มองคนเช่นฟ้า ปรากฎการณ์บนความว่างเปล่า

  ไม่มีคนเลวร้าย มีแต่ความมัวหมอง ไม่มีคนดีเลิศเลอ มีแต่ความผุดผ่อง . ประเดี๋ยวมืดมน ประเดี๋ยวสว่าง ฟ้าเช่นคน ผืนผ้าใบความว่าง . เขา…ไม่ใช่ตัวตนแท้จริง แค่เพียงภาพของจิต เธอวาดจากความจำ เติมสีไปตามใจ . อยู่ที่พู่กันปรุงแต่ง เท่าที่ความกว้างผ้าใบ จะอนุญาตเขาแสดง ความเป็นไป . เธออยู่ในมุมที่มีแสงพอไหม สำหรับการมองเขา ไยภาพจึงมืดมน ใจตนก็ขุ่นข้อง . แค่สีที่ละเลงเป็นลวดลาย สมมติเองว่าเป็นใคร จับแสง เสียง สัมผัส รับรู้ ป้ายเป็นชื่อถือครอง . เขา…เป็นแค่ภาพในเธอ มิใช่คนดี หรือเลวทราม แค่สีสันไม่เที่ยงแท้ และไม่พ้นความเป็นทุกข์ . มองคนเช่นฟ้า ปรากฎการณ์บนความว่างเปล่า เมฆรูปร่างต่างๆ นานา รู้ทันหากจินตนาการไป . อย่าให้ใจช้ำเพราะชื่นชม หรือตรมเพราะติเตียน ความว่างเปล่าที่เราตั้งชื่อ หลงนึกว่าคือตัวตน . เนตัง มะมะ เนโส หมัสมิ… Continue reading มองคนเช่นฟ้า ปรากฎการณ์บนความว่างเปล่า

จะหวังก็จงหวังอย่างอาจหาญ

  อย่ากลัวความผิดหวังเลย เธอจะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน หนีความไม่ได้ดั่งใจ มิได้หรอก โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเธอนะ . ผิดหวังคือแตกต่างจากความคิด ผิดแผกจากที่โลภ โกรธ หลง มันไม่เป็นไปตามคาด แค่เป็นไปตามวิถีโลก . อะไรมีเหตุจะต้องเกิด ถ้ามันดี ปล่อยให้ปรากฎ ถ้ามันเลวร้าย ใคร่ครวญก่อน เหตุอันใดส่งผลกัน . ดีงามก็ตามปัจจัย ลูกโซ่ของกรรมอเนกอนันต์ หาใช่เพียงเพราะจากจิต คิดนึกอะไร ใช่อย่างนั้น . เลวทรามก็ตามปัจจัย ผลกระทบสลักเสลาลิขิต แม้ความหวังก็เหตุนำไป เธอไม่ได้เป็นเจ้าของ . จะหวังก็จงหวังอย่างอาจหาญ วาดความนึกฝันบนความจริง ยอมรับใช่ปล่อยใจหดหู่ ตั้งมั่นบนอนัตตา อนิจจัง . ความผิดหวังมิใช่ส่วนเกิน ชีวิตกว้างใหญ่กว่าใจคาด โลภ โกรธ หลง จนเพลิดเพลิน เธอก็เผลอบีบชีวิตเล็กแคบ . สมหวังมิใช่ส่วนต่าง แค่ผิดหวังช้ากว่า เป็นหนึ่งเดียวกันในความว่าง ผิดหวังคือสำเร็จที่มาช้า . เนตัง มะมะ เนโส หมัสมิ… Continue reading จะหวังก็จงหวังอย่างอาจหาญ

มิมีสิ่งใดให้โทษนอกจากกรรม

  กรรมเป็นนาย ผู้บริบาลและเบียดเบียน กำหนดความเป็นและความตาย ความสุขสบายและโรคระบาด อยู่ในกำมือของกรรม มิใช่ตัวตน . เรามีกรรมร่วมจึงอยู่ร่วมสมัย ทั้งมวลมิตรและเหล่าอริร้าย เพราะกรรมร่วมจึงอยู่ร่วมภัย หาใช่เพียงเพราะใคร . มิมีสิ่งใดให้โทษนอกจากกรรม ห่วงโซ่ของการกระทำและเหตุผล เป็นไปตามความจริงเรียกว่าธรรม เพียงสัตว์โลกผู้เวียนว่ายกับทุกข์ทน . เราทั้งหลายผู้มีกรรมนำมา จะเลือกกระทำกรรมใดสืบไป ชีวิตเป็นของน้อยนัก แต่ช่างหนักหนา กว่าจะปล่อยจากอัตตาได้ . โกรธแค้นก็รวดร้าว เศร้าไปก็เสื่อมสูญ โลภก็ว่างเปล่า กลัวก็เท่านั้น เป็นแค่กรรม เกิดแต่กรรม . ทะเลแห่งทุกข์ช่างแสนกว้าง ยอมจมดิ่งลึกใช่หนทาง เพียรว่ายไปถึงฝั่งอันไกลห่าง ยังมีโอกาสพบเรือแห่งความว่าง . อย่าจมตัวเองและดึงผู้อื่นเลย กรรมนำเรามาถึงจุดนี้แล้ว มิมีฉันหรือเธอผู้ทำร้าย เป็นแค่กรรมร่วม เกิดแต่กรรมร่วม . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” ตอนที่ ๓๔ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ . .… Continue reading มิมีสิ่งใดให้โทษนอกจากกรรม

แค่รู้สึกว่ามีอยู่ มิได้แปลว่ามีอยู่

  อะไรที่ไม่ใช่ของเรา ย่อมไม่เป็นของเรา อะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา ย่อมไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่เข้าใจ เหมือนตัวเราเป็น . อะไรที่ไม่ใช่ตัวตน คว้าไปก็ว่างเปล่า แค่รู้สึกว่ามีอยู่ มิได้แปลว่ามีอยู่ . เธอเข้าใจไหม ? แม้แต่กายและใจ ที่เรียกว่าตนเอง เธอยังมิอาจครอบครอง . นับประสาอะไรเล่า กับสิ่งนอกตัว ซึ่งไม่เป็นของเรา และไม่เป็นตัวเรา ตั้งแต่ต้น . เขาเป็นร่างกายของเธอก็หาไม่ เขาเป็นใจของเธอก็มิใช่ สิ่งทั้งหลายที่ผูกไว้ แค่ความรู้สึกนึกไป . จะคาดหวังอะไรมายา จะวาดฝันอะไรกับอนัตตา เราต่างก็เป็นมายาของความคิด และอนัตตาของจักรวาล . เธอร้องไห้ให้กับความว่างเปล่า ขณะที่เธอก็ว่างเปล่า แต่หากเข้าใจถึงเรื่องนี้ ชีวิตที่เหลือก็ไม่ว่างเปล่า . เนตัง มะมะ เนโส หมัสมิ นเมโส อัตตาติ นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ คอลัมน์… Continue reading แค่รู้สึกว่ามีอยู่ มิได้แปลว่ามีอยู่

เริ่มที่อารมณ์ จบที่อารมณ์

  ได้มาก็มีทุกข์ เสียไปก็มีทุกข์ สมหวังก็มีทุกข์ ผิดหวังก็มีทุกข์ เริ่มที่อารมณ์ จบที่อารมณ์ เธออย่าโทษคนอื่นเลย เราหาเรื่องทุกข์มิต่างกัน เลือกทางยาก เผชิญวิบากกรรม บนโลก คว้ามาก็ว่างเปล่า อาลัยก็ว่างเปล่า มองหาก็ว่างไร้ มิอาจเป็นอะไร ของอะไร เธอเลือกทางยากนี้ บนวิถีแห่งกายใจ เดี๋ยวก็รู้เอง เกิดขึ้นและลับหาย แค่อารมณ์ พันธะเดี๋ยวก็ล่วงเลย เราผูกไว้ไม่ได้ตลอด ด้ายที่ปั่น ไหมที่ร้อย เดี๋ยวก็เปื่อยรุ่ย คิดถึง หรือ คาดหวัง แยกให้ดี ก่อนมันแยกใจ แตกสลาย มีแค่นี้ เริ่มที่อารมณ์ จบที่อารมณ์ เวทนา มิใช่อัตตา เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะ เมโส อัตตาติ นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน   อนุรักษ์ ครูโอเล่ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” ตอนที่ ๓๒ ๗… Continue reading เริ่มที่อารมณ์ จบที่อารมณ์

ความเก่งแค่ปัญญาที่ผ่านทาง

  ความเก่งเรื่องใดๆ ดั่งผลไม้บนลำต้น งอกงามจากร่างกายและจิตใจ หล่อเลี้ยงจากดิน น้ำ แสงตะวัน และปุ๋ยปรุงปรน มีวันสุกงอมให้เก็บเกี่ยว มีวันเหี่ยวแห้งจาก . เธอเป็นต้นไม้ทั้งต้น มิใช่แค่พืชผล ไม่อาจเป็นเจ้าของทุกสิ่งบนกิ่งก้าน วันหนึ่งถูกเด็ดไป วันหนึ่งก็ร่วงหล่น อะไรมิใช่ของเรา ต้องคืนเขาไม่ช้านาน . แค่ผ่านมาทางเธอเพื่อส่งต่อ จากครูอาจารย์ จากสังขาร จากหนังสือ จากปัจจัยปรุงแต่ง จากผืนดินที่เธออยู่ หวนกลับไปสู่แผ่นดิน ความเก่งแค่ปัญญาที่ผ่านทาง และการกระทำของกายใจ . ผลไม้มิได้งอกงาม เพื่อความอิ่มของต้นไม้ แต่เป็นสัตว์น้อยใหญ่ และความอุดมของป่า ทุกผลที่หล่นร่วง หล่อเลี้ยงชีวิตใกล้ไกล ประดับไว้ที่ตนเอง รอเน่าเสียไร้ค่า . เปลือกห่อหุ้มเนื้อเพื่ออุ้มพาเมล็ดพันธุ์ หลอกล่อด้วยรสชาติและกลิ่นยวนยั่วอันชั่วคราว ความพอใจที่ได้เก่ง แค่เปลือกเนื้อที่ลิ้มลองกัน ความอวดโอ่ เบ่งอิ่มได้ไม่นานก็ว่างเปล่า . เมื่อร่างกายทรุดโทรม ความสามารถก็เสื่อมถอย เมื่อจิตใจไม่เที่ยง ศักยภาพใดจะคงทน เมื่อสิ่งแวดล้อมไม่เอื้อ พรสวรรค์ก็รับผลพลอย เมื่อหวังให้เก่งตลอดไป ใจก็ยิ่งทุกข์ . จงปล่อยให้สิ่งที่เธอทำ… Continue reading ความเก่งแค่ปัญญาที่ผ่านทาง

มีสิ่งสำคัญล้ำค่ากว่าปีใหม่

  มีสิ่งสำคัญล้ำค่ากว่าปีใหม่ คือความเสื่อม ความสำเร็จ ของปีก่อน คือรอยยิ้ม คราบน้ำตา ความหม่นหมอง สิ่งที่เริ่ม สิ่งที่จบ ไม่แน่นอน . สิ่งที่ตามหาในอนาคต ยังไม่ได้เกิดขึ้นในปัจจุบัน เกิดแล้วคือเธอผู้เฝ้าคอย และความจริงที่ต้องเท่าทัน . สิ่งล้ำค่ากว่าวันหน้าคือวันนี้ วันที่มี และไม่มี บางสิ่งบางอย่าง การทำ ไม่ได้ทำ มากเกินนับ สิ่งที่เผย สิ่งที่ลับ ซ่อนลวงพลาง . วัน เดือน ปี เพียงปฏิทิน สมมติเพื่อลำดับคำนวนเวลา แค่ตัวเลขและอักษรทั้งสิ้น แทนชีวิตที่ล่วงเลย . ไม่มีปีใหม่ตั้งแต่ต้น ไม่มีวันหน้าตั้งแต่ไหน แค่ตะวันขึ้นลงทิศออก-ตก และความเสื่อมถอยสู่ความตาย . ไม่มีพิธีกรรมเพื่อเริ่มใหม่ มีแต่กรรมใหม่ให้เธอเลือก เกิดแล้วแตกดับดั่งพลุไฟ เพียงพริบตาก็ผ่านไปแล้ว . เมื่อปีใหม่ วันหน้า มิได้มี จะเหลืออะไรเป็นของขวัญ สิ่งนั้นก็มิใช่ตัวตนให้หมายมั่น แต่เธอให้และรับได้ในปัจจุบัน . อยู่ตรงนั้น ปีใหม่ที่แท้จริง… Continue reading มีสิ่งสำคัญล้ำค่ากว่าปีใหม่

รู้ว่าไม่รู้ก็ยังดี ไม่รู้ว่าไม่รู้จึงมืดมน

    เธอยังเป็นเพียงนักเรียนของโลกใบนี้ แม้จะเป็นครูของใครบางคนก็ตาม มีอีกมากที่อาจเชื่อว่ารู้ดี แต่ยังมืดบอดบางมุมที่ควรตรอง . สิ่งที่คิด วันหนึ่งก็แปรเปลี่ยน เธอหนีมันไม่ได้หรอกนะ บทเรียนของการเวียนว่ายจะแวะเวียน ท้วงทักให้แลเหลียวไม่ลดละ . เพราะไม่รู้ จึงหลงและอยากใคร่ สร้างคุกคุมขังใจของตน เธอโทษคนอื่นและระบบไม่ได้ ความรู้ที่มีไม่ช่วยให้หลุดพ้น . ความเข้าใจไม่เคยคงที่ เพราะใจเอยมิอาจคงทน รู้ว่าไม่รู้ก็ยังดี ไม่รู้ว่าไม่รู้จึงมืดมน . เธอยังต้องเรียนรู้ ความคิดมิอาจเป็นใหญ่กว่าความจริง สิ่งที่เห็นแค่ส่วนเสี้ยวที่มองดู คำตอบ…ไม่ใช่จุดจบ . มีคำถามไว้…ให้ใจเปิด ฝากการเรียนรู้ดำเนินไป ความรู้แท้จริงเพื่อปลดปล่อย มิใช่เพื่อครอบครองค่าแก่ใจ . เธอรู้แน่ๆ นั้นไม่ยาก สัมผัสอะไรเกิดดับในตอนนี้ ดูให้เห็นอย่างแยบยล ตัวตนผู้รู้ก็ไม่มี . เป็นเพียงนักเรียนของโลก แต่เป็นครูของบางคน ขอแค่คำถามก็พอแล้ว คำตอบ… อย่ากอบไว้ให้ทุกข์ทน . เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะ เมโส อัตตาติ นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน .… Continue reading รู้ว่าไม่รู้ก็ยังดี ไม่รู้ว่าไม่รู้จึงมืดมน

ชีวิตก็เป็นเช่นนี้

    ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ อะไรที่เกิดก็ต้องดับ อะไรที่มาก็ต้องไป อะไรที่ได้ก็ต้องเสีย อะไรที่รุ่งก็ต้องร่วง อะไรที่เจอก็ต้องจาก อะไรที่สมหวัง วันหนึ่งก็ผิดหวัง . ผ่านพ้น เพื่อเปิดทางให้สิ่งใหม่ ล้มลง แล้วลุกเพื่อเริ่มต้น ผุพัง แผ้วถางให้ก่อเกิด เลวร้าย ล่วงมาเพียงชั่วคราว . ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ เห็นอะไรว่ามีตัวตน วันหนึ่ง วันหน้าก็รู้ว่าไม่มี แม้ทุกข์ที่ต้องทน เดี๋ยวก็ผ่านพ้นไป แม้สุขสมในวันนี้ เดี๋ยวก็ผ่านพ้นไป . ธรรมชาติ สอนธรรมชาติ ความเสียใจ สอนใจที่เสีย อะไรที่เป็นอย่างนั้น มันเป็นอย่างนั้น เมื่อถึงเวลา เปลี่ยนไปตามเวลา . สูงแล้วก็ต่ำได้ เท่าเทียมก่อนผกผัน ด้อยกว่าไม่ช้าเด่น พิเศษเพื่อธรรมดา ที่ว่าแน่ รอให้แย่ ตกต่ำเดี๋ยวไต่ขึ้น ชีวิตเป็นเช่นนี้ เรียก “ตถตา” . เธอไม่ต้องทำอะไร แค่เรียนรู้ เฝ้ามองดู ทำความเข้าใจ มิมีคุณค่าใด ให้รักษา… Continue reading ชีวิตก็เป็นเช่นนี้

ผิดหวังอะไรกับชีวิตที่ไม่เที่ยงแท้

    ชีวิตคือสายลมพัดผ่านไป รู้ถึงลมเพราะสัมผัส กระเพื่อมไหว รู้ว่าตัวเองมีชีวิต มิหาไม่ เพราะมีการรับรู้ที่กายและใจ . ตาเห็น จมูกดม หูยิน ลิ้นชิม กายสัมผัส ใจรู้สึก เหล่านี้คือชีวิต ที่เธอผูกพัน รอเสื่อมสูญ . ลมคืออากาศ ใช่ตัวตนหรือไม่ ชีวิตคือการรับรู้ ตัวตนอยู่ที่ใด เพียงธาตุประกอบกลุ่มกันมา เป็นกายใจ เป็นลม เป็นธรรมดา . ความน่ายินดีและไม่น่าพอใจ ว่างเปล่าบนขันธ์ทั้งปวง เธอเอาสุขและทุกข์มาจากไหน เมื่อสายลมแห่งชีวิตแค่ล่วงไป . ผิดหวังอะไรกับชีวิตที่ไม่เที่ยงแท้ เมื่อทุกอย่างแค่การรับรู้ มิได้เป็นเธอ หรือของเธอ เพียงพัดผ่านและล่วงลา . อยู่กับภาพที่ตาเห็นอย่างเต็มเปี่ยม อยู่กับเสียงที่หูยินไม่หลีกเลี่ยง อยู่กับสัมผัสกระทบกายอย่างที่เป็น ชีวิตอยู่ตรงนี้ มีดั่งลม . ไม่ต้องคว้าเอาไว้ให้เปล่าเปลือง เรามีหน้าที่แค่รับรู้ สิ่งที่มีค่าอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว แต่มิใช่ของใคร . เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะ เมโส อัตตาติ… Continue reading ผิดหวังอะไรกับชีวิตที่ไม่เที่ยงแท้