“สิ่งหนึ่งที่กล้าพูดอย่างเต็มปากคือ ผมเป็นครูอยู่ทุกวันนี้ เพราะปมด้อยทั้งนั้น เรื่องที่สอนได้สอนดี เทคนิควิชาที่ใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ หรือแม้แต่จุดเด่นของการเป็นครูก็ตาม
ล้วนมาจากความบกพร่อง ปมด้อย และความไม่ดีพอของผม มิว่าทางใดทางหนึ่ง บางเรื่องก็ไม่รู้ตัว จนมานั่งทบทวนดีๆ จึงเห็นว่ามันเกิดขึ้นโดยมีปมในอดีตเป็นสาเหตุมาแทบทั้งสิ้น”
– บทที่สอง : ความไม่สมบูรณ์แบบ คือของขวัญล้ำค่า
“การถูกว่าหรือถูกวิจารณ์ในทางลบจากคนอื่น ไม่ได้แปลว่าตนเองมีคุณค่าน้อยลง การถูกพูดลบหรือกระทำไม่ดีจากคนอื่น ก็มิได้เป็นเครื่องตีตราว่า ผมมีคุณค่าน้อยลง อย่างที่ผมเคยตัดสินตีความเพราะเงื่อนไขในหัวใจ ลองมองในทางกลับกันคือ เพราะเรามีคุณค่า เราจึงถูกวิจารณ์ หรืออย่างน้อยก็มีค่าพอให้เขาใส่ใจ จึงถูกวิจารณ์
“การที่มีคนชื่นชม จริงๆ แล้วก็อาจไม่สามารถตีความได้ว่า เรามีคุณค่ามากขึ้น อย่างที่ยอดดาวในรีวิวร้านอาหาร ก็ไม่ได้ช่วยให้ความอร่อยหรือคุณค่าทางสารอาหารของเมนูในร้านนั้นให้มากขึ้นเท่าไร”
– บทที่สาม : พร้อมโดนเกลียด จึงกล้าสอนสิ่งที่ยากสอน”