เมื่อเราหายใจเข้า เราเติมเต็มพื้นที่ข้างในร่างกาย ด้วยอากาศจากภายนอก
เมื่อเราหายใจออก เราแปรเปลี่ยนพื้นที่ภายนอก รอบตัวเรา ด้วยอากาศจากพื้นที่ข้างในกาย
พื้นที่ภายนอกและพื้นที่ภายใน ต่างส่งเสริมและเชื่อมโยงต่อกัน เราต่างเป็นผู้ร่วมสร้างทั้งสองพื้นที่ชีวิต
คนเราใช้ชีวิตระหว่างพื้นที่มากมาย จากบ้านสู่ท้องถนน สู่ที่ทำงาน ไปห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ ศาสนสถาน โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย ฯลฯ หายใจเข้าพื้นที่หนึ่ง หายใจออกพื้นที่หนึ่ง ชีวิตต้องสัญจรและเกี่ยวพันพื้นที่นานา ทว่าพื้นที่ใดเล่าที่เราเป็นผู้สร้างขึ้น มีจำนวนมากหรือน้อยสำหรับพื้นที่ที่เรารู้สึกไว้วางใจและเป็นอิสระ
แม้เรามีตัวเลือกพื้นที่ชีวิตอยู่ไม่น้อย แต่เหตุใดเรากลับจึงไม่เป็นอิสระเอาเสียเลย เราอาจมีแค่หนึ่งหรือไม่กี่พื้นที่ที่เรารู้สึกว่าตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยมากพอที่เราจะรู้สึกสบายใจ อบอุ่น และไว้วางใจ
แม้เรามีตัวเลือก เราอาจรู้สึกว่าไม่อาจเลือกได้เต็มที่ เพราะกลไกทางสังคม เพราะความคาดหวังจากคนอื่นๆ เพราะพื้นที่เหล่านั้นสังคมหรือองค์กรหนึ่งๆ เป็นผู้สร้างขึ้น เราไม่เห็นว่าตนเองเป็นผู้ร่วมทำให้เกิดขึ้น เราอาจแอบหวังว่าวันหนึ่งเราจะก้าวไปสู่พื้นที่ที่ดีกว่านี้ พื้นที่ที่เราจะรู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมีคุณค่าและได้รับการยอมรับ
หายใจเข้า เราเสียเวลากับการรอคอยโอกาสได้ไปยังพื้นที่ในฝันแห่งนั้นเพียงใด หายใจออก วันหนึ่งที่เราพร้อมหรือมีสิ่งวิเศษเกิดขึ้น หรือเมื่อยามหมดเวลาเลิกเรียนหรือเลิกงาน เราจะได้ไปสู่พื้นที่อันปลอดภัย นั่นเป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นหรือไม่
เหตุใดเมื่อเราต้องการความเป็นอิสระ และพื้นที่อันไร้ขีดจำกัด เรากลับกักขังตัวเองอยู่ในพื้นที่เล็กๆ บางแห่ง ขณะที่ลมหายใจยังคงสอนเราเรื่องการสร้างพื้นที่อันกว้างใหญ่ไม่เว้นวันหยุดพัก
ทุกๆ พื้นที่ชีวิต เกิดขึ้นเพราะชีวิต เราอาจมิได้สร้างสถานที่แห่งนั้นขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เช่น เราไม่ได้ก่อตั้งบริษัทหรือโบกปูนก่อห้องทำงานนี้ขึ้นมา แต่เมื่อใดที่ชีวิตเราก้าวเข้ามาในพื้นที่นั้น เราคือผู้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์หรือบั่นทอนพื้นที่แห่งนั้นด้วย หากหัวใจเราปกคลุมด้วยเมฆหม่นหมอง ห้องแห่งนั้นอาจมัวหม่นลงด้วยเช่นกัน เพื่อนร่วมงานย่อมรู้สึกได้ เพราะพื้นที่ภายในเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงกับพื้นที่ภายนอกเสมอ
ขณะเดียวกันเราย่อมสามารถแปรเปลี่ยนพื้นที่รอบตัวเราได้ด้วยการดูแลพื้นที่ภายใน อย่างการหายใจเข้าออกอย่างมีสติ เราจะช่วยไม่ให้ตนเองเผลอสร้างบรรยากาศรุนแรงภายในบ้าน ยามที่โลกภายในสดใสเบิกบาน คนที่คร่ำเครียดมาอาจพลอยได้ยิ้มไปกับเรา
เรายังสามารถสร้างปัจจัยที่จะช่วยเกื้อกูลพื้นที่ภายนอกผ่านการลงมือทำด้วยตนเอง ลำพังเพียงการยื่นดอกไม้ให้ผู้ชราที่นั่งขายลูกอมบนฟุตบาตร พื้นที่นั้นอาจพาใจบางคนเย็นชื่นฉ่ำ การแปะกระดาษคำเตือนใจไว้ใกล้โต๊ะทำงานยังช่วยเป็นเครื่องกระตุ้นสติแก่ตัวเราเองและเพื่อน เราอาจเห็นบรรยากาศการทำงานที่แปรเปลี่ยนเมื่อเราเปลี่ยนวิธีพูดในสถานการณ์ที่ท้าทาย
ทุกๆ การหายใจ เราคือหนึ่งในผู้สร้างสรรค์พื้นที่ชีวิตทั้งภายนอกและภายใน เราต่างเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราสร้างขึ้น อำนาจในการแปรเปลี่ยนนั้นอยู่กับเราทุกวันและคืน เราจะลงมือทำเพื่อแปรเปลี่ยนพื้นที่ชีวิตทั้งภายในและภายนอกตัวเราได้อย่างไร
แบบชวนเขียนบันทึกเพื่อเริ่มสร้างพื้นที่ให้แก่ตนเอง
งานเขียนทั่วไปเป็นหน้ากระดาษและตัวหนังสือเพื่อสื่อความหมายและปรากฏตัวต่อผู้อื่น ทว่าครั้งนี้เราจะเขียนเพื่อสร้างพื้นที่ให้แก่ตัวเราเอง พื้นที่ที่เราจะรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจ เป็นหน้ากระดาษแห่งการรับฟัง เราไม่จำเป็นต้องสนใจกฎการเขียนใดใดในหน้ากระดาษบันทึกส่วนตัว ไม่ต้องกังวลลายมือและการสะกดคำ เพราะเราต้องการสร้างพื้นที่ชีวิตหนึ่งให้แก่ตัวเองมิใช่ผู้อื่น เรากำลังฝึกสร้างพื้นที่ในฝันเริ่มจากใกล้ตัว ด้วยลมหายใจและการเขียน
หายใจเข้า หายใจออก ผ่อนคลายร่างกายและหัวใจ ผ่อนคลายตัวเราเองชั่วครู่หนึ่ง
ระลึกภาพและความรู้สึกในใจ หลับตาลง นึกตามว่า ช่วงเวลาใดหรือในสถานที่ใดที่เรารู้สึกไว้วางใจและผ่อนคลาย สถานที่แห่งนั้นอาจมีจริงหรือไม่มีอยู่ก็ได้ เราอาจเคยไปหรือไม่เคยไปก็ย่อมได้ ให้เราอยู่ในสถานที่แห่งนั้น ผ่อนคลายตัวเองด้วยลมหายใจ
ค่อยๆ ลืมตา บันทึกอิสระว่าช่วงเวลานี้มีความรู้สึกหรือถ้อยคำใดในหัวหรือในใจเรา ไม่ต้องประเมินหรือตีค่าสิ่งที่เราเขียน เพียงให้พื้นที่แก่พวกเขาและรับฟัง
เมื่อเราพร้อมแล้ว เราลองถามตัวเองและบันทึกว่า เราต้องการให้พื้นที่ชีวิตภายในและพื้นที่ชีวิตภายนอกเป็นอย่างไร ลองวาดภาพหากเราต้องการ หายใจเข้ายาว และบันทึกใคร่ครวญว่าเราจะมีวิธีการในการดูแลพื้นที่ทั้งสองนี้อย่างไรด้วยตัวเราเอง
ทุกๆ ลมหายใจกำลังเกื้อกูลพื้นที่ภายในเรา และพื้นที่ภายนอกรอบตัวเรา พวกเราคือพื้นที่หนึ่ง เราจะเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและสามารถวางใจแก่ตัวเราเองและคนรอบข้าง ด้วยการกลับมาตระหนักในการสร้างพื้นที่ของตน ด้วยลมหายใจเข้า ออก และการบันทึกเพื่อดึงพลังสร้างสรรค์ใช้เพื่อก่อเกิดพื้นที่ชีวิตภายในและภายนอกไปด้วยกัน
ภาพประกอบจากการอบรมหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต
คอลัมน์ ลมหายใจจับปากกา #3