เดินไปพร้อมหัวใจ

 

เดินไปพร้อมหัวใจ

ความรู้สึกเป็นได้ทั้งเพื่อนที่หนุนพลังและเป็นเพื่อนที่ฉุดรั้ง
เราไม่อาจก้าวชีวิตด้วยหัวคิดเหตุผลเท่านั้น หัวใจหรือความรู้สึกก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีชีวิตชีวา และพลังสำหรับการก้าวไปข้างหน้า

หากเราใช้ความคิดหรือเหตุผลมากเกินไป เราก็จะบีบคั้นตัวเองและผู้อื่นได้ ทำให้เก็บกดความรู้สึก ขาดความเมตตาปราณี ฟังแต่ความคิดเห็นของตน เป็นและทำกับผู้อื่นอย่างเครื่องจักรกล มากกว่าเพื่อนชีวิต ขาดแรงบันดาลใจและการริเริ่มสร้างสรรค์

ขณะเดียวกันหากเราใช้อารมณ์ความรู้สึกมากเกินไป เราก็เป็นคนเอาแต่ใจ ขึ้นๆลงๆ ไม่แน่นอน งานไม่ก้าวหน้า ทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ขาดการยับยั้งชั่งใจ ไม่มีระเบียบ และไร้การตริตรอง

การฝึกใช้ความคิดสำคัญพอๆ กับการฝึกใช้ความรู้สึก การสะกดจิตเองเป็นการจัดการและใช้ความรู้สึกให้เกิดผลสำเร็จ ควบคู่กับการใช้พลังความคิด เพราะลำพังการคิดด้วยตรรกะย่อมไร้ชีวิต ขาดพลัง และแรงดลใจ

อันที่จริงแล้ว ในความคิดก็มีอารมณ์ ในความรู้สึกก็มีเหตุผล
หากยามใดที่ความรู้สึกเป็นนาย และความคิดเป็นบ่าว เราก็ถูกอารมณ์ชักนำพาไปอย่างสุดขั้ว และเราก็หาเหตุผลมารองรับได้ เป็นข้ออ้างได้
ยามใดเราถูกความคิดนำทางไปอย่างเผด็จการต่อตัวเอง หัวใจหรือความรู้สึกเราก็ทุกข์ทน อาจวกวนไปมา ตามความคิดนำทางไป ความคิดคิดกังวล ใจก็ร้อนรน ความคิดคิดวิจารณ์ติเตียน ใจก็โกรธเคือง

ทั้งความคิดและหัวใจเป็นเพื่อนที่มีอิทธิพลต่อกัน
เมื่อใดที่หัวใจอ่อนแอ ความคิดต้องยื่นมือมาช่วยเหลือ ยามใดที่ความคิดจนตรอก หัวใจต้องติดปีก

 

จากเนื้อหาคอร์สออนไลน์ฟรี
“พลังจินตภาพ”
https://punnspace.com/learning/course/view.php?id=9

ส่วนหนึ่งของหลักสูตร
“ห้องเรียน พลังแห่งจิต”
www.dhammaliterary.org/mindpower/