” การอบรม #เขียนเยียวยา ทำให้ได้กลับมามองดูในความรู้สึกของตนเองด้วยความสติรู้ตัว ได้เหลียวมองถามความรู้สึกของหัวใจ ได้ส่งความรู้สึกดีๆให้กลับหัวใจ ได้ปรับปลี่ยนขยายมุมมอง การให้ความหมาย หมั่นสำรวจความเชื่อต่างๆที่ตนถืออยู่ว่า มีอุปสรรคต่อตนเองหรือไม่ นอกจากนั้นคอยเติมพลังงานด้านบวกให้กลับตนเอง พาเราหมั่นมองสิ่งต่างๆในด้านอื่นๆขยายขอบเขตจากการตีความเดิมๆ ถามตนเองในมุมมองของคนอื่นๆ เปรียบเช่นเดียวกับในไปรษณีย์ตอบจากผู้ที่เราเขียนถึงว่า เขาจะตอบมาอย่างไรในมุมมองของเขา . ” ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในการเรียนรู้ครั้งนี้ ตั้งแต่การเข้าไปทำความเข้าใจกับทุกข์ที่เราถือ ยึดมานาน การเยียวยาตนเองผ่านกระบวนการ ต่อเนื่องด้วยการให้เห็นถึงมุมมองด้านดีๆ ที่เรามีมานานในชีวิต แต่ด้วยเดิมตาเรามองแต่ความทุกข์ไม่เคยเห็นความสุขที่มีอยู่ขณะเดียวกัน . ” จากกระบวนการนี้ทำให้เรามองความทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นจุดบ่มเพาะความเข้าใจและดื่มด่ำในความสุขที่มีอยู่ได้มากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นหากเราจะส่งพลังงานดีๆออกไปสู่ภายนอกได้อย่างไร ถ้าภายในใจเรายังไม่สัมผัสถึงสิ่งๆนั้น จากกระบวนการทำให้เราสามารถสัมผัสถึงพลังงานดีๆจนสามารถแผ่ออกนอกตัวได้ทั้งสีหน้าและแววตา . คุณสุนันทา (นัน) อาชีพ วิทยากรอิสระ . . ” รู้สึกดีที่ได้บันทึกความรู้สึกตามรูปแบบและแนว การกำหนดหัวข้อต่าง ๆ มีส่วนช่วยให้ได้เจาะความรู้สึกตัวเองในเรื่องนั้น ๆ ลงเชิงลึกขึ้น ชอบบันทึกหัวข้อ จดหมายจากร่างกาย ล้วงลึกสิ่งรบกวน จดหมายจากไอดอล และฉันโชคดี . ” ทำให้ได้รู้จักรักตัวเอง ได้เห็นอารมณ์ลบที่มีผลต่อความรู้สึกในการบันทึก… Continue reading ความประทับใจ การอบรม “เขียนเยียวยา” รุ่นที่ ๒๖ (๓)
Category: เขียนเยียวยา
ความประทับใจ การอบรม “เขียนเยียวยา” รุ่นที่ ๒๖ (๒)
” ได้ค้นพบว่า การเขียน สามารถ เยียวยา หรือ บำบัด ตนเองได้จริงๆ การเขียน ไม่ใช่เขียน เพื่อระบายเพ้อเจ้อ แต่เราได้ข้อสรุปในตัวเอง จากการตอบคำถามต่างๆ นั่นคือ การเขียนในรอบสอง. เหมือนการกรองกะทิ ความคิดของเรา ตกผลึกได้ เป็นเรื่องใหม่ สำหรับเราจริงๆ . ” เราเห็นตัวเอง ผ่านตัวหนังสือของเรา และค้นพบว่า เราเคยละเลยหลายอย่างในตัวเรา ละเลยมือซ้าย มือที่เขียนไม่ถนัด. นึกถึงอวัยวะ ในส่วนอื่นๆ เหมือนว่าทุกส่วน ล้วนสำคัญทั้งนั้น. เท่ากับ เราเริ่มรักตัวเอง และอยากถนอมตัวเองมากขึ้น . ” เมื่อรักตัวเองได้ เราก็มีความสุข สดชื่น ตามมานั่นเอง” . คุณสุนทรี (กบ) อาชีพ ค้าขาย . . ” ในการอบรมครั้งนี้ประทับใจตัวเองที่ตั้งใจเขียนมากขึ้นและประทับใจครูโอเล่ที่ให้คำแนะนำ หลังอบรมคิดว่าจะเขียนไปเรื่อยๆทั้งหัวข้อที่เคยเขียนแล้วและที่ยังไม่ได้เขียน รู้สึกขอบคุณครูค่ะ การอบรม… Continue reading ความประทับใจ การอบรม “เขียนเยียวยา” รุ่นที่ ๒๖ (๒)
ความประทับใจ การอบรม “เขียนเยียวยา” รุ่นที่ ๒๖
” การอบรมแบบ กึ่งออนไลน์ทำให้เข้าถึงและลงลึกถึงปัญหาที่เราติดอยู่และเข้าใจตัวเองตามความจริงมากขึ้น ชอบหัวข้อ เสียงวิจารณ์ภายในเพราะช่วยให้ตัดสินใจเรื่องต่างๆในแบบที่เราเป็น การอบรมได้พาเรากลับมารอยู่เคียงข้างความรู้สึกไม่ดี ยอมรับตัวเอง รู้จักความชอบความต้องการแท้จริง ไม่โทษตัวเองเวลาเราคิดลบ แต่เปลี่ยนเป็นความเข้าใจ และมองด้านร้าย ดีแบบเป็นกลาง . ” ได้ข้อคิดถึงการใช้ชีวิตมีวามสุขโดยใช้ความต้องการแท้จริงของตัวเองเป็นหลัก ทุกอย่างมีร้าย ดี อยู่ในสิ่งสิ่งเดียวกันให้มองหาข้อดีเพียง1% ในร้ายและเก็บมันมาใช้ประโยชน์ เวลาอึกอัดจากภายนอกสิ่งรบกวนให้เปิดพื้นที่ให้ตัวเองออกมาก้าวหนึ่ง เพื่อลดการตัดสิน และมีเวลาได้ทบทวนแยกแยะสิ่งที่เกิดขึ้น จะได้ไม่ทุกข์ จากภายนอก ” . คุณณัฐรดา (กันเอง) อาชีพ งานอิสระ . . ” ยอมรับว่ามีเวลาน้อยในการเขียนกิจกรรมต่างๆ แต่พบว่า แทบทุกหัวข้อล้วนได้เปิดโอกาสให้ทบทวนตนเอง คิดว่า จะหาเวลากลับไปทยอยทำในหัวข้อที่ยังไม่ได้เขียนครับ เป็นการลงเรียนที่ไม่ยาก ได้ประโยชน์ และหัวข้อต่างๆ ที่ ครูโอเล่ ชี้ชวนให้เราได้ใคร่ครวญ ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากๆ ในการทบทวนตนเองครับ . ” ได้ใช้เวลาในการสำรวจลงไปในความต้องการ ความรู้สึก อุปสรรค ทำให้เราได้ค้นพบ จุดแข็งและจุดอ่อน… Continue reading ความประทับใจ การอบรม “เขียนเยียวยา” รุ่นที่ ๒๖
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๐ (๒)
” สิ่งที่รบกวนใจในแต่ละหัวข้อนั้น มีจุดร่วมกันอยู่เพียงอย่างเดียว คือ ความรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีพอ เหมือนที่ครูสรุปมาให้ . เอาเข้าจริง จุดใหญ่ที่รบกวนใจเสมอมา คือการประเมินตัวเองว่า”ด้อย” ไม่มั่นใจในการเริ่มต้นทำ และกลัวกับการถูกตัดสินเมื่องานนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว . การรับทราบและยอมรับความจริงว่า ธรรมชาติของตัวเราเป็นเช่นนี้ จึงหันกลับมาพิจารณตัวเอง ด้วยใจเป็นกลาง ทำให้กลับมารักตัวเองได้มากขึ้น จากที่ละเลยการดูแลจิตใจตัวเองมานาน ยอมให้อภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ เมตตาตัวเอง ปลอบโยนตัวเองในเวลาที่อ่อนแอ อ่อนไหว ไม่กล่าวโทษ หรือจับผิดตัวเองอยู่ตลอดเวลา อย่างเคย . ซึ่ง มันดีค่ะ ครู รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก ก่อนหน้านี้ ใช้ชีวิตเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่เรียกว่า ความสมบูรณ์แบบ วันนี้ เข้าใจ และตระหนัก แล้วว่า ความสมบูรณ์แบบในโลกนั้น ไม่มีอยู่จริง . ทุกเรื่องราวต่อจากนี้ จะทำอย่างมีสติ รู้เท่าทัน รู้ตัวทั่วพร้อม ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำให้เต็มที่ในเวลานั้น และยอมรับกับผลที่จะเกิดขึ้น . เพราะ เราเป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ ของโลกใบนี้… Continue reading บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๐ (๒)
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๐
บทเรียนจากการอบรม “เขียนเยียวยา” หลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๐ ” สิ่งที่ได้จากการอบรมในครั้งนี้คือ การได้กลับมาอยู่กับตัวเอง เห็นความสำคัญของการมีสติระลึกรู้ถึงลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ตามดูตามรู้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเมื่อทำเช่นนี้บ่อยๆก็ทำให้การงานต่างๆที่ทำสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี มีสติรู้สึกตัวมากขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย เห็นการทำงานของกายและใจได้มากขึ้นค่ะ สิ่งที่สัมผัสได้คือการที่คุณครูสอนให้เรารู้จักรักตัวเอง ให้พยายามดำเนินชีวิตอยู่ในทางสายกลางที่จะไม่สุดโต่งไปทางข้างใดข้างหนึ่ง ให้ใช้ชีวิตอย่างมีสมดุล สุข สงบและแบ่งปันได้ ให้ใช้ความรู้สึกมากกว่าความคิด และสอนให้เรามีมุมมองในชีวิตที่กว้างขึ้นเพื่อจะได้อยู่ในโลกได้อย่างมีความสุขมากขึ้นค่ะ . ถึงแม้ว่าการอบรมครั้งนี้จะไม่เข้มข้นเท่าคอร์สการเขียนภาวนา (หนึ่งในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต เช่นเดียวกัน) ที่เคยเรียนมา แต่ก็ทำให้ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น เกิดมุมมองที่แตกต่างออกไป การได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดกับคุณครูทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆ หรือมุมมองใหม่ๆที่เราไม่เคยรู้สึกหรือเคยมองมาก่อนเลย จึงชอบที่จะฟังความคิดเห็นของคุณครู ถึงแม้ว่าบางครั้งอ่านแล้วจะไม่ค่อยเข้าใจมากนัก ต้องอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อให้เกิดความเข้าใจและรู้ว่าคุณครูต้องการจะสื่อสารอะไรกับเรา แต่ก็สนุกที่จะได้เรียนรู้ผ่านการเขียนเช่นนี้นะคะ เพราะถ้าเราเขียนอยู่ฝ่ายเดียวเราก็จะมีความคิดอยู่ในวงแคบ เป็นความคิดความเห็นของเราคนเดียว มันจะไม่ค่อยได้พัฒนาเท่าที่ควร แต่ถ้ามีใครมาคอยชี้นำให้เราเดินไปทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง ก็จะทำให้เราได้พบเห็นทางเดินใหม่ๆ ได้พบเห็นสิ่งใหม่ๆ ได้ความรู้ใหม่ๆ และได้มุมมองใหม่ๆมากขึ้น ชอบค่ะ ขอขอบพระคุณคุณครูโอเล่มา ณ ที่นี้ค่ะ ” .… Continue reading บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๐
รวมบันทึกสรุปอบรม “เขียนเยียวยา” เมษายน ๒๕๖๐
จากการอบรมในห้องสองวัน ของชุดหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต หัวข้อ “เขียนเยียวยา” เมื่อวันที่ ๒๙-๓๐ เมษายน ๒๕๖๐ www.dhammaliterary.org เปิดอ่านเพิ่มเติมได้ที่อัลบั้มรูปเพจเฟสบุ๊ค
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๖)
บทเรียน เขียนเยียวยา (รอบสอง) หลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต ๒๕๕๙ ************ “สำหรับบทเรียนต่างๆ ที่ผ่านมานั้นนับตั้งแต่ก้าวแรกที่เริ่มเดินเพื่อที่จะทำความรู้จักกับข้อดีภายในตัวเราผ่านคุณบันทึกพี่หมีตัวใหญ่ติดปีกสีเทา ที่พร้อมจะรับฟังเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตเราอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งได้ก้าวต่อไปรู้จักกับหัวใจของตัวเองได้รับฟังเสียงจากหัวใจที่จริงๆ แล้วก็มีเสียงดังอยู่ในหัวของเราปะปนกับเสียงอื่นๆ อยู่ตลอดเวลา เพียงแต่เราไม่เคยได้คิดจะหยุดฟังอย่างตั้งใจ จากตอนทีเริ่มต้นบันทึกใหม่ๆ เรียกได้เลยว่าเป็นคนที่คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้จักความต้องการของตนเอง มักเลือกเดินในเส้นทางที่คนรอบข้างคิดว่าดีเสมอ เรียกว่า ถูกคำพูดความคิดเห็นของคนที่แวดล้อมเตะไปเตะมาเสมอ แม้จะมีบ้างครั้งที่ทำตามหัวใจของตนเองแต่ก็ยังรู้สึกกังวลว่าสิ่งที่เลือกมานั้นดีจริงๆ แล้วเหรอ นั่นหมายถึงว่าฉันไม่กล้าฟังเสียงของหัวใจและเลือกมีชีวิตตามหัวใจของตนเอง จนกระทั่งผ่านบันทึกมากมาย ฉันค้นพบว่า ฉันช่างมีหัวใจที่แกร่งซ่อนอยู่ในตัวเป็นหัวใจที่ดีมากมาย เต้นอย่างแข็งแรง กระหายรอการรับฟังจากฉัน เพื่อที่สักวันฉันจะฟังเสียงหัวใจและกล้าก้าวไปเผชิญหน้ากับความกลัวในใจเพื่อจะได้ทำสิ่งที่หัวใจเรียกร้องเสมอมา และเมื่อพบว่าตนเองนั้นก็มีหัวใจก็ได้รวบรวมความกล้าที่จะกลับไปในอดีตเพื่อเข้าไปทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยเด็ก และฉันได้เห็นว่านี่ฉันปล่อยให้เด็กน้อยร้องไห้อย่างเดียวดายอยู่ตรงบันไดนั่นเป็นเวลากว่า 26 ปีเชียวหรือ ฉันได้เรียนรู้ด้านดีของเด็กน้อยได้รู้เหตุผลที่ฉันชอบมองท้องฟ้าที่สดใส ได้เรียนรู้ว่า สิ่งดีๆ ที่มีในตัวฉันในปัจจุบัน ก็เพราะมีเด็กน้อยที่สดใสอยู่ในตัวนั่นเอง แต่ด้วยประสบการณ์ที่เด็กน้อยได้เจอและเข้าใจในวัยเด็กจึงทำให้ฉันใช้ชีวิตแบบครึ่งๆ กลางๆ มาตลอด จะก้าวก็ไม่ก้าว จะถอยก็ไม่ถอย และจากนี้ฉันจะก้าวต่อไปพร้อมเด็กน้อยที่มีพลังมองเห็นสิ่งดีดีของโลกในตัวฉัน และพลังอื่นๆ ที่มีอยู่ในตัวทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ จากนั้นได้ก้าวต่อเรียนรู้ปมในใจที่มีมาตลอดข้อดีของการเรียนรู้ปมในใจ คือได้เห็นภาพชัดว่าสาเหตุที่เกิดปมนั้นมาจากครอบครัวที่ถ่ายทอดรูปแบบการเลี้ยงดูจากต้นตระกูลมาจนถึงรุ่นเรานั่นแสดงว่าพวกเขาเองก็ป่วยทางจิตใจตลอดมา ต่างก็แสวงหาความรัก ความยอมรับ และการชื่นชมจากคนในครอบครัว… Continue reading บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๖)
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๕)
บทเรียน เขียนเยียวยา (รอบสอง) หลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต ๒๕๕๙ ************ “สวัสดีค่ะครูโอเล่ ชิขอแชร์สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเรียนครั้งนี้ คือ เราต้องมีความตั้งใจ เปิดใจ จริงใจกับตัวเอง วิธีการสอนและการเอาใจใส่ของครู เป็นจุดเริ่มต้น เรามีบันทึกในหัวข้อต่างๆเป็นกระบวนการในการสื่อสารระหว่างกัน ทั้งใจ ร่างกาย ความคิด และสื่อสารให้กับครูช่วยแนะนำ เราได้ผลงานที่ช่วยให้เราตอบคำถามต่างๆ ในใจเราได้ เราค้นพบเพื่อนแท้ รักแท้ ที่ให้กับตัวเอง เราเห็นคุณค่าของเราเอง ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการปรับเปลี่ยนชีวิตเราไปจากเดิม โดยมีเราเป็นคนเลือกที่จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เราจะทบทวน ระลึกถึงตัวเอง ธรรมชาติ ความเครียด สิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วย เพื่อไม่ให้ปัญหาใหม่ๆ ที่เข้ามาพาเราไปไกลจากตัวเอง ขอบคุณคุณครูมากนะคะ ชิรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของใจ ความหนักแน่น ที่ได้หลังจากการเรียนครั้งนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ / ชิ ^^” ************ www.dhammaliterary.org
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๔)
บทเรียน เขียนเยียวยา (รอบสอง) หลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต ๒๕๕๙ ************ “สวัสดีค่ะ ครูโอเล่ สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากคอร์สกึ่งออนไลน์ เขียนเยียวยา ค่ะ คอร์สเขียนเยียวยารอบนี้นับว่ามาได้ตรงจังหวะของตัวเองในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่มากๆ คือได้ทบทวนตัวเองถึงของขวัญ สิ่งดีๆ ที่ได้รับ ได้เรียนรู้จากปีเก่า และของขวัญ สิ่งดีๆ ที่จะมอบให้กับตัวเองในปีใหม่นี้ ทำให้ได้ลงมือทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ในปีเก่าให้เสร็จเรียบร้อย และเริ่มทำสิ่งที่บ่ายเบี่ยงไม่กล้าทำมานาน ทำให้พบว่าไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับการไม่ลงมือทำ ในขณะเดียวกันก็พบว่าการลงมือทำจนร่างกายเหน็ดเหนื่อยเกินพอดี อีกทั้งยังละเลยไม่ได้สนใจดูแลนั้น ก็ทำให้เกิดทุกข์ พอดีกับเจอกับบทเรียนผู้เยียวยาภายในที่สอนให้หันกลับมาใส่ใจดูแลรับฟังร่างกาย ให้ความรักกับตัวเองอย่างพอดี ทำให้ได้ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตตัวเองให้พอดีทั้งด้านการทำงานบ้าน และที่ทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมกันก็ได้ดูแลตัวเองให้ดีและสมดุลไปพร้อมกัน ส่วนที่ประทับใจมากคือการได้ใช้เทคนิคเขียนนิทานในการผสานการสร้างสรรค์จินตนาการไปพร้อมกับการทบทวน เรียนรู้ชีวิตที่ผ่านมาของตัวเองอย่างเข้มข้นภายในไม่กี่หน้ากระดาษ ทำให้กระจ่างกับสิ่งที่พบเจอในชีวิตที่ผ่านมา เข้าใจเหตุผล การกระทำของตัวละครในนิทานแต่ละตัว เป็นดั่งเครื่องมือวิเศษที่ช่วยปลดปล่อย เยียวยา ช่วยให้ปล่อยวาง และทำให้รู้สึกอิ่มเต็มอย่างพอดี ทำให้เข้าใจคำว่าเขียนเยียวยาสมดั่งชื่อคอร์สจริงๆ ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ เจี๊ยบ” ************* www.dhammaliterary.org
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๓)
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) #เขียนเปลี่ยนชีวิต . . . “เดิมก่อนได้เรียนเขียนเยียวยา เข้าใจแต่ว่าบันทึกในทุกวันของเราก็คือการบ่นทุกอย่างที่ผ่านมาในแต่แหละวัน บันทึกเป็นที่ระบาย บ่นได้ทุกอย่าง พูดมันทุกเรื่อง เขียนไปเท่าที่อยากเขียน ส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องดี หรือเขียนมากไปแล้วเจอทางแก้ก็ไม่ใช่ จนรู้สึกเหนื่อยกับการเขียนบันทึก และพอเห็นเรื่องเขียนเยียวยาก็มีคำถามในใจว่าการเขียนมันจะช่วยเยียวยาได้ยังงัย ทุกวันที่ที่เขียนอยู่ก็คิดมันมันคือที่สุดแล้ว พอได้เรียนเขียนเยียวยา ทำให้รู้ว่ามีมากมายหลายวิธีในการเขียน เขียนไปดูใจเราไป เขียนไปหยุดทบทวนสิ่งที่เขียนออกไปด้วย ว่าเขียนด้วยอารมณ์ไหน ทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ได้ใหม่ถ้าเราต้องการ ชอบหัวข้อชุดที่ครูโอเล่ส่งให้ มันเหมือนเรื่องที่ค้างลึกๆอยู่ในใจเรา ก่อนจะเลือกบอกตัวเองอยู่ในใจว่าถ้าครูให้เขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไรต้องเขียนเรื่องนั้นของเราจริงๆนะ ไม่ต้องอายครู ไม่ต้องสนใจใคร เพราะเราต้องการเยียวยาตัวเอง พอเอามาเขียน เหมือนได้เอามาทบทวน ได้เข้าใจใหม่ ชอบที่เขียนมือซ้ายและมือขวา เหมือนเถียงกับตัวเองทางตัวหนังสือ มือซ้ายต้องการความถูกต้อง ถูกใจ ให้กับตัวเอง มือขวาคอยบอกว่าอะไรดีอะไรไม่ดี “เธอลองคิดใหม่สิมือซ้าย, เหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ หรือถ้าเธอเป็นเขาบ้างหละ” มีคำพูดเหล่านี้เกิดขึ้นในใจ แทนคำพร่ำบ่นอยู่ตลอดเวลา มือซ้ายที่อยากพร่ำบ่นแต่ด้วยความที่เขียนไม่ค่อยถนัดทำให้ความคิดเราช้าลง ได้มีเวลาทบทวนสิ่งที่ต้องการจะพรั่งพรูออกมา พอมือขวาเริ่มจะเขียนมันก็ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น ชอบเทคนิคนี้และคิดว่าจะเอามาใช้ตลอดหลังจากนี้ ขอบคุณครูโอเล่คะ… Continue reading บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๓)