ปัญญามีความรัก #๕ พุทธะในอ้อมกอด เล็ก ฉันคิดถึงเธอนะ ในความดีงามที่ก่อเกิดระหว่างกันของการพบเจอ สิ่งที่แสนสวยงามเกินกว่าจะพรรณาแนบชิดอยู่เคียงข้างฉันในยามโอบกอด ด้วยปัญญาของฉันและหัวใจของเธอ อ้อมแขนนี้คือบ้านอันอบอุ่น ฉันมิได้กอดตัวตนคนที่ฉันรัก แต่เรากำลังกอดธรรมะที่อยู่ในกายของกันและกัน เราอย่าทิ้งกันและกันเลยนะ เหมือนที่ผู้คนต่างๆ ทิ้งตนเองและทิ้งเพื่อนชีวิต ไขว่คว้าหาคุณค่าแท้ของชีวิตจากภายนอกกันมากมาย บางครั้งเราแสวงหวังภูมิอันประเสริฐ ดินแดนแห่งพระแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ ทำบุญกุศลกับสิ่งนอกตัว แต่หลงลืมว่า ณ ที่แห่งนี้ ในร่างกายของเรา คือเนื้อนาบุญหนึ่ง มีธรรมะให้เรียนรู้ มีความจริงให้เรารักและเข้าใจ ดินแดนแห่งพระความรักอันยิ่งใหญ่ ก่อเกิดในกายของเรา ฉันเห็นสิ่งที่มิอาจเห็นด้วยดวงตา รู้ในสิ่งที่ไม่อาจรู้ด้วยการคิด เข้าใจด้วยสิ่งเหนือกว่าหัวใจของคนๆ หนึ่ง เพราะสิ่งที่มีลมหายใจอยู่ในเธอ คือของขวัญอันยิ่งใหญ่ของโลก และเล็กจนบางทีสายตาคนเราอาจมองข้าม เราจึงควรอยู่ใกล้กัน เพื่อเรียนรู้ธรรมอันง่ายงามในกาย วาจา และใจของเรา ดวงตาของฉันมีข้อจำกัด บางส่วนของเนื้อนาบุญน้อยนี้มิอาจเห็นด้วยตนเอง ขอเธอจงช่วยเตือน ช่วยเป็นตาที่ฉันไม่มี เพื่อเราจักเห็นภาพแห่งความดีในกายของเราได้ทุกแง่มุม แล้วฉันจะเป็นหูแก่เธอ เพื่อฟังเสียงที่เธออาจมิทันฟัง สรรพเสียงแห่งธรรมที่เต้นระหว่างลมหายใจ เมื่อความเป็นเช่นนั้นของฉันและเธออยู่ร่วมกัน ณ ที่แห่งนี้คือบ้านอันอบอุ่น คือที่ที่เราจะลงมือเพาะปลูกความรักที่แท้ที่จะละความเป็นเธอและฉัน มีเพียงเราเช่นนั้น… Continue reading พุทธะในอ้อมกอด #ปัญญามีความรัก ๕
Category: ปัญญามีความรัก
“พรหมโวหาร” คอลัมน์ ปัญญามีความรัก #๔
เล็ก ฉันรู้ว่าเราต่างยากปรับเข้าหาและเข้าใจกันในหลายจังหวะของการพบเจอและการสื่อสารที่ผ่านมา ฉันขอโทษเธอนะหากวาจาใดได้เคยพาใจเธอหม่นมัวหรือเจ็บปวด เพราะความหม่นมัวที่ฉันมีหรือความเจ็บปวดที่หวังเธอดูแล ฉันดีใจที่เธอให้อภัยและวางใจให้ถ้อยคำของฉันยังแนบเนาอยู่ใกล้ๆ ดวงใจ คนดี หลายครั้งเชียวนะที่ถ้อยคำของบุคคลที่เรารักหรือผูกพันกลายเป็นแส้ที่เฆี่ยนตี การทำร้ายกันเกิดขึ้นตั้งแต่ในโลกใบเล็กคือครอบครัวจนโลกใบใหญ่ในสังคม หัวใจเธอเจ็บปวดเพราะสิ่งใดนะ ฉันฟังน้ำตาของเธอ ดวงตาเธอคล้ำหมอง เส้นผมเธอหลุดร่วงลง ความมืดดำของหัวใจที่รักเธอและเธอรัก กลืนกินร่างกายและจิตใจเธอเนิ่นนาน ไยคนที่รักเธอจึงมิเห็นว่าความมืดดำของตนได้ทำร้ายกันมามากเพียงใด เขาหวังให้เธอเปลี่ยนแปลง แต่มิได้ย้อนมองสิ่งที่ตนต้องแปรเปลี่ยน ความรักควรจักกร่อนอัตตา ให้เหมือนน้ำอันอ่อนโยนกัดเซาะผาหินมิใช่หรือ เมื่อเรารักใครอย่างแท้จริง เราอาจยอมแม้แต่ลดความเป็นตนเอง เพื่อเปิดรับความเป็นคู่ หรือหัวใจอีกดวงอยู่ในรั้วรอบขอบใจ เล็ก เราจะเอ่ยคำหรือสื่อสารอย่างไร เราควรกล่าวความจริง หรือเก็บงำอำพลาง เราลองเรียนรู้จากท่านผู้เป็นเช่นนั้นนะ ท่านกล่าวคำสัตย์เสมอ แต่หัตถ์อันเมตตาก็เลือกเฟ้นใบไม้หรือดอกไม้มอบให้แก่เราเพียงบางส่วน สิ่งใดแล้วพูดแล้วถูกใจแต่ไม่จริง ท่านก็เลือกไม่เอ่ยคำวาจา สิ่งใดแล้วเป็นจริงแต่เอ่ยไปเกิดโทษมิเห็นค่าในครานั้น ท่านก็เลือกเงียบคำมิกล่าวถึง สิ่งใดแล้วเป็นเท็จลวงกล่าวแล้วก็ไร้คุณ ท่านก็มิเลือกหยิบยื่นแก่การสนทนา ต้องเป็นความจริงและมีคุณค่า มีคุณประโยชน์เหมาะแก่กาละ เทศะ บุคคล และสิ่งต่างๆ แล้วเท่านั้น ท่านพระสัมมาสัมพุทธจึงตรัสกล่าวแก่เราทั้งหลาย ฉันเคยเตือนเธอเล็กเอย บางสิ่งเราเพียงรู้จริงต่อกัน ทำดีต่อกัน แต่อาจมิเหมาะสมที่จะกล่าวถึงในตอนนี้ หากกล่าวเฉลยแล้วก็จะมีภัยจนถึงวันหน้า ฉันให้อภัยเธอที่หลงลืมนะ และเล็กเอย สิ่งใดที่เธอควรกล่าว เป็นความจริง… Continue reading “พรหมโวหาร” คอลัมน์ ปัญญามีความรัก #๔
“เพศฉันคือเธอ” คอลัมน์ ปัญญามีความรัก #๓
เล็ก เธอเคยบอกว่าพ่อแม่กับตัวเธอเองนั้นมิอาจเข้าใจกันและกัน เพราะความต่างของเพศทำให้เป็นอุปสรรคขัดขวาง ฉันเองก็รับฟังเธอนะ คนที่อยู่ตรงหน้าฉันนี้หรือเบื้องหลังอักษร เพียงรู้ว่าเป็นเธอมิใช่กำหนดจำกัดด้วยเพศคำใด เธอเคยบอกด้วยว่าในตัวฉันก็มีบางอย่างเหมือนแม่เธอด้วย และตนจะไม่ใส่ใจ ฉันก็ยอมรับสิ่งที่เธอกล่าวและการตัดสินใจนี้ แต่เล็กเอย พระองค์ท่านผู้เป็นเช่นนั้นมิเคยกล่าวเลยว่าเพราะเราเป็นหญิงชายผิดแผกจึงไม่สามารถเข้าใจกัน ท่านไม่ได้บอกเราให้มองใครคนหนึ่งเป็นหญิงหรือชายนะ แล้วเหตุใดที่คนเรามิอาจเข้าใจกันได้ และไยการเป็นเพศใดเพศหนึ่งจึงทำให้เธอและอีกหลายคนบนโลกนี้ทุกข์ใจนัก เพศ นั้นเป็นเพียงบทบาทสมมติหนึ่งนะคนดี เหมือนที่เราเคยเล่นสวมเป็นโจรบ้าง เป็นตำรวจบ้าง หรือเป็นเจ้าชาย เป็นเจ้าหญิงในวัยเยาว์ เราเพียงสวมบทนี้เพื่อทำหน้าที่ในแต่ละการเกิด เพศยังเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ หมื่นแสนการสมมติบทบาท นอกจากเพศแล้วก็ยังมีอาทิเช่น ตระกูลมีชื่อ ลูกคนนั้นคนนี้ เป็นคนถิ่นใดถิ่นหนึ่ง มีการศึกษา เป็นคนชั้นกลาง และอีกมากมายเลยนะเล็ก เราต่างเกิดมาเป็นเช่นพระองค์ท่าน คือเป็นผู้เช่นนั้นเอง เป็นเช่นนั้นเอง เป็นไปตามธรรมชาติ ธรรมดา แต่แล้วเจ้าสิ่งหนึ่งก็มาทำให้ใจเราพองฟู หรือเหี่ยวเฉาเกี่ยวกับสิ่งที่เราเป็น เล็กรู้ไหมสิ่งนั้นเรียกว่า มานะ เจ้าสิ่งนี้คือความถือคุณค่าและการเปรียบเทียบ เขาเหมือนดวงตามหึมาบนท้องฟ้าที่มืดดำของจิตใจ มีหลายดวงตาเลย ลองนับตามที่ฉันชี้นะ ๑ คือดวงตาที่ชอบกดข่มคนอื่น ๒ ชอบยกตัวเองให้สูง นี่กลุ่มดาวมหึมากลุ่มแรก อีกหนึ่งมีดวงตามองว่าฉันดีกว่าเธอ มองว่าเราเท่าเทียมกัน หรือฉันแย่กว่าเธอ ดาวมานะยังมีอีกหลายรูปแบบเลย กลุ่มหนึ่งพวกเขามีอยู่… Continue reading “เพศฉันคือเธอ” คอลัมน์ ปัญญามีความรัก #๓
“ธงใจเหนือความกลัว” คอลัมน์ ปัญญามีความรัก #๒
เล็ก ในคำตอบที่เธอตอบฉันมา อีกหลายเรื่องราวที่เราคุยกันกาลก่อน ฉันพินิจเห็นความกลัวในใจเธอ ฉันเห็นความกลัวนั้นเกิดขึ้นอยู่ เหมือนเด็กน้อยแอบอยู่หลังบานประตู มีคุณผู้ปกครองอยู่หน้าบ้าน คือความรู้สึกภายนอก การตัดสินใจ และความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ คอยปกป้องเด็กน้อยคนนี้ เล็ก เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นในเมืองกรุงหลวงของประเทศเรา ทำร้ายและพรากชีวิตผู้คนจำนวนมากนั้น เธอเห็นความกลัวเหมือนฉันไหม ความกลัวแพร่กระจายออกมาหลังเสียงกัมปนาท ฉันเฝ้าดู รับรู้ และเพียรเมตตาต่อความกลัวมากมายที่เกิดขึ้น เธอลองดูสิ มีข่าวลืมต่างๆ มีคำประณามสาปแช่ง อีกเสียงร้องอันเจ็บปวด ความพยายามหาผู้รับผิดชอบ คำพูดหลายคำเกิดก่อจากสัญญารับรู้เก่า อันตีความตัดสินบางกลุ่มหรือบางบุคคลไว้ กล่าวโทษกันและคาดคิดภัยร้ายสืบเนื่องเชื่อมต่อ ข่าวสารเล่นล้อเหตุการณ์เชื่อมโยง ความกลัวเกิดขึ้นฉับพลันเหมือนเสียงแห่งการทำลายแล้วแพร่กระจาย ฉันเองก็เห็นความกลัวในตนเอง ความห่วงใยบังเกิดขึ้นในใจฉัน ความกลัวกระตุ้นความคิดปรุงแต่งเป็นกังวล ในตอนนั้น หากฉันทำได้คงติดต่อไถ่ถามเธอเช่นกัน ขณะความกลัวกำลังครอบงำสังคม ฉันก็เห็นแง่งามผลิบานขึ้นน้อยๆ ด้วยการทำร้ายกันนี้หมายสร้างความกลัวและใจเกลียดชัง ดอกรักก็ยังมีพื้นที่หยัดยืน คนรู้จักกันที่ไม่เคยทักถามนานนับนาน ติดต่อกันทางไกล ใครต่อใครหลายคนส่งผ่านกำลังใจและความหวัง กิจกรรมการกุศลเกิดก่อ ช่วยเหลือกันแม้เป็นคนแปลกหน้าแปลกตา เส้นทางของเราอยู่ที่นี่ เล็ก ผู้ใดหมายทำลายชีวิตต่อหน้าท้าวมหาพรหม อาจจุดไฟความกลัวและความโกรธแค้นได้ แต่เขามิอาจทำลายความรักที่ยิ่งใหญ่ มหาพรหมยังคงคู่แผ่นดินนี้ งอกงามจากดินแม้พายุก้าวร้าว พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนเราว่าพรหมคือความรักนั้นอยู่ในสี่ประการ คือเมตตา กรุณา มุทิตา… Continue reading “ธงใจเหนือความกลัว” คอลัมน์ ปัญญามีความรัก #๒
“ในกงล้อมีเรา” คอลัมน์ ปัญญามีความรัก #๑
เล็ก ฉันได้อ่านจดหมายและงานเขียนจากเธอหลายชิ้นทีเดียวนะ ต้องขอบอกว่า ฉันวุ่นว้าใจเพียงใดที่รู้ว่าเธอช่วงนี้ ป่วยเกินกว่าจะตอบจดหมายและเขียนสิ่งใดเพื่อคนอื่นด้วยความรักที่เธอมี ฉันจึงตัดสินใจลองเขียนบ้าง เพราะเมื่อคนตื่น ย่อมปลุกสิ่งต่างๆ ให้ตื่นขึ้น เฉกเช่นดวงตะวันพาดอกไม้เปิดดวงตาแห่งความงดงาม เพราะเธอเขียน ฉันจึงลงมือขีดเขียน วันสำคัญของศาสนาพุทธเพิ่งผ่านไปอีกครั้งแล้วนะ แต่เธอรู้ไหมว่า มีหลักธรรมลี้ลับข้อหนึ่ง ซึ่งใครๆ มักไม่ค่อยกล่าวถึง และไม่มองลึกลงไปถึงแก่นใจความสำคัญ เรารู้ชื่อแต่เราไม่ค้นหาต่อว่าสิ่งใดได้แอบซ่อนอยู่ หลักธรรมข้อนั้นกล่าวถึงกงล้อ กงล้อที่หมุนวน เคลื่อนโลกและจักรวาลไปพร้อมกับหัวใจของเรา แต่ไม่ใช่เพียงการเวียนว่ายตายเกิด และ ไม่ใช่เพียงกงล้อของจิตด้วย ทั้งสองก็เป็นส่วนหนึ่งในนี้แหละ เป็นกงล้อที่สำคัญมากทีเดียว เรารู้จักกันในนาม กงล้อแห่งธรรมอันเป็นนิรันดร์ เรียกตามภาษาบาลีว่า “ธัมมจักกัปปวัตตน” กงล้ออันนี้ ไม่ได้สำคัญเพราะมหาบุรุษได้กล่าวหรอกนะ และมิใช่เพราะเป็นหนึ่งเทศนาแรกท่ามกลางคืนเพ็ญเดือนแปด แต่เพราะว่าฉันกับเธอต่างอยู่ในกงล้อนี้นี่แล เช่นเดียวกับพวกเขาและพวกเธอในโลกนี้ คือส่วนหนึ่งแห่งกงล้อธรรม ผู้ที่จะพาให้กงล้อนี้หมุนเคลื่อนไปอย่างไร หมุนไปตามหัวใจและโลกเรา ดูสิ พวกเราสำคัญมากเพียงใด เราอาจเคยคิดแต่ว่าพระสงฆ์คือผู้เผยแพร่พระศาสนา หรือพระผู้เป็นเลิศหรือผู้บรรลุธรรมขั้นสูงคือมือที่จะผลักกงล้อธรรมเคลื่อนไป ทั้งที่พวกเราคือส่วนหนึ่งในธรรมจักรนี้ ในธรรมจักรอันยิ่งใหญ่ มีจักรธรรมทั้งสี่อันเป็นทิศวิถีพาเราขับล้อหมุนในหนทางที่ดีงาม อันได้แก่สิ่งที่อยู่ภายนอกตัวเราและภายในตัวเรา ดังนี้ ๑ อยู่ในที่ที่ดี เหมาะสม และถูกกาละอันเกื้อกูลต่อชีวิตกับการเติบโตมิติต่างๆของเรา ๒… Continue reading “ในกงล้อมีเรา” คอลัมน์ ปัญญามีความรัก #๑