8 หนทางอันประเสริฐที่มนุษย์ควรก้าวตาม “อริยมรรค” (ตอนที่สอง : วิธีคิดแบบพุทธะ ภาค1) การก้าวไปสู่จุดหมายใดๆ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม มิอาจเลี่ยงการฝึกความคิดของตนเอง จะประสบความสำเร็จด้านค้าขายหรือทางธุรกิจ ต้องฝึกวิธีคิดอย่างนักบริหารหรือวาณิชที่ช่ำชอง จะประสบความสำเร็จในทางธรรมหรือทางจิตวิญญาณ ต้องฝึกวิธีคิดอย่างพระพุทธเจ้าและบรมศาสดาของโลกนี้ เพราะความคิดเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนกายจิต ไม่ใช่เพียงแค่ดึงดูดแต่ยังผลักดันให้เวียนว่ายในวังวนซึ่งเป็นภาพสะท้อนของวิธีคิดที่วกวนของเราเอง คิดอย่างไรย่อมเป็นอย่างนั้น เพราะวิถีชีวิตกำหนดเริ่มที่วิธีคิด จะผ่านพ้นความล้มเหลวไปสู่ความสำเร็จก็ต้องปรับวิธีคิดที่ล้มเหลวให้เป็นวิธีคิดที่สำเร็จ จะผ่านพ้นความทุกข์ระทมก็ต้องปรับวิธีคิดที่เคยพาทุกข์ทน เปลี่ยนเป็นวิธีคิดที่พ้นทุกข์สิ้นเชิง เราจะเรียนการคิดที่เหมาะสมมากเพียงพอที่จะทำให้ชีวิตถึงที่สุดแห่งการพัฒนาจากใคร หากไม่เรียนรู้จากผู้ที่ถึงที่สุดแห่งการพัฒนาตนเองแล้ว บทความนี้คือหลักธรรมที่สอนให้เป็นนายเหนือความคิด ดำริเพื่อหลุดพ้น ไตร่ตรองอย่างแยบยล ขจัดทุกข์ทนในชาตินี้ เรียนรู้จากวิธีคิดแบบพระพุทธเจ้า การฝึกคิดเพื่อการพ้นทุกข์ทำได้จริง เพียงก้าวตามรอย “อริยมรรค” ของพุทธะ แปดหนทางอันประเสริฐที่มนุษย์ควรก้าวตาม . อ่านบทความตอนก่อนหน้า หัวข้อ “สัมมาทิฏฐิ : ดวงตาแห่งพุทธะ” ทางลิงก์ดังนี้ youngawakening.org/write4life/สัมมาทิฏฐิ/ . . #วิธีคิดแบบพุทธะ #ดำริเพื่ออิสระและถูกต้อง #สัมมาสังกัปปะ #ภาคแรก . . หากชีวิตคือหนังสือวรรณกรรม… Continue reading 8 หนทางอันประเสริฐที่มนุษย์ควรก้าวตาม “อริยมรรค” (ตอนสอง)
Category: ไกด์โลกจิต
8 หนทางอันประเสริฐที่มนุษย์ควรก้าวตาม “อริยมรรค” (ตอนแรก)
8 หนทางอันประเสริฐที่มนุษย์ควรก้าวตาม “อริยมรรค” (ตอนแรก : ดวงตาแห่งพุทธะ) หนทางสู่การตื่นรู้ มีอยู่ในชีวิตทุกๆ วัน หากน้อมนำมาพิจารณาและกระทำในทุกๆ ลมหายใจ ไม่ต้องรอปฏิบัติธรรมบรรลุผล เริ่มตั้งต้นได้ตั้งแต่ชาตินี้ . . #ดวงตาแห่งพุทธะ #มุมมองต่อชีวิตที่เป็นคุณและถูกต้อง #สัมมาทิฏฐิ . เรือจะแล่นไปในทางใด ถึงฝั่งเมื่อไร ด้วยดีหรือไม่ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่สิ่งแรกที่สำคัญคือ กัปตัน และ ต้นหนเรือ – ผู้ชี้ทาง ได้มองไปยังทิศทางใด ด้วยความชัดเจนมากแค่ไหน และเห็นอะไรจากการมองนั้น หากพวกเขามีมุมมองที่พลาด ดูผิดทิศ ไม่ระวังทางลม ไม่สังเกตอุปสรรค มองทางไปไม่กระจ่างชัดเจน อ่านแผนที่ไม่ถูก โอกาสที่จะไม่ถึงฝั่งหรือล่าช้าก็มีสูง เช่นเดียวกันกับการขับรถยนต์ หากมีฝ้าไอน้ำหรือหมอกหนาบดบังกระจกหน้า หรือไม่อาจมองกระจกข้าง กระจกหลัง ได้ชัดเจนทันการณ์ในเวลาอันควร หรือคลาดสายตาจากการมองทางไปสนใจสิ่งอื่น โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็มีมากตาม มุมมองที่ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกๆ ในการใช้ชีวิตให้ถูกต้อง เช่นเดียวกัน จึงเป็นเหตุให้ข้อแรกของ อริยมรรค… Continue reading 8 หนทางอันประเสริฐที่มนุษย์ควรก้าวตาม “อริยมรรค” (ตอนแรก)
10 ชวนคิด คอลัมน์ ไกด์โลกจิต
ในวาระที่คอลัมน์นี้ได้มาถึงตอนที่ 64 ในปี พ.ศ. 2564 เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมีความยาวของเนื้อหารวมทั้งหมดมากกว่า 530 หน้าเอสี่แล้ว นับจากตอนแรกจนมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่าห้าปี จึงขอเก็บเกี่ยวบางวรรควลีจากบางบทความที่ผ่านมา นำมาปักหมุดไว้ในตอนพิเศษนี้ พร้อมทบทวนชีวิตของผมเองในฐานะผู้เขียน บอกเล่าแชร์ความคิดเห็นแบบเล่าสู่กันฟัง โดยไม่ได้ร่างเค้าโครงไว้ล่วงหน้า ผู้อ่าน/ผู้ติดตาม หากต้องการรู้เรื่องใดหรือต้องการให้เขียนเกี่ยวกับเรื่องใดเป็นพิเศษ โดยยังอยู่ในแนวทางของคอลัมน์นี้ สามารถเสนอผมมาได้ที่ช่องทางคอมเมนท์ หรือช่องทางติดต่ออื่นๆ . . I “แม้อ่านหนังสือคู่มือสร้างสุข สร้างความสำเร็จ และเทคนิคพิชิตอุปสรรค มากมายเพียงใด หากไร้การทำและผลักดันด้วยตนเองแล้ว กองตัวอักษรและความรู้ต่างๆ ก็จะถมทับเราอยู่กับความมืดมน” . ข้อความนี้มาจากตอนแรกของคอลัมน์ในชื่อ …เราไม่ได้อับแสง แต่เราหลงลืมตัวเอง… ตอนแรกของคอลัมน์นี้เปรียบเสมือนการตั้งธงไว้กลายๆ ว่า การเดินทางของอักษรในตอนต่อๆ เป็นการเดินกลับเข้าไปหาตัวเอง ตามหาแสงสว่างภายในที่หลงลืม แม้จะเป็นความรู้ ธรรมะ หรือคำแนะนำต่างๆ แต่สุดท้ายแล้ว… มันคือการกลับมาถามใจตนแล้วตอบตัวเองให้ได้ในคำถามสำคัญต่างๆ ของชีวิต …คนที่เป็น ไกด์โลกจิต จริงๆ แล้วไม่ใช่ผู้เขียน แต่เป็นตัวเราเองและการฝึกฝนตนด้วยตัวเอง… การขาดความรู้สึกมีคุณค่ากับความเคยชินในการพึ่งพาสิ่งนอกตัว มันทำให้เราหลงลืมแสงสว่างในตัวเอง ลืมความสำคัญของความพากเพียรและการทำสิ่งที่มีค่าให้กับตนอย่างต่อเนื่อง… Continue reading 10 ชวนคิด คอลัมน์ ไกด์โลกจิต
6 อ. ที่แอบทำให้จิต…โง่ (ตอนจบ)
6 อ. ที่แอบทำให้จิต…โง่ (ตอนจบ) จิตฉลาด มีความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบาน เรียกว่า พุทธะ จิตนี้ไม่ใช่ตัวเราหรือของใคร แต่เป็นภาวะหนึ่งที่เกิดได้แก่ทุกผู้ทุกนาม จิตเดิมแท้มีความเป็นพุทธะอยู่เช่นนั้นทุกๆ คน แต่เพราะความโง่ที่ครอบงำจิตใจด้วยกิเลสน้อยใหญ่ แปรเปลี่ยนให้กลายเป็นผู้ไม่รู้ หลับใหล และทุกข์ทน เรารู้ตัวได้ไม่ยากว่าตอนนี้กำลังมีจิตแบบใด หากรู้สึกหนักหนา วุ่นวาย หรือยึดติดใน อ. อัตตา นั่นก็มีจิตโง่ แทนที่จะเบาสบาย สงบ และวางใจใน อ. อนัตตา คือมีจิตที่ฉลาด บทความตอนจบของเนื้อหาชุดนี้ ขอบอกเล่าอีก 3 อ. ที่เป็นกิเลสทำให้จิตของเราหมองเศร้าและขลาดเขลา แต่ละข้อมีความเชื่อมโยงกันตามลำดับที่บทความหยิบยกขึ้นมา ขอให้ลองสังเกตดู นอกจากนี้ขอให้อ่านเพื่อเรียนรู้ผลกระทบของแต่ละ อ. ต่อชีวิตของเราในปัจจุบันและอดีตที่ผ่านมา เพื่อขัดเกลาให้จิต เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบานอย่างแท้จริง อ่านตอนแรกได้ที่เว็บไซต์ https://www.dhammaliterary.org/6อ-ที่แอบทำให้จิตโง่1/ . . อ.สี่ อคติ เป็นคำที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี หมายถึงความลำเอียง… Continue reading 6 อ. ที่แอบทำให้จิต…โง่ (ตอนจบ)
6 อ. ที่แอบทำให้จิต…โง่ (ตอนแรก)
หลังจากเขียนบทความชุด จิตโง่ vs จิตฉลาด ได้สามตอน ก็ถึงเวลาเฉลยว่า จิตโง่เกิดขึ้นมาได้อย่างไร อะไรคือจิตโง่ อะไรคือจิตฉลาด เราจะเข้าใจคำตอบได้ก็ด้วยการตระหนักว่า อ. อะไรบ้างซึ่งส่งผลให้จิต…โง่เขลาลง ใครยังไม่ได้อ่านสามตอนก่อนหน้า เปิดอ่านที่เว็บไซต์ตามลิงก์ดังนี้ หรือจะข้ามไปก่อน ค่อยย้อนมาก็ย่อมได้ จิตโง่ Vs จิตฉลาด (ตอนแรก) https://www.dhammaliterary.org/จิตโง่-vs-จิตฉลาด-ตอนแรก/ จิตโง่ Vs จิตฉลาด (ตอนสอง) https://www.dhammaliterary.org/จิตโง่-vs-จิตฉลาด-ตอนสอง/ จิตโง่ VS จิตฉลาด (ตอนสาม) https://www.dhammaliterary.org/จิตโง่-vs-จิตฉลาด-ตอนสาม/ . . อ.แรก อวิชชา สิ่งที่ทำให้เกิด จิตโง่ ก็คือความ โง่ นั่นเอง เป็นคำตอบแรกแบบกำปั้นทุบดินดัง ตุ้บ แต่ความโง่คืออะไร ความโง่ก็คือความไม่รู้ นี่ก็เป็นคำอธิบายตรงๆ แบบกำปั้นทุบดินอีกหนดัง ตั้บ ! อวิชชา คือความโง่ ความไม่รู้ ซึ่งเกิดขึ้นจากการขาดสติปัญญา …ไม่รู้…ในที่นี้หมายถึงไม่รู้ความเป็นจริงอย่างที่เป็นจริง ความโง่นี้… Continue reading 6 อ. ที่แอบทำให้จิต…โง่ (ตอนแรก)
จิตโง่ VS จิตฉลาด ตอนที่สาม
7 จิตที่โง่ โทษคนอื่นและสิ่งต่างๆ ทำให้ทุกข์ จิตที่ฉลาด ยอมรับว่าชีวิตคือความทุกข์ . คำสอนสำคัญหนึ่งในพระพุทธศาสนา เป็นสิ่งที่ชาวพุทธเองหลายคนพยายามปฏิเสธ หรือเรียกว่าหนีก็ว่าได้ แม้จะเป็นคำสอนที่เราท่องกันบ่อยๆ ในบทสวดมนต์ก็ตาม คำสอนที่ว่านั้นคือ แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์ | แม้ความแก่ก็เป็นทุกข์ | แม้ความตายก็เป็นทุกข์ | แม้ความโศกความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจก็เป็นทุกข์ | ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ | ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ | มีความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้นนั่นก็เป็นทุกข์… กล่าวโดยย่นย่อที่สุด ชีวิตนั่นแหละคือความทุกข์ จิตที่ยังโง่เขลา คือเบาปัญญาในการยอมรับความจริงดังกล่าว ก็จะพยายามหนีความจริงด้วยการหาแพะรับบาป โทษคนนั้นโทษสิ่งนี้เป็นตัวบั่นทอนความสุขที่พึงมี เป็นตัวก่อทุกข์แก่กายและใจตนเอง เราสังเกตตัวอย่างในเรื่องนี้ได้ไม่ยาก เป็นตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เมื่อฝนแล้งก็ดี เมื่อเกิดโรคระบาด หรือความทุกข์ยากเกิดขึ้น มนุษย์หลายส่วนก็จะหาที่กล่าวโทษ มิว่าจะเป็นปีศาจ แม่มด เทวดา ฯ นำมาสู่การขับไล่ การบูชายัญ การขว้างปาก้อนหิน การเผาทั้งเป็น ฯ เฉกเช่นพิธีกรรม และการลงโทษต่างๆ… Continue reading จิตโง่ VS จิตฉลาด ตอนที่สาม
จิตโง่ Vs จิตฉลาด (ตอนสอง)
5. จิตโง่ คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของชีวิต จิตฉลาด คิดว่าชีวิตเป็นเพียงการยืมมา . จิตเมื่อยังขาดการฝึกฝนจะถือว่าร่างกายนี้คือตัวฉัน คือสิ่งที่เป็นฉัน เมื่อฝึกฝนพอสมควรแล้ว จึงจะรู้ว่ามันไม่ใช่เสียทีเดียว . ร่างกายนี้จะว่าเป็นของตนก็ไม่เชิง เป็นตัวตนก็ไม่ใช่ เป็นกล้ามเนื้อ เลือด ลม และธาตุต่างๆ ก่อตัวอยู่รวมกัน มาจากอาหารที่คนอื่นเป็นผู้ทำให้ วัตถุดิบทั้งหลายก็มีผู้ปลูก พืชสัตว์เหล่านั้นก็มีชีวิตของตัวเอง ได้รับการเลี้ยงดูจากเกษตรและธรรมชาติ . เรานำร่างกายของพืชและสัตว์มาประกอบอาหาร เมื่อดื่มกินเข้ามาก็แปรเปลี่ยนสภาพกลายเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหนังมังสา ร่างกายของพืชสัตว์เหล่านั้นก็เป็นผลพวงจากสิ่งอื่น มีแสงแดด ดิน และอากาศอยู่ในพวกเขา ซึ่งส่งทอดมาถึงร่างกายคนในตอนนี้ . เรากำลังอาศัยร่างกายของพืช สัตว์ และธรรมชาติ หาใช่ของคนอย่างเดียวไม่ . เซลล์ ระบบประสาท อวัยวะต่างๆ อาศัยอินทรีย์สารทั้งหลายหล่อหลอม มีส่วนที่ส่งผ่านมาทางแม่ พ่อ ญาติ บรรพบุรุษ สิ่งแวดล้อม อากาศที่หายใจ และอีกมากมายเป็นปัจจัยเกิดกลายเป็นร่างกาย ล้วนมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น . ร่างกายจึงไม่ใช่ตัวตนของใครเสียทีเดียว เป็นเพียงธรรมชาติ มาจากธรรมชาติ เกิดจากดิน น้ำ… Continue reading จิตโง่ Vs จิตฉลาด (ตอนสอง)
จิตโง่ Vs จิตฉลาด (ตอนแรก)
1 จิตที่โง่ เอาอัตตาไปรับคำวิจารณ์ จิตที่ฉลาด เฝ้าดูคำวิจารณ์แล้วรับประโยชน์ . คำพูดหมิ่น คำด่าว่า คำวิจารณ์ อยู่ในสิ่งที่เรียกว่า วาจา โดยธรรมชาติของมันแล้วเป็นเพียงลมลอยออกมาจากปากพร้อมกับคลื่นเสียงที่สั่นสะเทือน หรืออาจเป็นเพียงอักษรที่ก่อร่างขึ้นด้วยหมึกและจอภาพ เหล่านี้คือธรรมชาติของวาจา เป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปตามปัจจัย . การคิดเอาว่านั่นเป็นวาจาที่ไม่ดี เป็นคำดูหมิ่น เป็นคำวิจารณ์ หรือเป็นคำตัดสิน เป็นธรรมชาติของจิตที่ตีความ ซึ่งสมมติให้สิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน มีตัวตนขึ้นมา ตามสัญญาคือความจำได้หมายรู้แยกแยะเอาว่า คำแบบใดเป็นลักษณะที่น่าพึงใจไม่น่าพึงใจ . จิตที่โง่ นอกจากการจะตีความต่างๆ นานาจากลมที่พัดพาจากปากผู้อื่นหรืออักษรที่ปรากฏบนหน้ากระดาษและหน้าจอ เกิดเป็นความหมายที่ก่อความรู้สึกแก่ใจแล้ว ยังเอาอัตตาตัวเองไปรับให้เป็นทุกข์ . ธรรมชาติของลม เมื่อพัดพาไปไม่เจอสิ่งที่ต้องกระทบมันก็จะเป็นเพียงอากาศเคลื่อนไหวซึ่งจะเบาลงไปตามกาล ธรรมชาติของวาจาก็เช่นกัน หากไม่มีสิ่งที่ต้องกระทบแล้วมันจะเลือนลางจางไปเอง . เพราะมีอัตตาเป็นตัวรับ วาจาจึงมีสิ่งให้ต้องกระทบ เกิดเป็นอารมณ์ความพึงใจ ไม่พึงใจ เกิดเป็นการตีความตามแต่ใจตัวเองไปต่างๆ นานา ทำให้วาจาที่เป็นแค่สิ่งไม่ใช่ตัวตน เป็นเพียงลมหรืออักษรกลายเป็นดาบที่ทิ่มแทงใจ . จิตโง่ก็จะโทษคนอื่น โทษสิ่งภายนอก คำพูดเธอทำให้ฉันทุกข์ใจ , เธอตัดสินฉัน ,… Continue reading จิตโง่ Vs จิตฉลาด (ตอนแรก)
ธรรมะ กับ เรื่องวัว สำหรับปีวัวและปีไม่วัว
บทความ ไกด์โลกจิต ตอนนี้ได้ขอน้อมนำข้อคิดจากพระไตรปิฎกสามข้อใหญ่ และภาพปริศนาธรรมคนจับวัว ซึ่งเชื่อมั่นว่าสามารถช่วยให้เรารอดปีวัวและปีใดๆ หลังจากนี้ รวมทั้งการเป็นนายเหนือวัวภายในตัวตนของตัวเอง ขอให้ดูรอยเท้าที่ย่ำบนพื้นแล้วเดินตามไป . . 1 อยู่อย่างโคประเภทใด ให้เลือกเอง : พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า วัวตัวผู้ มีอยู่สี่แบบด้วยกัน แบบหนึ่ง ระรานพวกพ้องของตัวเอง ไม่ระรานพวกคนอื่น แบบหนึ่ง ระรานพวกคนอื่น ไม่ระรานพวกพ้องตนเอง แบบหนึ่งก็ระรานสร้างความเสื่อมเสียไปทั่ว แบบหนึ่งก็ไม่ระรานและไม่สร้างความเสื่อมเสียให้พวกใด *(1) วัวที่ว่านั้นก็เปรียบเหมือนคนสี่จำพวก ท่านมิได้ทรงตรัสโดยตรงว่าแบบใดดีที่สุด แต่ให้เราตัดสินใจด้วยตนเองว่า จะประพฤติแบบใด และรับผลที่เป็นเช่นนั้นด้วยตนเอง โคยังมีหลายฝูง คนก็มีหลายพวกพ้อง มีความคิดเห็นแตกต่างกันเป็นฝ่ายๆ มีนิสัยจำเพาะผิดแผกกัน เราจะเป็นวัวที่ยอมรับความต่าง หรือเป็นสัตว์มีเขาที่อยากเอาชนะอย่างเดียว เราจะทำให้ปีวัวปีนี้และปีใดๆ เป็นชีวิตที่ดี ก็อยู่ที่การการวางตัวและความเป็นมิตรของตนเอง จะอยู่อย่างสร้างมิตร จะอยู่อย่างสร้างศัตรู จะเลือกทำทั้งสองอย่างกับบุคคลที่เราคิดว่าสมควรได้รับ หรือจะไม่ขัดแย้งหรือแข่งดีกับใคร เราเลือกเอง ท้ายที่สุดแล้วกรรมที่วัวหรือตัวเราเองสร้างไว้ก็จะย้อนคืนกลับมาที่ตน เพราะชีวิตเราคือผู้เลือกที่สำคัญ ปีใดจะเป็นปีที่ดีหรือปีชง เราเป็นผู้ตัดสินใจ จะเป็นปีแห่งสงคราม หรือปีแห่งสันติภาพ ล้วนขึ้นอยู่กับเราเลือกเป็นวัวแบบใด… Continue reading ธรรมะ กับ เรื่องวัว สำหรับปีวัวและปีไม่วัว
สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากปฏิทิน
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นครูแก่หัวใจที่พร้อมจะเรียนรู้ ปฏิทินที่อยู่กับมนุษย์มาปีแล้วปีเล่าก็เช่นกัน ลองมองเขาอย่างพินิจใส่ใจ นอกจากวันเดือนปี วาระสำคัญ หรือนัดหมายที่เขาบอกกับเราแล้ว สิ่งใดที่เราอาจเรียนรู้ได้จากปฏิทิน 1 ความสัมพันธ์ที่ดีไม่จำเป็นต้องมีตลอดไป ทุกอย่างมีวาระของตนเอง สิ่งดีๆ ล้ำค่า ใครบางคน หรือบางสิ่งที่ดีต่อใจ แค่มาอยู่กับเราเพียงชั่วคราว คนที่ช่วยเหลือเรา รักกัน ส่งเสริมเกื้อกูลดูแล แต่งงาน หรือเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิต พวกเขามีวาระของตนเองดั่งเช่นปฏิทิน อาจสั้นกว่าหนึ่งปี อาจยาวกว่าหนึ่งปี แต่เมื่อถึงเวลาแล้วก็หมดหน้าที่ของเขา เราอาจมิได้อาลัยอาวรณ์เมื่อต้องทิ้งปฏิทินปีเก่าไป เพราะเห็นว่าเป็นเพียงวัตถุสิ่งของ หาใหม่ได้ไม่ยาก เก็บไว้ก็ใช้งานมิได้แล้ว แต่เขาก็เป็นตัวแทนของทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตที่เข้ามาหาเรา อยู่กับเรา ช่วยเหลือดูแล เคียงข้างกัน หรือทำหน้าที่ของตนเองที่มีต่อเรา ในวาระหนึ่งเท่านั้น เมื่อหมดวาระและหน้าที่ของกันแล้ว ความสัมพันธ์นั้นก็จะจบลงหรือจากกัน ทุกคนและทุกสิ่ง ต่างโคจรมาหาเราด้วยแรงดึงดูดของหน้าที่บางอย่าง ปฏิทินเองก็มาอยู่ด้วยกันกับเราเพราะหน้าที่ นอกจากบอกวันเดือนปีแล้ว อาจทำหน้าที่แทนสะพานหัวใจ แทนความห่วงใยจากใครบางคนที่มอบให้แก่เรา หรืออาจทำหน้าที่ส่งต่อข้อคิดกับภาพเตือนใจ ผ่านเนื้อหาที่สอดแทรกบนปฏิทินด้วยก็ได้ แม้แต่คนที่ไม่ชอบใจ สิ่งที่เลวร้าย ต่างก็โคจรมาหากายใจนี้เพื่อทำหน้าที่บางอย่างที่มีแก่กัน เพียงชั่วคราวเท่านั้น ก่อนจากลา เราไม่ได้ชี้วัดว่าปฏิทินที่มีค่าจะต้องอยู่กับเราตลอดไป ไม่ได้บอกว่าปฏิทินนี้แย่หรือไม่เพียงเพราะว่าอยู่ด้วยกันแค่หนึ่งปี ความสัมพันธ์ต่างๆ ก็เช่นเดียวกัน… Continue reading สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากปฏิทิน