน เช่น วิธีแก้ปัญหา ตอนที่ ปล่อยให้คิด กับ ความคิดตอนที่เขียนภาวนาเป็นทางออกที่ต่างกัน และรู้สึกว่าความคิดตอนเขียนภาวนามีความละเอียดกว่าเหมือนได้ผ่านการใคร่ครวญมาก่อน ได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิดบ้างก็ได้ และได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น”

“สอนว่ากิเลสตัณหามีเข้ามาตลอด อยู่ที่เราจะโฟกัสที่อะไร ถ้าเรามีสติตั้งมั่นไม่ไหลไป ความทุกข์ก็ไม่เกิด”

 

สิ่งที่ได้ฝึกฝนและเรียนรู้จากการอบรม “เขียนภาวนา รุ่นที่ 16” ?

 

“ฝึกความอดทน และมีวินัยเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่อาจได้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่สำคัญ ได้เห็นว่าจริงอาจไม่จริง ดีอาจไม่ดี”

“ได้รู้ถึงเหตุแห่งทุกข์แบบภาคปฏิบัติ ไม่ใช่ท่องตามๆ กันมา เหมือนที่เขาว่า ทำเองเห็นเอง ได้เข้าใจจริงๆ กับคำว่า เพราะเรายึดเราจึงทุกข์ มันไม่มีอะไรที่เป็นตัวเรา ของเรา มันเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปจริงๆ ทำให้มีสติมากขึ้น จะเอาการบ้านที่ครูเคยให้มาฝึกทบทวนบ่อยๆ ค่ะ จะได้มีสติได้ดียิ่งๆ ขึ้นไป”

“การรู้ เห็นความเป็นตัวเราในหลายแง่มุมและยอมรับแง่มุมต่าง ๆ ทั้งด้านดี ไม่ดีของตัวเอง ที่เปลี่ยนอยู่เสมอ ฝึกรู้ที่มาของปัญหา บอกตัวเอง สอนและแนะนำตัวเองได้ ”

“ได้เรียนรู้หลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน การเขียนช่วยให้ได้รู้จักตัวเอง ได้คุยกับตัวเองมากขึ้น ได้รู้ทันจิตใจมากขึ้นจากที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลยในตอนก่อนเรียนค่ะ”

“ได้มีโอกาสได้ทบทวนตัวเอง อยู่กับตัวเอง ขัดใจตัวเอง ให้ได้มีครูชี้แนะบ้าง ได้เริ่มกลับมาภาวนาอีกครั้ง”

“- ได้ฝึกความอดทน และการละวางตัวตน
– มองเห็นตัวเอง เท่าทันอารมณ์ต่างๆมากขึ้น
– ได้เรียนรู้ว่าการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสำคัญมาก ไม่ใช่แค่เพียงการนั่งสมาธิ หรือเดินจงกรม แม้แต่การเขียน ก็ควรมีสติ ไม่หลงเพลินกับความคิด และไม่ยึดติดกับอารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นขณะเขียน
– ได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆในการกลับมาโฟกัสตัวเอง ยอมรับในความเป็นตนเองและผู้อื่นมากขึ้น”

“การฝึกฝน กำหนด และ รู้ทัน จิตลิงที่คิดไปด้วยธรรมชาติแห่งจิต ก็ช่วยลดการฟุ้งซ่านลง การฝึกการขัดใจ การปักใจ การจูงใจบ่อย ๆ ในคลาสเรียน และตอนทำการบ้าน ช่วยให้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ดีขึ้น มีสติกับสิ่งที่ทำตรงหน้าได้ดีขึ้น จากที่ปกติ ตามใจตัวเอง ย้วย หย่อนยานมาตลอด ก็ทำให้เห็นว่า ต้องฝึกอีกมาก ต้องกำหนด และโฟกัส ตลอดเวลา แต่ไม่ถึงกับเพ่ง จนเคร่งเครียด”

“ได้มีโอกาสทบทวนตัวเอง อยู่กับตัวเอง เข้าใจตัวเองตกผลึกมองเห็นมุมมองต่างๆได้ชัดเจนรอบด้าน ขัดเกลากิเลสให้ละเอียดขึ้น”

“ได้ฝึกฝนการสังเกตรับรู้ลมหายใจ ความคิด ความรู้สึก และความคาดหวังของตนเอง
ได้เรียนรู้ว่า ลมหายใจสัมพันธ์กับร่างกายและอารมณ์ความรู้สึก
ได้ฝึกฝนเพิ่มความยืดหยุ่นต่อตัวเอง
ได้เรียนรู้ว่า ความอยากทำให้ยึด ยิ่งยึดก็ยิ่งแย่
ได้เรียนรู้เรื่องการไม่เอาอารมณ์ทั้งสุขทุกข์ อยู่กับปัจจุบันแบบเป็นกลางเอาไว้จะได้ไม่โดนเขี้ยวงู
การสังเกตที่ละเอียดขึ้น คือสังเกตไปจนถึงการเห็นผัสสะที่กระทบกันอยู่ ไม่มีเรา”

“ได้ฝึกฝนการมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะมากๆ ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่คือตอนนี้ ลมหายใจนี้ ได้ฝึกสังเกตตัวเอง อารมณ์ ความคิด ความรู้สึก ได้เรียนรู้ว่าเราต้องกลับมาที่ตัวเอง เลิกเพ่งโทษผู้อื่น ชีวิตสังเกตได้ว่าสงบขึ้นมาก”

 

สิ่งที่อยากบอกเพิ่มเติมให้กับเพื่อนร่วมเรียน/ครู ?

 

“ขอบคุณการแลกเปลี่ยนของกัลยานมิตรทุกท่าน ขอบคุณครูโอเล่ ที่ให้คำแนะนำตลอดการฝึกฝนได้อย่างดีค่ะ จบคอร์สนี้จะพยายามฝึกฝนอย่างต่อเนื่องให้ได้มากที่สุดค่ะ การที่พวกเรามาพบกันเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องบังเอินค่ะ”

“ขอบคุณครูโอเล่มากๆ ค่ะที่จัดคอร์สนี้ขึ้นมา ทำให้เราได้ฝึกเจริญสติได้ดีมากๆ ปกติจะนั่งแต่สมาธิแต่ไม่ค่อยฝึกเจริญสติ ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันจะหลง เพลิน ยึดอยู่ตลอดเวลา การเขียนภาวนานี้เป็นการฝึกเจริญสติได้ดีมากๆเลยค่ะ แถมยังช่วยปลดล็อคเรื่องบางเรื่องในชีวิตออกไปโดยไม่รู้ตัว และขอบคุณเพื่อนๆ กัลยาณมิตรทุกคนค่ะ การที่เราได้คุยกันมันก็เป็นการช่วยปลดล็อคอะไรบางอย่างในตัวเราได้เหมือนกันค่ะ”

“ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคน สำหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแง่คิดทั้งในข้อความและการแลกเปลี่ยนในกลุ่ม ขอบคุณครูมาก ๆ ค่ะ … มาด้วยความหวังบางอย่าง แต่ที่ได้รับมากกว่าที่หวังไว้มากมาย กิจกรรมที่ครูออกแบบ แม้ครูจะบอกว่าสั้นกว่ารุ่นก่อน ๆ สำหรับบี เวลาและกิจกรรมที่ครูออกแบบในการทำกิจกรรมร่วมกัน การให้การบ้าน การตรวจการบ้าน ช่วยให้บีเรียนรู้ได้ค่ะ ครู”

“ขอบคุณอาจารย์ที่จัดคลาสสอนที่ช่วยให้คนที่กำลังหาทางออกจากความทุกข์ได้มีวิธีการในการเยียวยาจัดการความทุกข์ผ่านการเขียน เวลาที่สั้นอาจจะไม่ช่วยให้ความทุกข์หายไป แต่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ายังมีวิธีการใดที่จะช่วยได้บ้าง ขอบคุณเพื่อนๆที่ร่วมแบ่งปันมุมมองและเรื่องของตัวเองเป็นวิทยาทานผ่านการทำกิจกรรมค่ะ”

“ขอบคุณอาจารย์ที่ยังให้กลับมาทบทวน ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ได้แบ่งปัน สนุกทุกครั้งที่กลับมา ไม่เคยเหมือนเดิมเลยสักครั้ง”

“- ขอบคุณครูโอเล่ที่จัดคอร์สนี้ขึ้น ทำให้ได้กลับมาทบทวนตัวเอง ได้มีสติระลึกรู้กับปัจจุบันอย่างต่อเนื่องมากขึ้น ขอบคุณคำสอนและข้อคิดดีๆ และขอบคุณที่ทุ่มเททั้งการสอน การตรวจการบ้าน และคำแนะนำที่ชี้แนะนักเรียนเป็นรายบุคคล ทำให้เห็นความก้าวหน้าในตนเองได้จริงๆ
– ขอบคุณเพื่อนกัลยาณมิตรที่มาเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนมุมมอง ความเห็นซึ่งกันและกัน บางครั้งสิ่งที่เพื่อนพูด ทำให้เราได้วิธีการในการแก้ปัญหาเหตุการณ์ในชีวิตตนเอง แม้จะเป็นกลุ่มเล็ก แต่เป็นพลังงานที่ดีมากๆค่ะ”

“ขอบคุณคุณครูโอเล่ ที่ตั้งใจสอน อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย และใช้ภาษาง่าย ๆ ในการอธิบายธรรมะ ช่วยให้ซึมซับ และย่อยไปใช้ในแต่ละวันได้จริง ชอบการออกแบบการสอน ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น ดวงตาลิขิต ทำให้เห็นและเข้าใจ จิตคิดและปรุงแต่ง เป็นวงจรความอยากใด ๆ ที่ก่อเกิดทุกข์ แบบง่าย ๆ และประโยชน์ของการทำซ้ำในหัวข้อเดิม ๆ เป็นตัวชี้ให้เห็นประเด็นต่าง ๆ ที่ช่วยขัดเกลาให้เข้าใจและปรับปรุงการปฏิบัติของตัวเองได้อย่างดี
ขอบคุณ เพื่อน ๆ ร่วมเรียนรู้และแบ่งปัน ทำให้ได้ยินทั้งเสียง และพลังงานดี ๆ เหมือนทบทวน และช่วยตกตะกอนสิ่งที่เรียนรู้มาให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น”

“ขอบคุณครูที่ทุ่มเทและใส่ใจกับการสอนเป็นอย่างมากค่ะ ขอบคุณที่จัดคอร์สที่ดีและเป็นประโยชน์ขึ้นมา จะกลับไปทบทวนและจัดสรรเวลาปฏิบัติต่อเนื่อง รวมถึงบอกต่อคอร์สต่างๆให้กับเพื่อนที่สนใจ เพราะมีประโยชน์และนำไปปรับใช้ได้จริงๆ ส่วนตัวประทับใจมาก ขอบคุณเพื่อนๆที่น่ารักร่วมกันแชร์ประสบการณ์ ทั้งให้แง่คิดต่างๆ เป็นกลุ่มที่มีพลัง support ส่งเสริมกันมากค่ะ”

“ขอบคุณคุณครูและเพื่อนร่วมเรียนมากค่ะ ขอบคุณคุณครูที่ช่วยให้เห็นความจริงบางอย่างของชีวิตที่ไม่เคยรู้ ช่วยดูการบ้านและให้คำแนะนำที่มีประโยชน์มากๆในการสร้างสมดุลให้กับตัวเอง
ขอบคุณแบบฝึกหัดที่ช่วยให้ได้สังเกตทบทวนตนเอง การเรียนหนึ่งเดือนผ่านไปไวมาก รู้สึกว่าสามารถเรียนต่อได้อีกนะคะ ถ้าจะเพิ่มเวลาอีกหนึ่ง-สองสัปดาห์ ก็พร้อมเรียนรู้ต่อค่ะ
ขอบคุณเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มาฝึกฝนด้วยกัน การได้เข้ากลุ่มย่อยแบ่งปันกันก็ช่วยให้เห็นหลายอย่างที่เรายังไม่ได้มองในตอนนั้นค่ะ”

“ขอบคุณเพื่อนร่วมคลาสทุกท่านและอาจารย์ค่ะ ที่เสียสละเวลามาสอน ทุกครั้งที่แชร์กัน จะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเพิ่มเติมเสมอ ขอบคุณค่ะ”

 

รวมคำบอกเล่าจากผู้เรียนที่ผ่านการอบรม “เขียนภาวนา” รุ่นที่ 16
เรียนทำสมาธิเพื่อปล่อยวาง เพื่อละวางตัวตนและขจัดกิเลส

8 วันเสาร์อาทิตย์ เมื่อวันที่ 18 มกราคม – 9 กุมภาพันธ์ 2568

ติดตามกิจกรรมอบรม
dhammaliterary.org/open-course