ชุดอบรม ห้องเรียนนักกล้าฝัน ประจำปี ๒๕๕๘

 ชุดอบรม “ห้องเรียนนักกล้าฝัน” ประจำปี ๒๕๕๘ บ่มเพาะชีวิตและหัวใจ ด้วยทักษะผู้นำกระบวนการ ขั้นต้น ***ปิดรับสมัคร***   หัวข้อหลักในการอบรมสองวันแรก วันที่ ๕ และ ๖ กันยายน ๒๕๕๘ คือ หัวใจแห่งการเริ่มต้น และ โลกด้านใน สำหรับวันอบรมในเดือนต่อมา เราสามารถพูดคุยตกลงกันเพื่อหาช่วงเวลาที่สะดวกได้ครับในกรณีที่กำหนดการเดิมไม่สะดวก   ดาวโหลดรายละเอียดได้ที่  https://www.dhammaliterary.org/wp-content/uploads/2015/06/ห้องเรียนนักกล้าฝัน.pdf     เนื้อหาสำคัญของการอบรม การอบรมแบ่งเนื้อหาออกเป็น ๓ ส่วนสำคัญ บนพื้นฐานของความรู้และทักษะเฉพาะขั้นต้นเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ประกอบด้วยดังนี้ ๑. ผู้นำกระบวนการ พัฒนาภาวะผู้นำที่รักและรู้จักตนเอง  มีเครื่องมือและทักษะที่สามารถนำการเรียนรู้ร่วมกัน  อาทิ  การตั้งคำถาม  การจับประเด็น  การสะท้อน  การฟังอย่างลึกซึ้ง เป็นต้น  การรู้จักและเข้าใจสังคมผ่านมุมมองกระบวนทัศน์ใหม่ ๒. นักเขียนบำบัด หรือ การเขียนเชิงกระบวนการ การเขียนและศิลปะเพื่อพัฒนาชีวิต ดูแลจิตใจ  เพื่อรู้จักตนเองและใคร่ครวญชีวิต สกัดปัญญาภายในเพื่อแรงบันดาลใจในการก้าวย่างของชีวิต ๓. นักสะกดจิตเพื่อชีวิต การดูแลสุขภาวะองค์รวม … Continue reading ชุดอบรม ห้องเรียนนักกล้าฝัน ประจำปี ๒๕๕๘

๙ หลักสูตรอบรม สำหรับบุคคลทั่วไป สู่ ๙ ปี สถาบันธรรมวรรณศิลป์

๙ หลักสูตรอบรม สำหรับบุคคลทั่วไป  สู่ ๙ ปี สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ในปี ๒๕๖๐   ขั้นพื้นฐาน ๑. “เขียน = ค้นพบตัวเอง”  (มกราคม)  คอร์สกึ่งออนไลน์ และ อบรม ๒ วัน เขียนเพื่อรู้จักตนเอง ในมิติอันหลากหลาย ๒. “เขียน = ปลดปล่อยชีวิต” (มีนาคม)  คอร์สกึ่งออนไลน์ และ อบรม ๒ วัน เขียนเพื่อเยียวยา ดูแลหัวใจและร่างกาย ๓. “เขียน = มหัศจรรย์ชีวิต”  (พฤศจิกายน)  คอร์สกึ่งออนไลน์ และ อบรม ๔ วัน เขียนเพื่อภาวนา  บ่มเพาะชีวิตผ่านสัญญาณและสัญลักษณ์ชีวิต ๔. “เด็กน้อยภายใน” (มิถุนายน) กระบวนการจิตวิทยาและการบันทึกเพื่อโอบอุ้มและเยียวยาเด็กน้อยภายใน ๕. ค่าย “นักฝันกล้าใหม่”  (เมษายน)… Continue reading ๙ หลักสูตรอบรม สำหรับบุคคลทั่วไป สู่ ๙ ปี สถาบันธรรมวรรณศิลป์

บันทึกบทเรียน เขียน = ปลดปล่อยชีวิต ๒๕๕๘

บันทึกบทเรียน คอร์สกึ่งออนไลน์  เขียน = ปลดปล่อยชีวิต ๒๕๕๘   ” ผมได้เขียนบันทึกทั้ง 2 ชุดไป นี้ ผมรู้สึกว่า ตัวเองเริ่มกลับมาเป็นตัวของตัวเองมาขึ้นครับ โดยเราเริ่มที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ เราได้คิดถึงสิ่งที่จะส่งผลกระทบถึงตัวเองและเป้าหมายของตัวเองมากขึ้นครับ ซึ่งตอนนี้ผมเริ่มมองเห็นเป้าหมายในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราอยากทำ และจริงๆมันก็เป็นสิ่งที่เราฝันไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่เพราะเรามีความคิดที่ว่าเรื่องที่เราฝันนนั้นมันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆจริงๆหรอก แต่ตอนนี้ผมเราสามารถเชื่องโยงสิ่งที่เราฝันนั้น ให้เป็นระบบมากขึ้นและเชื่อมโยงมันกับกลับประสบการณ์ใหม่ๆของเรา”   (วิสวะ  กาย ,  นักศึกษา)   ” โลกภายในของเธอนั้นช่างยิ่งใหญ่เกินคาดเดาได้ และการเดินทางครั้งนี้ก็ไม่รู้ได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด การเดินทางยังคงดำเนินต่อไป ถ้าหากหัวใจเธอยังเรียกร้อง เธอก็ยังคงสรรค์สร้างหนทางสู่โลกภายในของเธอต่อไป และด้วยบทสนทนาแห่งชีวิต ที่จะนำพาเธอไปพบความมหัศจรรย์ และความยิ่งใหญ่ของชีวิตต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แล้วสักวันหนึ่งเธอทุกคนจะเข้าใจชีวิต…ชีวิตที่แท้จริงของเธอเอง ……………………………………………………………………………………………. ขอบคุณคุณครูโอเล่สำหรับการเรียนรู้ร่วมกันในครั้งนี้ ครูผู้บุกเบิกและนำทางการเดินทางสู่โลกภายใน คอยให้คำแนะนำและกำลังใจ การเรียนรู้ครั้งนี้มีคุณค่าและทรงพลังมาก อย่างน้อยก็เป็นก้าวแรกของความกล้าหาญ ที่เราจะได้ก้าวเข้าไปสำรวจโลกภายในของเรา และได้ทำความรู้จักตัวเราที่แท้จริงอีกครั้ง   สุดท้าย…ครูเป็นเพียงผู้นำทาง แต่เราเองจะต้องเป็นผู้ก้าวเดินต่อไปอย่างกล้าหาญ”   (ชาญชัย , พนักงานบริษัท)   ”… Continue reading บันทึกบทเรียน เขียน = ปลดปล่อยชีวิต ๒๕๕๘

อนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบับ ๐๔

อนุสารธรรมวรรณศิลป์ ๐๔ ณ มิถุนายน ๒๕๕๘ แรม ๑๔ ค่ำเดือน ๗   อนุสารรายครึ่งเดือน คืนเดือนเพ็ญและคืนเดือนมืด อ่านเพื่อประจักษ์ชีวิต ลิขิตเพื่อใคร่ครวญตน     ลำดับบทความในอนุสาร ๐๔   ๑. งานเขียนรางวัลธรรมวรรณศิลป์ เรื่อง เดือนและดาว ๒. คอลัมน์ ลมหายใจจับปากกา ตอน เป็นเพื่อน ๓. คอลัมน์ ธรรมะคือคุณากร ตอน สิ่งที่ควรแก่มนุษย์ ๔. คอลัมน์ ธรรมกวี   ดาวโหลดอนุสารได้ที่   อนุสารธรรมวรรณศิลป์๐๔ https://www.dhammaliterary.org/wp-content/uploads/2015/06/อนุสารธรรมวรรณศิลป์๐๔.pdf  

เป็นเพื่อน

  หายใจเข้า  ลมหายใจคือมิตรผู้หล่อเลี้ยง หายใจออก  ลมหายใจโบกมืออำลา  ย้อนกลับสู่ทางของกัน เนื้อหาแรกของการอบรมการเขียนเยียวยาและการเขียนพัฒนาชีวิต ของสถาบันธรรมวรรณศิลป์  คือการดำรงอยู่กับบันทึกและการเขียนฉันมิตร เมื่อเราดำรงอยู่ร่วมกันด้วยความรู้สึกเช่นนี้  เราย่อมก่อเกื้อความรู้สึกไว้วางใจ  สร้างพื้นที่ชีวิตด้วยตนเอง  แม้แรกพบยังมิผูกพัน  ใจยังไม่อาจต่อใจ  อาจรู้สึกยากและลำบากบางสิ่ง  มืออาจยังไม่พร้อมแทนใจ  บันทึกอาจยังไม่พร้อมเข้าใจ ไม่เป็นไร  ค่อยๆ เข้าหาเช่นมิตรใหม่  เฉกเช่นเราหายใจเป็นครั้งแรก  ต้อนรับทุกสิ่งเข้ามา  และระบายทุกสิ่งออกไป  วางการตัดสินวิจารณ์ไว้ข้างกาย  ดำรงอยู่กับมิตรอย่างที่เขาเป็น ให้ทุกการเขียนเป็นดั่งการหายใจครั้งแรก  ดูแลมิตรแท้เพื่อนเก่า  ประหนึ่งเราเพิ่งรู้จักกัน หายใจเข้า  เราทำความรู้จักมิตรคนนี้  หากเราเก้อเขินต่อบันทึก  ยิ้มให้กับตัวเราที่เก้อเขิน และความสัมพันธ์ใหม่ที่กำลังผุดผลิ หายใจออก  ในการสอนหรือการอบรม  ผมมักแนะนำให้ผู้เรียนลองทำความรู้จักการเขียนในมุมมองตนเอง  และมุมมองของเพื่อน  ลองเล่าให้เขาหรือเธอรับฟังเสมือนหนึ่งผู้ที่เราจะเล่าทุกสิ่งได้เสมอ  เขาผู้รับฟังเราอย่างลึกซึ้ง  เขาที่จะเป็นเพื่อนเราอย่างไร้เงื่อนไข แน่นอน  เราอาจมีเงื่อนไขต่อเพื่อนคนนี้อยู่บ้าง  เพราะมีเด็กน้อยที่กลัวเกรงอยู่ในใจเรา  มีความระแวงต่อความแปลกหน้าต่อกัน  สิ่งเหล่านี้ก็มีคุณ  ทำให้เราระวังต่อกัน  เพื่อนเก่ายาวนานย่อมง่ายผิดใจหรือเกี่ยวงอนได้เพราะคำพูดเล็กน้อย  หรือการกระทำอันน้อยนิด ขณะที่เราต้องการการยอมรับอย่างไพศาล  เสมือนลมหายใจที่ไร้ขอบเขต  ด้านหนึ่งในตัวเราก็จำกัดตัวเองไว้  ในเงื่อนไขนานาต่อความสัมพันธ์  เรามีสนามอากาศไม่รู้ขอบเขต  แต่เรากลับขีดเส้นให้ร่างกายหายใจได้นิดเดียว  หายใจเข้าดูสิ … Continue reading เป็นเพื่อน

บันทึกบทเรียนอบรม ๖ เดือนผู้ต้องขังเรือนจำ ๒๕๕๘

บันทึกบทเรียนอบรม ๖ เดือนผู้ต้องขังเรือนจำ ๒๕๕๘   การเขียนบำบัดและจิตปัญญาพัฒนาชีวิต ณ เรือนจำสมุทรปราการ แดนหญิง แก่ผู้ต้องขังและผู้ติดเชื้อภูมิคุ้มกันบกพร่อง เรียนรู้จักตนและเพื่อน ความไว้วางใจ ทักษะชีวิต และคุณค่าของตน   ชมภาพทั้งหมดได้ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.901582619907106.1073741856.205984142800294&type=3&uploaded=19  

สายน้ำคือช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านไป #งานเขียนต่อยอดการรู้จักตนเอง

“สายน้ำคือช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านไป” งานเขียนจาก กิตติญา สุขญาติ ม.บูรพา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ การอบรมการเขียนเพื่อรู้จักตนเองและการสะท้อน   สายน้ำในลำธารจะไหลไปเรื่อยๆตามเส้นทาง จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำที่ห่างไกลและไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดที่ไหน ตลอดระยะเวลา 18 ปี ฉันได้เห็นและเรียนรู้สิ่งต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา โดยที่สิ่งต่างๆเหล่านั้นไม่เคยย้อนกลับมา ณ จุดที่เคยผ่านไปได้เลย เฉกเช่นเดียวกันกับสายน้ำที่ไม่เคยไหลย้อนกลับมายังจุดกำเนิดได้อีก…   สายน้ำที่เย็นฉ่ำในลำธารไหลจากต้นน้ำไปยังปลายน้ำ จากภูเขาลงสู่ลำธาร จากลำธารเล็กๆสู่ลำธารที่ใหญ่ขึ้น โลกใบเล็กๆเริ่มเติบโตสู่โลกที่กว้างใหญ่ จากภัยอันตรายแค่เพียงฝนตกกลับกลายเป็นพายุลูกใหญ่ โลกที่ใหญ่ขึ้นก็จะมาพร้อมกับอันตรายที่มากขึ้นเช่นกัน ภายใต้สิ่งที่เลวร้ายต่างๆทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง พายุฝน จนกระทั่งไฟป่าเป็นสิ่งที่เจ็บปวดและเลวร้ายมากสำหรับสายน้ำในลำธารอย่างเธอ ถึงแม้เธออยากจะช่วยเหลือเพียงใดแต่ก็ต้องช่วยเหลือตนเองให้รอดก่อน แต่กระนั้นเมื่อสิ่งร้ายๆผ่านพ้นไปความสงบสุขก็กลับเข้ามา ความอ่อนโยนจากสิ่งต่างๆ ริมลำธาร ทำให้ทุกอย่างดูสมบูรณ์และน่าจดจำเป็นที่สุด   ในวันหนึ่งที่สงบสุขเธอได้พบเจอกับดอกไม้ริมลำธารที่รวงหล่นลงในลำธาร ดอกไม้ล่องลอยและไหลไปตามแรงลมที่พัดผ่าน ดอกไม้ชั่งดูสวยงามและดูสนุกสนานกับสิ่งที่พบเจอ เธอไหลตามไปดูดอกไม้ที่ถูกสายลมพัดไปเรื่อยๆ เธอเพลิดเพลินกับสิ่งใหม่ที่พึ่งพบเจอมาก แต่สุดท้ายดอกไม้ก็หายลับไปเพราะถูกกระแสน้ำที่แรงพัดจมลงสู่ใต้ลำธารเธอเสียใจที่ช่วยดอกไม้ไม่ทัน เธอจึงบอกกับตัวเองว่า”นี่แหละคือชีวิตที่โหดร้าย”   สายน้ำในลำธารเล็กๆมีเส้นทางไม่มากนักที่จะได้เลือกไหลไป น้อยครั้งที่จะพบเจอทางแยก มันยากมาก ที่จะเลือกไปทางไหน และสิ่งที่ยากกว่าคือการที่เธอไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไร หลังจากเลือกเส้นทาง แต่ก็ต้องยอมรับสิ่งที่พบเจอหลังจากเลือกเส้นทางเพราะนี่คือการตัดสินใจของตนเอง   “โลกที่ดูสวยงาม สดใส และสงบ” อาจเป็นเพียงความคิดที่เธอหวังที่จะได้พบเจอหลังจากที่เธอเลือกเส้นทาง เธออยากที่จะพบเจอสิ่งต่างๆที่เหมือนกับถิ่นกำเนิดของเธอ… Continue reading สายน้ำคือช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านไป #งานเขียนต่อยอดการรู้จักตนเอง

ราตรีสีเงิน #งานเขียนต่อยอดการรู้จักตนเอง

“ราตรีสีเงิน” งานเขียนจาก จิรภัทร สุวรรณาภิรมย์ สาขา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ การอบรมการเขียนเพื่อรู้จักตนเองและการสะท้อน     ถ้าจะพูดถึงชีวิตของเราคงไม่แตกต่างไปจากเรื่องเล่าตำนานราตรีสีเงินมากเท่าไรนัก ราตรีสีเงินไม่ได้หมายถึงความมืดมิดยามค่ำคืนที่เป็นสีเงิน แต่หมายถึงมังกรพันธ์ราตรีสีเงินที่งดงาม สง่างาม ร่าเริงและซ่อนความร้ายกาจ สมดังราชามังกร แต่กว่าจะได้อวดโฉมให้ใครต่อใครได้เห็น ก็ต้องผ่านช่วงเวลาแห่งชีวิตมาอย่างหนักหนา จุดเริ่มต้นของเรื่องราว เริ่มจากสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ พยายามเจาะกำแพงที่ห่อหุ้มร่างอันน้อยนิดของตัวมันเอง เพื่อได้ออกมาเห็นโลกภายนอก มันก็เหมือนกับชีวิตเราที่เริ่มต้นเติบโตมาในท้องแม่ เพียงแค่รอเวลาเพียงเท่านั้น จนในที่สุดเวลาแห่งการต่อสู้ เรียนรู้ และเติบโตในโลกกว้างก็ได้เริ่มต้นขึ้น   ราตรีสีเงินน้อยได้ลืมตาดูโลกที่กว้างใหญ่ พยายามจดจำสิ่งรอบตัว สำรวจจนละเอียด ภายในสถานที่แห่งการเรียนรู้จุดแรกมันคือรังใหญ่โต ชีวิตที่น่าสงสารเริ่มนับจากนี้ เพราะสิ่งที่พบเจอคือการเป็นมังกรน้อยเพียงตัวเดียว และได้รับรู้ว่าตัวมันเองคือมังกรเพียงตัวเดียวในโลก และกำลังจะเลือนลางหายไปกับอดีตของโลกใบนี้ ก็เหมือนตัวเราที่เติบโตมาคนเดียว พอเราเริ่มที่จะเรียนรู้เป็น ก็พบว่าเรานั้นอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวมาตลอด จนทำให้เราตามหาใครสักคนให้มาเป็นเพื่อน คนรัก จนกระทั่งคู่ชีวิตเพื่อเดินทางไปกับเราจนถึงปลายทางที่เราวาดไว้   ราตรีสีเงินก็เช่นเดียวกันมันดิ้นรน เพื่อคายเหงา เพื่อต้องการความอยู่รอดมันจึงเริ่มออกเดินทาง มังกรมีช่วงเวลาชีวิตที่เดินเร็วกว่ามนุษย์ธรรมดา มันจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ยามเมื่อแสงอัสดงต้องกายของราตรีสีเงิน ทำให้เห็นชัดว่าร่างกายของมันสง่างาม ผิวหนังแวววาวเหมือนเพชรราคาแพง พร้อมกับปีกอันใหญ่โตที่ตัดกับลำตัวอย่างเด่นชัด จนได้มาถึงหมู่บ้านแห่งสีสัน ที่เป็นเช่นนั้นเพราะตัวบ้านแต่ละหลังถูกแต่งเติมสีสันมากมายและผู้คนในหมู่บ้านต่างสนุกสนามกับชีวิตประจำที่ดำเนินต่อไป ราตรีสีเงินจึงเริ่มที่จะเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้คน… Continue reading ราตรีสีเงิน #งานเขียนต่อยอดการรู้จักตนเอง

การเดินทางของดอกหญ้าขาว #งานเขียนต่อยอดการรู้จักตัวเอง

การเดินทางของดอกหญ้าขาว โดย ศุภรัตน์ ศรีเมือง ม.บูรพา มส.พัฒนาชุมชน การอบรมการเขียนเพื่อรู้จักตนเองและการสะท้อน   “ ดอกหญ้าขาว ” ฉันได้เรียนรู้ที่จะบอกกับตัวเองถึงเรื่องราวการเติบโตของทุกช่วงเวลา ทุกการกระทำที่ได้รับจากประสบการณ์ต่างๆจากสิ่งรอบข้างและเส้นทางชีวิตที่รอคอยสำเร็จตามสิ่งที่เราเลือกเดินชีวิตเกือบ 20 ปี ที่ผ่านมานี้ ด้วยชีวิตของของดอกหญ้าขาว ดอกหญ้าขาว พรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ดอกเป็นสีม่วงหรือสีชมพู พอดอกแก่จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ผลแห้งเมล็ดอ่อน มีเมล็ดเดียวลักษณะเป็นทรงกระบอกแคบมีสีน้ำตาลเข้ม ด้านบนมีสีขาวปกคลุม ผลเป็นพู่แตกบาน ช่วยทำให้เมล็ดลอยไปตามลมได้ แต่สายลมที่พัดผ่านมานำความกล้าและประสบการณ์ใหม่จากทั่วฟ้าดิน วันหนึ่งดอกหญ้าขาว เธอกำลังจะออกไปเผชิญโลกกว้างในสถานที่ใหม่ แล้วกลับมามองตัวเองพร้อมตั้งคำถามว่าที่ผ่านมา เธอเลือกเส้นทางที่ถูกต้องใช่แล้วหรือไม่ ? เธอเติบโตบนพื้นหญ้าแห่งหนึ่งโดยมีการดูแลเอาใจใส่จากต้นไม้ใหญ่ เธอได้รับสารอาหารและร่มเงาของต้นไม้ต้นนั้น ต้นไม้เลี้ยงลำต้นเล็กๆของดอกหญ้า จนเติบใหญ่ ที่อยู่รายล้อมด้วยดอกหญ้าและดอกไม้นานาชนิดด้วยกัน เธอมักได้รับความรัก การดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอ เธอจึงไม่กล้าตัดสินใจจากที่ที่เธออยู่ ไปเจอโลกภายนอกนัก เธอกังวลว่าที่ใหม่ที่เธอกำลังจะดินทางไปจะน่าอยู่เหมือนที่เธออยู่ทุกวันหรือเปล่า ? “ ทำไมต้องออกไปเผชิญโลกภายนอก ? ” นั้นเป็นความคิดของดอกหญ้าน้อยช่างสงสัย…. กระทั่งวันหนึ่งขณะที่เธอนั่งมองท้องฟ้าและต้นไม้ใหญ่ของเธอทันใดนั้น สายลมก็พัดพาเธอล่องลอยไปในอากาศ โดยไม่ทันตั้งตัว เธอรู้สึกเสียใจ ที่ได้เห็นภาพที่เคยอยู่เป็นแค่ภาพความทรงจำ… “ ทำไมต้องหัดอยู่คนเดียว… Continue reading การเดินทางของดอกหญ้าขาว #งานเขียนต่อยอดการรู้จักตัวเอง

Rooms in The room #งานเขียนต่อยอดการรู้จักตัวเอง

งานเขียนจาก ณภัทร กำจัดภัย ม.บูรพา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ การอบรมการเขียนเพื่อรู้จักตนเองและการสะท้อน   ด้วยว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก มีคนมากมายเดินกันเต็มเมืองใหญ่ และพวกเราเป็นเพียงสสารที่เหมือนลอยอยู่ในเมืองนั้น ขณะนี้พวกเรามองเห็นประตูบานหนึ่งที่เปิดกว้างเหมือนกับว่ามันเป็นประตูเดียวที่พวกเราจะไปได้ ฉันต้องการที่จะผ่านประตูนั้นเข้าไป และเดินไปไม่สิ้นสุด พวกเราหวังอย่างนั้น แต่ความฝันเฟื่องเริ่มกัดกินและทำร้ายพวกเรา พวกเรามีเพิ่มขึ้นตลอดทางที่พวกเราเดินผ่าน ต่างพวกต่างคนรู้จักกลับมาเป็นมิตรกัน พวกเรามีมากพอที่จะฝ่าฟันปัญหาต่างๆ พวกเราเริ่มที่จะค้นหาประตูบานใหม่ๆ มันทำให้เส้นทางมีสีสันมากขึ้น มีเหตุการณ์มากมาย ทั้งดีและร้าย พวกเราเปิดประตูบานแล้วบานเล่า ซึ่งประตูแต่ละบานมีความแตกต่างกัน จึงทำให้ต่างคนต่างแยกกันไปในแต่ละประตู รอเพียงเวลาที่จะมีโอกาสเปิดประตูมาอยู่ในห้องเดียวกัน และพวกเราไม่สามารถรวมกันได้ครบซักที มันเหมือนว่าพวกเราทั้งหมดนั้นติดอยู่ในเขาวงกรด ที่ไม่สามารถออกมาได้ เดินวนอยู่ในที่เดิมๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อพวกเรามีความคิดมากขึ้น พวกเราต้องการที่จะไปในห้องใหม่ๆ หาประตูใหม่ๆ พวกเราเพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกัน ในตอนนี้พวกเราผ่านห้องต่างๆมามากมาย พวกเราคิดว่าพวกเราผ่านห้องต่างมามากมาย พวกเราคิดว่าพวกเรารู้ทุกอย่าง แต่จริงๆแล้วพวกเรารู้เพียงน้อยนิดมากถ้าเทียบกับคนอื่นที่ผ่านห้องมาหลายห้อง เพราะเราเป็นเพียงสสารหนึ่งบนโลกใหญ่ ที่มีประตูมากมายให้เราเปิดซึ่งเราไม่มีทางที่จะเปิดมันได้หมด พวกเราเริ่มยอมรับว่าพวกเรายังเด็กต่อโลก และประตูที่พวกเราเลือกมันพาให้เราติดและวกวนอยู่ในห้องเดิมๆ เพราะในห้องทุกห้องมีสภาพแวดล้อม สังคมที่แตกต่างกันมาก ขนาดของห้องทำให้เราใช้เวลาในการหาประตูบานถัดไปนานยิ่งขึ้น เราต้องค้นหาประตูแข่งกับเวลาชีวิต พวกเรามีเวลาไม่มากเท่าไหร่ พวกเราต้องบริหารเวลา พวกเราพยายามที่จะค้นหาประตูถัดไปในตอนนี้ เพราะพวกเราคิดว่าพวกเราอยู่ในห้องที่กว้างใหญ่นี้มานานเกินไปแล้ว และคนในห้องถัดไปก็ไม่ชอบสภาพแวดล้อมของห้องเรา แต่ต่างคนต่างมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาก็มีเหตุผลของเขาที่เลือกประตูนั้นๆ พวกเราไม่สามารถที่จะลากหรือฉุดใครให้เข้ามาในห้องที่เราต้องการได้ เขาคนนั้นเท่านั้นที่จะเป็นคนเลือก บางคนเมื่อเลือกแล้วก็อาจไม่ต้องการที่จะหาประตูใหม่ๆเพราะเขานั้นพอใจในสภาพแวดล้อมในห้องนั้นๆ เขาจะอยู่กับมันจนเขากลายหนึ่งเดียวกับห้องนั้น… Continue reading Rooms in The room #งานเขียนต่อยอดการรู้จักตัวเอง