3 แรงบันดาลใจจาก ดินสอ
เราใช้ชีวิตเหมือน ดินสอหัวทู่ หรือไม่ มัวแต่ “เอาใจ” ยุ่งกับภาระ ผู้คนและข่าวสารทั้งหลาย จนลืม “ใส่ใจ” ตนเองหรือเปล่า เมื่อขาดการดูแลความรู้สึกและความต้องการแท้จริงข้างใน ลืมพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เหมือนปล่อยดินสอทู่ลง เส้นสายลายชีวิตย่อมไม่คมและไม่ตรงความหมาย
.
เรามัวแต่ใช้ชีวิต จนลืม “ไส้ใน” ของตนเองหรือไม่ เมื่อชีวิตได้แต่ถูกใช้เหมือนดินสอจนปลายหัก เหมือนร่างกายและหัวใจอ่อนล้าจนทรุดโทรม เรามองนอกตัวเองเกินไปจนลืม “เข้าใจ” ตนเองและสิ่งที่เราเป็นแท้จริง
.
บทความต่อไปนี้คือแรงบันดาลใจ ซึ่งเราสามารถเรียนรู้และซึมซับได้จากความเป็นดินสอ ของเล็กๆ ใกล้ตัวเป็นครูและเพื่อนในมือเราได้เสมอ หากผู้อ่านมีข้อคิดหรือความเห็นความรู้สึกอื่นเพิ่มเติมก็สามารถแลกเปลี่ยนได้ตามช่องทางที่เหมาะสม
.
.
1 ดินสอต้องเหลาจึงใช้ได้ ลอกเปลือกตัวตนจนพบศักยภาพ : คนเราต้องเข้าถึงและเผยสิ่งที่ดีข้างใน จึงพบหนทางของชีวิตที่แท้จริง เพราะความสามารถของเราทุกคนนั้นมีมากมายอยู่แล้ว ขอเพียงเราปอกเปลือกตัวเอง และเผยออกมาใช้ให้เป็นเท่านั้น
.
ดินสอเป็นตัวอย่างของการขัดเกลาตน การเหลาดินสอทำให้เปลือกไม้ข้างนอกหลุดลอก เผยไส้ถูกลับเป็นหัวแหลม เหมาะแก่การใช้งาน คนที่ขาดการขัดเกลาย่อมเหมือนดินสอทู่หรือดินสอที่ไม่ได้เหลา แม้มีดีในตัวก็ไม่อาจนำมาใช้ได้ดี
.
เราต้องรู้จักเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เมื่อเราทำสิ่งต่างๆ ก้าวผ่านวันวัยชีวิตไปมากเข้า เราก็เหมือนดินสอที่ผ่านการใช้งานจนทู่ลง อาจเหนื่อยล้า ทำผิดพลาด หรือทำได้ไม่ดีดั่งเดิม ต้องกลับมาทบทวนตนเองและเปิดโอกาสให้เราเรียนรู้เพื่อเริ่มต้นใหม่
.
อย่าปล่อยให้ตัวเราใช้ชีวิตและรู้สึกนึกคิดต่างๆ ดั่งดินสอหัวทู่ ขาดการพัฒนาตัวเอง ย้ำคิดย้ำทำในสิ่งลบ เราย่อมไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสร้างสรรค์อย่างที่ควรจะเป็นได้
.
แม้ตัวเราดูไม่ดี ไม่เก่ง ขาดความสมบูรณ์แบบ เราอาจดูอ่อนแอและเศร้าหมอง สิ่งเหล่านี้ก็เป็นแค่เปลือกเท่านั้น ตัวเราที่แท้จริงเป็นดั่งไส้ดินสอ
.
ตัวตนที่แท้จริงของดินสอไม่ใช่เปลือกไม้ข้างนอก แต่เป็นไส้ที่อยู่ภายใน ซึ่งสามารถวาดระบายหรือขีดเขียนสิ่งต่างๆ ได้มากมาย เราทุกคนนั้นมิได้มีเปลือกนอกอันสวยหรูหรือเศร้าหมองเป็นตัวตนที่แท้จริง แต่เราเป็นมากกว่าที่เปลือกนอกแสดง
.
การเรียนรู้ใดใดย่อมเป็นการเปิดคุณค่าและความดีงามที่อยู่ในตัวเราออกมา เพื่อให้ใช้ในชีวิตอย่างงอกงาม ไม่ได้เป็นไปเพื่อการตักตวงหรือฉวยคว้า แต่เติมเต็มด้วยการนำสิ่งที่เรามีอยู่แล้วออกมา เมื่อใช้ชีวิตไประยะหนึ่ง ต้องมีจังหวะหรือช่วงเวลากลับมาเรียนรู้อีกครั้ง
.
รถยนต์ยังต้องรู้จักเข้าอู่ซ่อมบำรุง ดินสอยังต้องเหลายามใช้งานจนสึกหรอ คนเราก็มิแตกต่าง ต้องหวนย้อนกลับมาพิจารณาและปรับปรุงตนเอง
.
สิ่งสำคัญคือการไม่ยึดเปลือกภายนอก ซึ่งรวมทั้งความเชื่อว่าตัวเองเป็นคนอย่างไรและไม่ใช่คนอย่างไร มุมมองกับความจริงเป็นคนละอย่างกัน คนเราเป็นมากกว่าเปลือก ตัวตนที่แท้จริงไม่ได้เป็นแค่ตำแหน่งฐานะการงาน การเงิน โทรศัพท์มือถือ และสิ่งที่เราเชื่อ แต่เป็นไส้ภายในดินสอของชีวิต
.
ความหมั่นเพียรย่อมเป็นปัจจัยสำคัญ กว่าเราจะเหลาดินสอจนใช้ได้ ต้องปอกเปลือกลอกออกมา หมุนแล้วหมุนเล่า หรือปาดแล้วปาดเล่า หักบ้างสำเร็จบ้าง การพัฒนาตัวเองย่อมต้องอาศัยการลงมือทำอย่างมานะพยายาม เผชิญกับความล้มเหลวและความท้อแท้ใจหลายหน เพื่อลิ้มรสความสำเร็จที่สุขแท้กว่าการเติมเต็มเปลือกของตนเอง
.
สละเปลือกออกไปบ้างเพื่อแก่นแท้ที่เราเป็นจริงจะปรากฏ ไม่กลัวความเหนื่อยและความเจ็บจากการลอกปอกตัวตน เราจำเป็นต้องเผชิญเพื่อก้าวผ่านกรอบที่กักขังตัวเราไว้
.
.
2 สิ่งง่ายๆ และเปราะบาง สร้างสรรค์ความงดงามไม่รู้สิ้น : แม้ตัวเราอาจดูอ่อนแอ แสนธรรมดา และหาความพิเศษไม่เจอ เราก็สามารถทำสิ่งที่ไม่ธรรมดาและรังสรรค์ชีวิตได้อย่างมีความหมาย เหมือนดินสอหนึ่งแท่งที่สร้างจินตนาการให้แก่หลายหัวใจได้ แม้เป็นเพียงแท่งถ่านห่อด้วยไม้เท่านั้น
.
ตัวเราที่เป็นจริงอาจมิได้ดูเลิศเลอหรือสมบูรณ์ เหมือนไส้ดินสอจากถ่านที่แสนจะแตกหักง่าย ทว่าเมื่อใดที่เรายอมรับสิ่งที่เราเป็นอย่างแท้จริง เราจึงสามารถใช้สิ่งที่มีนี้ให้เกิดประโยชน์ อย่างมั่นคงและพิเศษในแบบของเราเอง
.
คนทั่วไปมักแสวงหาสิ่งนอกตัวและความพิเศษที่ไกลห่าง จนวันหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองไม่รู้จักตัวเองเลย เป็นเหมือนดินสอที่ลืมไส้ตัวเอง แต่พยายามเอาดีอย่างปากกาและอุปกรณ์อื่น วิ่งไล่ไขว่คว้าเพื่อเติมเต็มตัวเอง เพราะขาดการยอมรับว่าเรามีคุณค่าอยู่แล้วที่ไส้ข้างใน
.
เพราะขาดการเห็นคุณค่าในตัวเอง จึงมองว่าไส้ดินสอที่เรามีนี้ มันธรรมดาเกินไปและไม่ดีเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่คนอื่นมี เราจะมีความสุขอย่างแท้จริงได้อย่างไรเมื่อต้องพยายามเป็นคนอื่น ใช้ชีวิตแบบลืมว่าเราเป็นคนอย่างไรกันแน่
.
ไส้ดินสอนั้นแสนธรรมดา แต่ความธรรมดานี้ก็สามารถประยุกต์พลิกแพลง สรรค์สร้างสิ่งต่างๆ ได้เกินคณานับบนหน้ากระดาษ เมื่อเห็นคุณค่าของศักยภาพที่เรามีอยู่ เราย่อมลิขิตหน้ากระดาษชีวิตพลิกแพลงหนทางได้ไม่สิ้นสุด
.
เพราะความง่ายงามของตัวเราตามเป็นจริง ย่อมเปิดกว้างกว่าเงื่อนไขอันซับซ้อนชวนสับสน ที่การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันนั้นสะสมมา ทั้งจากสื่อ เทคโนโลยี วิธีคิด และวิถีชีวิต เราทอดทิ้งตัวเราที่ง่ายงามตามเป็นจริง เกาะกุมกับความพิเศษของแสงสีมายา สร้างเงื่อนไขผูกพันหัวใจและชีวิตเรามากมาย ทั้งจากหนี้สินรายเดือน การเสพติดสิ่งนอกตัวทั้งหลาย เป็นต้น จนใจเรายากที่จะสงบและรู้สึกพึงพอใจ
.
เมื่อเราทอดทิ้งไส้ตัวเอง หรือสิ่งที่เป็นและมีอยู่ข้างใน เราย่อมใช้ชีวิตอย่างแปลกแยกจากตัวเองและยากจะมีความสุขอย่างแท้จริง เพราะเราย่อมดิ้นรนฉวยคว้าสิ่งต่างๆ เพื่อหนีไปจากตัวเอง และเลือกสิ่งสำคัญของชีวิตตามคนอื่น ละเลยฟังเสียงข้างใน หรือความต้องการแท้จริงของเรา ท้ายที่สุดสิ่งนอกตัวเหล่านั้นก็ไม่อาจเติมเต็มความว่างกลวงของหัวใจได้
.
แม้ความเป็นตัวเราไม่ได้สมบูรณ์แบบ อาจอ่อนแอและด้อยกว่าบางเรื่องเมื่อเทียบกับคนอื่น แต่เราก็สามารถใช้สิ่งที่มีนี้ในทางที่เป็นประโยชน์ ชนิดที่สิ่งที่ดีกว่าก็ไม่อาจทำได้ เช่น หากไส้ดินสอแข็งเกินไป เราก็คงมิอาจเขียนได้ถนัดหรือวาดภาพได้อย่างลื่นไหล เส้นสายลายเส้นคงไม่อ่อนโยนเท่า ทุกอย่างตามที่เป็นจริงย่อมมีความหมายและหนทางในตัวเองเสมอ ดั่งจิ๊กซอว์ที่มีเหลี่ยมมุมเฉพาะตน ย่อมเหมาะกับตำแหน่งที่ใช่
.
เพียงแค่กลับมาเจอไส้ข้างในและใช้ให้ถูกมุม พลังเล็กๆ ข้างในตัวเราคนเล็กๆ นี้ย่อมงอกงามและยิ่งใหญ่บนหน้ากระดาษชีวิตของเราเอง
.
.
3 เด็กหรือแก่ เก่งได้มิแตกต่าง : ดินสอที่เพิ่งใช้ใหม่ เขาก็มีความสามารถไม่แตกต่างจากดินสอที่ใช้มานานแล้ว บางทีเรานำข้ออายุมาเปรียบเทียบหรือย้ำตนเองในแง่ลบว่า เรา/เขาเด็กเกินไป หรือ เรา/เขาแก่ไปแล้ว ทั้งที่จริงแล้วนั้นเราทำสิ่งต่างๆ ได้ดีโดยไม่ขึ้นกับอายุเสมอไป
.
ไม่มีคำว่าสายสำหรับชีวิต แม้ดินสอที่หดลงจนแทบไม่มีที่จับ ก็สามารถวาดระบายภาพที่สวยงามได้ ขอเพียงเราเห็นคุณค่าในตัวเองและใช้ไส้ดินสอและเปลือกไม้ให้เหมาะสมกับสภาพที่เป็นจริง
.
คำว่า เด็ก หรือ แก่ ไม่ใช่นิยามจำกัดศักยภาพ แต่เป็นไส้ที่อยู่ข้างในและการนำมาใช้ ดินสอจะแท่งเก่าหรือใหม่ ไส้ที่อยู่ข้างในไม่ได้แตกต่างกันมากมายนัก แม้เปลือกภายนอกอาจผ่านการใช้งานจนเหลี่ยมมุมและความเคยชิน ได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกันบ้าง แต่ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มสาวหรือช่วงวัยใด เราต่างต้องอาศัยการฝึกฝนตนเองเหมือนดินสอ ซึ่งไม่ว่าแท่งใหม่หรือเก่าย่อมต้องเหลาอยู่เป็นระยะ
.
การย้ำคิดในทางใด ย่อมจำกัดแนวทางให้ตัวเราเป็นไปอย่างนั้น สิ่งสำคัญกว่าคือการลงมือทำ ดินสอดีไม่ได้อยู่ที่แท่งเก่าใหม่หรือยี่ห้ออะไร แต่อยู่ที่วาดเขียนอะไร
.
ชีวิตเราไม่ได้มีค่าเพราะอายุเท่าใดหรือมีเปลือกอย่างไร แต่อยู่ที่เราทำอะไรในวันนี้ และสิ่งที่ทำมีผลต่อคนอื่นๆ กับสังคมรอบข้างอย่างไรบ้าง
.
แม้ดินสอแท่งน้อยจะหดเล็กและไร้ยี่ห้อ คุณค่ายังมีอยู่เสมอ ถึงแม้จะผ่านการหักแล้วหักเล่า ยามเหลาแล้วจรดปลาย เส้นลายก็ยังปรากฏ เราจะเป็นคนตัวเล็ก มีความบกพร่อง อายุเท่าใด เคยผิดพลาดล้มเหลวมาอย่างไร เรามีคุณค่าและทำตามความหมายที่เรามีได้เสมอ
.
.
อนุรักษ์ ครูโอเล่
#คอลัมน์ #ไกด์โลกจิต
.
สถาบันธรรมวรรณศิลป์
( ติดตามบทความ และ การอบรม เขียนเปลี่ยนชีวิต / ห้องเรียน พลังแห่งจิต ) : www.dhammaliterary.org