บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๓)

        บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) #เขียนเปลี่ยนชีวิต . . . “เดิมก่อนได้เรียนเขียนเยียวยา เข้าใจแต่ว่าบันทึกในทุกวันของเราก็คือการบ่นทุกอย่างที่ผ่านมาในแต่แหละวัน บันทึกเป็นที่ระบาย บ่นได้ทุกอย่าง พูดมันทุกเรื่อง เขียนไปเท่าที่อยากเขียน ส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องดี หรือเขียนมากไปแล้วเจอทางแก้ก็ไม่ใช่ จนรู้สึกเหนื่อยกับการเขียนบันทึก และพอเห็นเรื่องเขียนเยียวยาก็มีคำถามในใจว่าการเขียนมันจะช่วยเยียวยาได้ยังงัย ทุกวันที่ที่เขียนอยู่ก็คิดมันมันคือที่สุดแล้ว พอได้เรียนเขียนเยียวยา ทำให้รู้ว่ามีมากมายหลายวิธีในการเขียน เขียนไปดูใจเราไป เขียนไปหยุดทบทวนสิ่งที่เขียนออกไปด้วย ว่าเขียนด้วยอารมณ์ไหน ทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ได้ใหม่ถ้าเราต้องการ ชอบหัวข้อชุดที่ครูโอเล่ส่งให้ มันเหมือนเรื่องที่ค้างลึกๆอยู่ในใจเรา ก่อนจะเลือกบอกตัวเองอยู่ในใจว่าถ้าครูให้เขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไรต้องเขียนเรื่องนั้นของเราจริงๆนะ ไม่ต้องอายครู ไม่ต้องสนใจใคร เพราะเราต้องการเยียวยาตัวเอง พอเอามาเขียน เหมือนได้เอามาทบทวน ได้เข้าใจใหม่ ชอบที่เขียนมือซ้ายและมือขวา เหมือนเถียงกับตัวเองทางตัวหนังสือ มือซ้ายต้องการความถูกต้อง ถูกใจ ให้กับตัวเอง มือขวาคอยบอกว่าอะไรดีอะไรไม่ดี “เธอลองคิดใหม่สิมือซ้าย, เหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ หรือถ้าเธอเป็นเขาบ้างหละ” มีคำพูดเหล่านี้เกิดขึ้นในใจ แทนคำพร่ำบ่นอยู่ตลอดเวลา มือซ้ายที่อยากพร่ำบ่นแต่ด้วยความที่เขียนไม่ค่อยถนัดทำให้ความคิดเราช้าลง ได้มีเวลาทบทวนสิ่งที่ต้องการจะพรั่งพรูออกมา พอมือขวาเริ่มจะเขียนมันก็ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น ชอบเทคนิคนี้และคิดว่าจะเอามาใช้ตลอดหลังจากนี้ ขอบคุณครูโอเล่คะ… Continue reading บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๓)

บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๒)

      บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) #เขียนเปลี่ยนชีวิต “ขอบคุณครูโอเล่ และทีมงานนะคะที่เปิดโอกาสให้กบได้เข้ามาอบรมในครั้งนี้ และได้รับการต้อนรับ การเรียนรู้ที่อบอุ่นและเป็นมิตร ขอบคุณพื้นที่ดีๆ แห่งนี้นะคะ กบขอส่งบันทึกความรู้สึกเพื่อเป็นการส่งต่อถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อการอบรมในครั้งนี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณที่สุดค่ะ กบ” www.dhammaliterary.org

บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๑)

บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) #เขียนเปลี่ยนชีวิต ” ทบทวนบันทึกที่ผ่านมา และสรุปการอบรม ทั้งความรู้สึก บทเรียน และการก้าวผ่านต่างๆ ในทุกบันทึกที่เขียนนำพาเราค่อยๆ พบกับแสงสว่าง ทำให้เรามองตัวเองได้ชัดเจน เห็นทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี ได้พบกับคุณค่าในตัวเราเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากมองผิวเผินแต่ละหัวข้อไม่น่าจะมีสิ่งเชื่อมโยงกันนัก แต่พอบันทึกไปเรื่อยๆ กลับพบว่าทุกหัวข้อมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงร้อยรัดเป็นหนึ่งเดียวกัน ความทุกข์จากบันทึกหนึ่งสู่การคลี่คลายอีกบันทึกหนึ่ง สลับกับคำถามประจำวันที่เป็นเสมือนไกด์ไลน์สำคัญช่วยกระตุกความคิดให้หันกลับมาทบทวนและสังเกตสิ่งรอบตัวในช่วงเวลานั้น บันทึกที่ถือว่าเป็นการก้าวข้ามออกจากไข่แดงคือ บันทึกหัวข้อ “ฟังใจ” นับเป็นประตูบานใหญ่ที่พาเราไปสู่การคลี่คลายความทุกข์ในหัวข้ออื่นๆ เราจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้หากเราไม่กลับมาฟังเสียงหัวใจตัวเอง ตราบใดที่เราละเลยหัวใจตัวเองเราจะเป็นทุกข์ จะสับสนและรู้สึกขัดแย้งภายในตลอดเวลา และกว่าจะได้ยินสิ่งที่หัวใจอยากบอกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ครูมีวิธีการที่แยบคายมากทำให้เราสามารถเผชิญหน้ากับหัวใจตัวเองอย่างน่าอัศจรรย์ ระหว่างที่ทำบันทึกทั้งตื่นเต้น ดีใจ เศร้าใจ สงสาร ประหลาดใจ ในจินตภาพที่เราสัมผัสได้มีทั้งภาพและเสียงชัดเจนมาก ราวกับกำลังดูละครเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว หัวใจที่อยู่กับเรามาทั้งชีวิตแต่เรากลับละเลยเขา ไม่สนใจสิ่งที่เขาต้องการสื่อสาร เมื่อกลับมาฟังเสียงหัวใจอีกครั้งเราได้ยินในสิ่งที่เราไม่คาดคิดมากมาย จนตัวเองรู้สึกหลงรักหัวใจตัวเองอย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ได้ตะกอนความคิดจากหัวข้อบันทึกนี้เยอะมาก เช่น “เราอาจจะดูละครกันมาหลายเรื่อง แต่หารู้ไม่ว่าละครที่น่าติดตามที่สุดคือชีวิตของเราเอง” “ถ้าเราไม่ตกหลุมรักตัวเองก่อน แล้วใครจะมาตกหลุมรักเรา” เป็นต้น เมื่อประตูหัวใจเปิดออกแล้ว ก็ดูเหมือนว่าบันทึกหลังจากนั้นเป็นการพิสูจน์ความแข็งแรงของหัวใจ พิสูจน์ความรักของผู้ปกป้อง และค้นพบคุณค่าภายในตนเอง แต่ละหัวข้อบันทึกในช่วงหลังนั้นต้องทำงานกับตัวเองหนักมาก เรียกว่าทำสารพัดวิธีเพื่อให้ได้คำตอบ… Continue reading บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๑)

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (workshop รอบแรก)

  อบรมวันที่ ๑๔ – ๑๕ มกราคม ๒๕๖๐ ในหลักสูตรเขียนเปลี่ยนชีวิต หัวข้อ “เขียนค้นตน” www.dhammaliterary.org/เขียนค้นตน       เปิดอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ด้านล่าง :    

รวมบทเรียน เขียนภาวนา ประจำปี ๒๕๕๙

        รวมบางบทเรียน “เขียนภาวนา:กึ่งออนไลน์” กันยายน ๒๕๕๙ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ครูคะ ขวัญได้อ่านบันทึกของคนอื่นแล้ว ได้เห็นว่าทุกคนต่างมีทุกข์และกําลังหาทางพ้นทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น เห็นความเข้มแข็ง ความกล้าหาญ ในคนอื่น ทําให้เห็นความเข้มแข็ง และ ความกล้าหาญในตัวเองด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะครู ___ ฉันไม่จำเป็นต้องยึด ฉันสามารถ ครั้งที่2 ฉันไม่จำเป็นต้องยึดในแบรนด์กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า เสื้อผ้า ที่ฉันคิดว่าทำให้ฉันดูดี มีคุณค่า ไม่รู้สึกต้อยตํ่า ฉันสามารถรู้สึกมีคุณค่าได้เมื่อฉันหิ้วกระเป๋าที่ฉันชอบโดยไม่ต้องมีแบรนด์ ฉันสามารถใส่นาฬิกาที่ฉันชอบโดยที่ไม่ต้องมีแบรนด์ ฉันสามารถซื้อในเวลาที่ฉันจำเป็นต้องใช้เท่านั้น ฉันสามารถเห็นในเวลาที่ฉันอยากซื้ออยากได้ในเวลาที่ฉันไม่จำเป็นต้องใช้ ฉันสามารถให้กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า ที่เกินความจำเป็นแก่คนที่จำเป็นกว่าฉัน ฉันสามารถขายกระเป๋า นาฬิกา ที่เกินความจำเป็น เพื่อนําเงินมาจุนเจือ เพื่อความภาคภูมิใจ ในการที่ฉันสามารถละ ลด เรื่องนี้ได้ ฉันสามารถอยู่ได้โดยไม่มีแบรนด์ ฉันไม่จำเป็นต้องยึดในแบรนด์ที่คนอื่นใส่ ฉันไม่จำเป็นต้องใส่ใจมองหาว่าคนอื่นใส่แบรนด์อะไร ของจริงหรือของปลอม ฉันไม่จำเป็นต้องคอยเปรียบเทียบว่าแบรนด์ที่ฉันใส่ดีกว่าหรือด้อยกว่าเค้า ฉันไม่จำเป็นต้องตัดสินคนจากแบรนด์ที่เค้าใส่ ฉันสามารถมองเห็นคนอื่นจากความดีงาม บุคลิคภาพ การพูดจา… Continue reading รวมบทเรียน เขียนภาวนา ประจำปี ๒๕๕๙

บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๒

    บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๒ บทสนทนาและการดูแลตนเอง ในรอยต่อระหว่างการอบรม “เขียน = ปลดปล่อยชีวิต” และ “พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์” โดย สุพัตรา     ฉัน… ฟังร่างกายครั้งที่ห้า 05/04/59 วันนี้ทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเกือบทั้งวัน ไม่ได้คิดถึงหรือรู้สึกไม่ดีในเรื่องใดจริงจัง แต่เห็นตัวเองอารมณ์ค่อนข้างร้อน หงุดหงิดง่ายกับเรื่องเล็กๆ อาการออกทางใบหน้าไม่ค่อยยิ้ม หน้าขรึม ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเท่าไหร่ เมื่อตอนเย็นได้ไปงานเลี้ยงกินน้ำอัดลมไป 2 แก้ว และเค้ก 1 ชิ้น(-*-) ก่อนเริ่ม…ฟังเพลงผ่อนคลาย และทบทวนตัวเองในระหว่างวัน เริ่มง่วงเล็กน้อย ขณะฟังร่างกาย…หายใจเข้าออกอยู่กับตัวเองไม่ค่อยมีสมาธิมีเรื่องทั่วๆไปหลายเรื่องแว๊บเข้ามาแล้วก็หลับไปจนถึงตีสามครึ่ง ผ่านมา 5 วันแล้วยังไม่ค่อยได้คุยกับคุณร่างกาย หวังว่าคุณร่างกายจะเข้าใจว่าเราอ่อนเพลียเลยขอพักผ่อนก่อนคุณร่างกายก็ได้พักไปด้วยงัย ถ้าเรามีพลังขึ้น ———– อาจารย์… อย่างน้อยเราได้ฟังความอ่อนเพลียในตัวเรา กับเสียงสะท้อนจากคุณคอและบ่า ครั้งต่อไปนี้ไม่เพียงเราจะตั้งใจฟังเสียงร่างกายเท่านั้น แต่เราจะมอบพลังแก่เขาด้วยใจของเราด้วย เริ่มที่คอก่อนได้ครับ ทว่าครั้งนี้ถ้าเป็นไปได้ลองเปลี่ยนจากท่านอนเป็นท่านั่งนะครับ 

แม้เราไม่ได้คิดถึงสิ่งที่รบกวนใจ แต่ความร้อนหงุดหงิดที่อยู่ภายในก็แสดงถึงพลังลบหรือความคิดบางอย่างสะสมอยู่ ให้การฟังร่างกายหรือปรับพลังร่างกายทีละจุดนี้ ชำระล้างและผ่อนคลายตัวเรา ให้แสงสว่างที่เรากำหนดในใจให้เป็นการปรับเปลี้ยนพลังลบออกให้สมดุล… Continue reading บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๒

บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑

      บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑ บทสนทนาและการดูแลตนเอง ในรอยต่อระหว่างการอบรม “เขียน = ปลดปล่อยชีวิต” และ “พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์” โดย สุพัตรา   อาจารย์… ชีวิตที่ต้องคอยพยายามพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดนี่เหนื่อยมากเลยนะครับ ยิ่งต้องคอยอยู่กับคำตัดสินและคำสั่งโดยที่ไม่ได้ตอบโต้ก็ยิ่งเหมือนคอยแบกหินไปด้วย เหนื่อยอย่างนี้ความฝัน ความตั้งใจ และการเรียนรู้ก็พลอยถูกบั่นทอน ใจแบกรับหนักอึ้งก็ยิ่งเร่งเร้าร่างกาย ก็สะท้อนมาให้เราฟังผ่านอาการที่หน้าอกและหัว จะพอช้าลงและให้โอกาสร่างกายได้พูดเสียหน่อย ได้ไหมครับ เห็นร่างกายและจิตใจเราเสียพลังไปมากพอมีช่วงเวลาให้เราลองฟังร่างกายได้ไหมครับ ผมจะแนะนำดู _ลองนั่งหรือนอน หลับตา ผ่อนคลายความคิดความกังวลใดใด หายใจอยู่กับตนเองครู่หนึ่ง _กำหนดความรู้สึก ไล่ไปตามลำดับ จากเท้าสองข้าง / หัวเข่า / ก้น / ท้องน้อย / ท้อง / หน้าอก / ลำคอ / หน้าผาก / กลางศรีษะ แต่ละส่วนใช้เวลาครู่หนึ่ง ไปตามเสียงภายในของเรา… Continue reading บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑

…ลูกช่วยปลดปล่อยเด็กน้อยในใจแม่…

  สวัสดีค่ะอาจารย์หลังจากที่เรียนกลับไปก็มีเรื่องราวบางอย่างที่ทำให้น่ายินดีมากเลยค่ะ ต้องเล่าก่อนเลยว่า หลังจากเรียนวันที่1 คืนนั้น น้อทตื่นมาตี2 และกำลังจะเคลิ้มหลับอีกครั้งปรากฏว่าเด็กน้อยประมาณวัยรุ่นตอนต้นก็โผล่ขึ้นมาในหัว เธอตะโกนโวยวายเรียกร้อง เธอพูดๆๆๆไม่หยุด เหมือนคับแค้น อัดอั้นนมานานมาก แล้วก็มีภาพซ้อนของการกินเร็วๆของตัวเองเข้ามา เพื่อเฉลิมฉลองความสุขที่ขาดหายไปนาน  อาการอัดอั้นคับแค้นใจมันทำให้ปวดแปล๊บที่อกข้างขวาเป็นระยะ น้อทรู้สึกเหนื่อยและเผลอหลับไป  เช้าตื่นขึ้นมาเรารับรู้ได้ว่าเด็กคนนั้นกำลังตัดพ้อเราด้วยที่เรามองข้ามเค้าไป แล้วก็ไปเรียนวันที่2 ด้วยอาการเจ็บอกเป็นระยะเช่นเดิม เรียนจบกลับมาก็ยังเป็นอยู่ มีอารมณ์กรุ่นๆเป็นพักๆ ที่ผ่านมาระยะหลังน้อทมีอาการอยากตะโกนอยากกรีดร้องออกมา อยากบอกเค้าว่า”อย่ามาทำ อย่ามาพูดกับฉันแบบนี้!!!!!”กับใครก็แล้วแต่ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกล้ำเส้น จนเมื่อคืนนี้มันเหมือนตะกอนความโกรธอะไรก็ไม่รู้มันพุ่งขึ้นมาเหมือนเราแค้นใครอยู่แล้วเราทำอะไรเค้าไม่ได้ ลูกเข้ามาถูกจังหวะพอดี น้อทตะคอกใส่ลูก แล้วลูกก็แหงนหน้ามองด้วยแววตาที่เจ็บปวด มีภาพเด็กน้อยของเราซ้อนไปที่ลูก แล้วเขาก็เปร่งเสียงออกมาด้วยความเสียใจ เจ็บปวด คับแค้นข้องใจ “ทำไมผู้ใหญ่ต้องมาดุหนู ต้องมาไล่หนูด้วย!!!!!! ฮืออออ เสียงดังมาก  แต่น้อทรู้สึกโล่งอกเหมือนได้ปลดปล่อยจากการกระทำของลูก เด็กน้อยของน้อทกับลูก เหมือนเราได้พูดออกไปแล้วพร้อมๆ กัน  วินาทีนั้นเด็กน้อยของน้อทผ่อนคลายขึ้น ทันทีที่น้อทเห็นภาพซ้อนของตัวเองที่ลูก มันเป็นอัตโนมัติมาก น้อทรู้เลยว่าเด็กน้อยภายในและตรงหน้าต้องการคนกอด น้อทลูบหลังเค้า สงบโดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้เค้าระบาย ร้องไห้ออกมา  ลูกน้อทและเด็กน้อยของน้อทกำลังร้องไห้ระบายและน้อทก็ได้กอดเค้าไว้ทั้งสองคน  ลูกน้อทสงบลง ตัวน้อทเองรู้สึกผ่อนคลายขึ้น  น้อทได้ดูแลลูกก็เปรียบเหมือนได้ดูแลเด็กน้อยของเราด้วยเช่นกัน วินาทีที่ลูกตะโกนถามน้อท มันเปรียบเหมือนเด็กน้อยของเราได้ตะโกนถามคนอื่นด้วยเช่นกัน มันเหมือนฉันทำได้ ฉันกล้าที่จะพูดออกไปแล้ว… Continue reading …ลูกช่วยปลดปล่อยเด็กน้อยในใจแม่…

สนทนากับเจ้าตัวเล็ก…เมื่อฉันอิจฉา…

  สนทนากับเจ้าตัวเล็ก…เด็กน้อยภายใน ตอน  …เมื่อฉันอิจฉา… โดย สุพัตรา   ฉัน : เด็กน้อยฉันมาแล้ว มาคุยกันเถอะ! เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : ฉันก็มาแล้ว เย้! คิดถึงเธอจัง ฉัน : ฉันก็คิดถึงเธอ เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : เธอเป็นอะไรรึปล่าว ? ฉัน : ปล่าว ฉันไม่เป็นไร แต่คือ…วันนี้ฉันรู้สึกอิจฉาเพื่อน  เ ด็ ก น้ อ ย ภ… Continue reading สนทนากับเจ้าตัวเล็ก…เมื่อฉันอิจฉา…

บันทึกกิจกรรมและความรู้สึกหลังการเรียน ## ปอง

บันทึกกิจกรรมและความรู้สึกหลังการเรียน ## ปอง หลักสูตร ห้องเรียนนักกล้าฝัน เดือนแรก     วันที่ 5 กันยายน 2558 หัวข้อ “พื้นที่ชีวิต ความปลอดภัย และ ความไว้วางใจ” โดย อ.อนุรักษ์ เม่นหรุ่ม ประสบการณ์และความรู้สึกหลังการเรียน   ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับการเรียนกระบวนกรชั้นต้นในสถาบันอื่น กิจกรรมที่อ.โอเล่ให้ลองทำในวันแรกนี้ สัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่จะฝึกฝนผู้เข้าร่วมให้เข้าใจในงานกระบวนกร และสร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ข้อสังเกต บทเรียน และ การประยุกต์ กิจกรรมที่ชื่นชอบมากที่สุดคงเป็นในส่วนของกิจกรรมกล้องถ่ายรูป แม้จะเป็นกิจกรรมเพียงสร้างความคุ้นเคยและยังไม่ได้สรุปมาก แต่สัญญาณร่างกาย ณ ขณะร่วมกิจกรรมให้ความรู้สึกของการปล่อยวาง การไว้วางใจ และที่รับรู้ได้ คือ ทุกครั้งที่เปิดตาจะเกิดความรู้สึก ละมุน wow! สัมผัสได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดของภาพที่เห็นมากขึ้น ทั้งๆที่ภาพเหล่านี้ก็เคยเห็นมาก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในช่างภาพที่ตั้งใจสร้างภาพที่สวยงามให้กับผู้ชม การขมวดประเด็นที่ชื่นชอบจะเป็นเรื่องของการเขียนเพื่อทดสอบทิฐิปาทานในใจตนเอง สามารถมองเห็นว่าเรามีมากหรือ น้อย การสร้างหน้ากระดาษในส่วน “ฉันเคย ฉันมี และ ฉันเป็น” ที่ใหญ่จนแทบไม่เหลือพื้นที่รับความคิด “… Continue reading บันทึกกิจกรรมและความรู้สึกหลังการเรียน ## ปอง