เขียนภาวนา : เรียนการทำสมาธิเพื่อการปล่อยวาง

หลักสูตร “เขียนภาวนา”

 

เรียนการทำสมาธิเพื่อปล่อยวาง ฝึกเจริญสติผ่านการเขียนภาวนา

เมื่อการเขียนและลมหายใจเป็นหนึ่ง เพื่อละวางตัวตนและขจัดกิเลส

 

รุ่นที่ 16 : วันที่ 18 – 19, 25 – 26 มกราคม และ 1 – 2, 8 – 9 กุมภาพันธ์ 2568

เป็นจำนวนรวม 8 ครั้ง เรียนออนไลน์ทาง Zoom ภาคบ่าย

เวลา 14.00 น. ถึง 17.30 น.

ความหมายของ เขียนภาวนา

 

“ใช้ชีวิต ช้าลง ด้วยการเขียน
ผ่านศิลปะการเขียน หนึ่งลมหายใจ
รู้หยุด รู้วาง รู้เริ่มใหม่
กำกับใจ เขียนภาวนา ใคร่ครวญธรรม
ผ่อนเบาสิ่งบีบคั้น รู้ทันความอยากใคร่
สมาธิผ่านอักษร สลักใจเติบใหญ่
ไม่เน้นเขียนให้ดี ไม่เน้นเขียนให้เก่ง
เขียนให้ใจขัดเกลา ทิฐิ กิเลส อัตตา”

 

เขียนภาวนา คือ ศิลปะการเขียนในลมหายใจออก ซึ่งมีจุดหมายในการขัดเกลากิเลสตัณหา บนหลักสติปัฏฐาน และ อริยมรรค เพื่อส่งเสริมอาณาปานสติ การเจริญสติ และการปฏิบัติธรรม ทั้งผู้มีประสบการณ์จนถึงผู้เริ่มต้นใหม่

 

การเขียนลักษณะนี้ไม่ใช่การสร้างผลงาน ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนหรือพื้นฐานในการภาวนามาก่อน เป็นการเขียนบันทึกเพื่ออยู่กับตนเอง จรดปากกาเพื่อกำกับความคิดและจิตใจ เป็นเครื่องมือในการภาวนาที่ชวนเราเรียนรู้เกี่ยวกับตนเองอย่างลุ่มลึกหลากหลายด้านที่เหมาะสมทั้งผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาและผู้มีประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรม

 

เขียนภาวนา ไม่ใช่เครื่องมือที่มุ่งให้เกิดภาวะวิเศษ และมิใช่กิจกรรมทำชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นวิถีของการฝึกฝนเพื่อระงับความเคยชินของจิตใจในการทำตามความอยากและความยึดมั่น เป็นการขัดเกลาให้กลับคืนสู่ความเป็นมนุษย์ตามธรรมชาติอันเรียบง่าย รู้สันโดษ มีความพอดีและใจที่สงบมั่น

สิ่งที่จะได้รับจากการเรียน

  1. ฝึกฝนการเขียนบันทึกเพื่อเจริญสติ บ่มเพาะสมาธิ ขัดเกลาอัตตา ด้วยการเขียนภาวนา ที่มุ่งเน้นรู้เท่าทันกิเลสและขัดเกลาใจ
  2. ฝึกสังเกต สร้างความเข้าใจ และรู้ละวางความอยากและความยึดมั่น ด้วยรูปแบบการฝึกฝนในห้องเรียน และการบ้านระหว่างสัปดาห์
  3. ฝึกทำสมาธิด้วยอิริยาบถต่างๆ  บนหลักสติปัฏฐาน และการทบทวนหลังการปฏิบัติ
  4. ฟังบรรยายและทบทวนธรรมะกับหลักจิตวิทยาที่เกี่ยวข้อง และร่วมแลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมเรียน/ครู และการสอบอารมณ์หรือทดสอบใจกับสติของผู้เรียนจากครูผู้สอน
  5. สะท้อนทบทวนตัวเองกับจิตใจตนจากการฝึกปฏิบัติ การสังเกตในระหว่างการเรียน และย้อนทบทวนชีวิตที่ผ่านมา เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันและปัญญาในการพัฒนาตนเองต่อไป
  6. รับคำแนะนำและการฝึกฝนเพื่อเจริญสติและรู้เท่าทันตนเองในชีวิตประจำวัน ผ่านการฝึกปฏิบัติในการอบรม การทำการบ้านระหว่างสัปดาห์ และการทบทวนร่วมกันในเนื้อหาการเรียนรู้

สิ่งที่ต้องเตรียม

 

อุปกรณ์ : สมุดบันทึก ขนาดครึ่งเอสี่เป็นต้นไป , ปากกาหรือดินสอ สำหรับการเขียนบันทึกและทำกิจกรรม อนุโลมการใช้แท็ปเล็ตที่มีปากกา

การเข้าร่วม : ห้ามขาด 4 วันแรก หากขาดเรียนจะต้องเชิญออกจากอบรมในรอบนี้, ผู้เข้าเรียนจะต้องมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในระหว่างการอบรม

ผู้ที่สามารถเข้าร่วม

 

  • บุคคลทั่วไป (ฆราวาส) อายุ 17 ปีขึ้นไป มีความสนใจพัฒนาตนเองตามเนื้อหาที่ระบุไว้และสมัครด้วยตนเอง
  • เปิดรับการเรียนรู้และการทบทวนหลักธรรมอย่างหลากหลายนัยโดยไม่อิงกับตำราและความรู้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องนับถือพุทธศาสนา
  • สามารถอ่านเขียนภาษาไทยได้ และสามารถเข้าร่วมการอบรมเต็มเวลา โดยไม่อนุญาตให้มีการเรียนแทนผู้อื่น หรือเรียนเพราะคนอื่นต้องการให้เรียนแทนตนโดยเด็ดขาด

ค่าลงทะเบียน

 

ค่าลงทะเบียนตามกำลังทรัพย์ไม่มีขั้นต่ำ

โดยจะต้องโอนชำระเมื่อสมัครเพื่อยืนยันการเข้าร่วม

หากสมทบ 990 บาทขึ้นไป จะได้รับเว็บไซต์ คู่มือการเขียนภาวนา หลังจบการอบรม (รวมมากกว่า 70 แบบฝึกหัด)

 

* ค่าลงทะเบียนในการอบรมสนับสนุนโครงการเพื่อการกุศลต่างๆ โดย สถาบันธรรมวรรณศิลป์ อาทิ การมอบทุนการศึกษาเยาวชน, โครงการปัญญ์ สเปซ เป็นต้น

* กิจกรรมของโครงการใน สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ไม่รับทุนจากสปอนเซอร์ใดๆ โดยใช้รายรับจากการอบรมเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ และเป็นค่าตอบแทนแก่ทีมงาน

 

อ่านรายละเอียดโครงการเพื่อการกุศล ได้ที่

www.dhammaliterary.org/โครงการเพื่อการกุศล/

 

วิทยากร

 

ครูโอเล่ อนุรักษ์ เม่นหรุ่ม

 

ผู้อำนวยการ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ วิทยากร นักเขียน นักสะกดจิตบำบัด ผู้สอนการเขียนบำบัดในชื่อชุดหลักสูตร “เขียนเปลี่ยนชีวิต” (จำนวน 55 รุ่น) สอนการสะกดจิตบำบัดและการโปรแกรมจิตตัวเองในชุดหลักสูตร “ห้องเรียน พลังแห่งจิต” (30 รุ่น) เป็นผู้เขียนคอลัมน์ออนไลน์ “ไกด์โลกจิต” ผู้ร่วมศึกษาการเขียนบำบัดเพื่อส่งเสริมสุขภาวะผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ HIV และโรคเรื้อรัง (เสนอผลการศึกษาสองครั้ง) และกำลังอยู่ระหว่างศึกษาวิจัยการเห็นคุณค่าในตัวเองผ่านการเขียนภาวนา

สมัครเข้าร่วมอบรม

 

– ทักแชท Inbox เพจเฟสบุ๊ค “สถาบันธรรมวรรณศิลป์
หรือไลน์ id : @khianpianchiwit

– แจ้งสมัครการอบรม “เขียนภาวนา” พร้อมแจ้งข้อมูล ได้แก่ ชื่อนามสกุล ชื่อเล่น อีเมล และเบอร์โทรศัพท์ของท่าน

* ศิษย์เก่าสามารถแจ้งเฉพาะ อีเมล เพื่อลงทะเบียน

* เมื่อได้รับข้อมูลแล้วทีมงานจะแจ้งบัญชีสมทบค่าใช้จ่าย เพื่อยืนยันการเข้าร่วมเรียน

เงื่อนไขในการเข้าเรียน

 

  • ผู้สมัครมีความตั้งใจร่วมกิจกรรมการอบรมอย่างเต็มที่ โดยได้อ่านรายละเอียดทั้งหมดและสมัครด้วยตนเอง พร้อมมีส่วนร่วมในขั้นตอนต่างๆ กับการทำกิจกรรมในการอบรมโดยทางโครงการไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • เมื่อชำระค่าลงทะเบียนแล้วไม่มีการยกเลิก ขอเลื่อน หรือคืนเงินมิว่ากรณีใดๆ เพื่อรักษาสิทธิ์ในการเข้าร่วมการอบรมของผู้สมัครคนอื่นๆ มิให้ถูกกันที่ไว้ ยกเว้น กรณีที่ชำระค่าลงทะเบียนแล้วทางโครงการมีการยกเลิกหรือเต็มจำนวนรับสมัครจะมีการคืนค่าลงทะเบียนเต็มจำนวน
  • หากมีความประพฤติไม่เหมาะสมหรือส่งผลเสียต่อผู้เข้าเรียนคนอื่นๆ และอาจารย์ผู้สอน ทางโครงการจะเชิญออกจากการอบรมโดยไม่มีการชดเชยใดๆ เพื่อความเรียบร้อยและความสำรวมระวังในการฝึกฝน
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องทานยา หรือต้องพึ่งพาการดูแลเป็นกรณีพิเศษ โปรดแจ้งปรึกษาโครงการก่อนสมัครเข้าร่วมเพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมร่วมกัน

งานศึกษาวิจัย

 

การศึกษาประสบการณ์การเห็นคุณค่าในตนเองผ่านการเขียนภาวนา โดย อภิชาติ ทองสุกแสง

งานวิจัยรวมเล่ม การศึกษาประสบการณ์การเห็นคุณค่าในตัวเองผ่านการเขียนภาวนา

 

ในขณะนี้ทางโครงการกำลังดำเนินการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมกับศิษย์เก่า เขียนภาวนา และบุคคลทั่วไป (เริ่มต้น 2565-2567)

บทเรียนและการพัฒนาตนของศิษย์เก่า

“การเปลี่ยนแปลงสำคัญจากการฝึกที่ผ่านมาคือ รู้สึกมีฉันทะที่จะเพียรพยายามภาวนาให้เจริญงอกงามดีสม่ำเสมอยิ่งขึ้น

สิ่งที่เขียนสอนหลักแนวทางที่จะให้มุ่งมั่นตั้งใจดำรงอยู่บนเส้นทางนี้อย่างแน่วแน่มั่นคงเปรียบดังเสาหลักปักไว้ในใจ ภาพที่วาดสอนเหตุปัจจัยและองค์ประกอบที่ไม่ควรตีขลุมเหมารวมเป็นการตีความให้ยึดติดมั่นหมาย

มีและไม่มี เกิดและดับ ยึดและปล่อย เป็นเช่นนั้นเอง ไม่มีของเราหรือของใคร ไม่เป็นตัวเป็นตน ผันแปรไปตาม กรรม”

คุณต่าย 

 

“สอนให้เรารู้จัก ละความโลภ ละความเร่งรีบ ที่บีบคั้นตัวเอง ให้กลับมารู้จัก “ทางสายกลาง” ที่เป็นแนวทางที่น่าจะเอามาปรับใช้ในชิวิตประจำวันได้ สำคัญคือ การหาจุด “พอดี” และ “ดีพอ” สำหรับตัวเอง

สอนใหัเรารู้จัก “ทางสายกลาง” ในอีกมิติที่ทำให้เรารู้ตัวว่า การพยายามที่มากเกินไปคือ กิเลส “ความกลัว” ที่เข้ามาในรูปแบบที่แตกต่างจากตัวที่เราเคย “รู้จัก” พอเราได้รู้จักและทำความเข้าใจแล้ว เราก็สามารถผ่อนตัวเองลง จัดสมดุลชีวิตได้ดีขึ้น”

คุณจอย

“ในขณะเขียนภาวนาได้ฝึกการมองกลับมาภายในใจภายในกายตนเองอย่างแท้จริง ได้ฝึกรู้ลมหายใจ ได้ฝึกการขัดใจตนเองไม่ไหลไปตามความอยากของใจ ได้ขัดเกลากิเลสในตนเอง ฝึกการอยู่กับปัจจุบันขณะ ฝึกดูการทำงานของกายใจอย่างที่เค้าเป็น ได้ฝึกมองจุดแข็งจุดอ่อนของตนเอง จะนำจุดอ่อนที่ค้นพบในตนเองจะยอมรับอย่างอ่อนโยน ปรับและพัฒนาตนเอง จะนำจุดแข็งที่ค้นพบเร่งเพียรพัฒนาศักยภาพตนเองให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นและเดินไปข้างหน้าอย่างตั้งมั่นเพื่อเยียวยาตนเองและผู้อื่นให้ถึงที่สุด

“วันนี้ครูโอเล่ทำให้ชีวิตหนูเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากการอบรมครั้งนี้ทำให้เกิดความเข้าใจในตนเองที่ชัดเจนขึ้น และเห็นการก้าวข้ามความกลัวการทำงานของใจที่คอยหนีคอยป้องกันตนเองที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเรามาตลอด แต่ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจการทำงานของจิตใต้สำนึกและสมองจึงส่งผลให้เจ็บป่วยทางกายตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ในวันนี้เมื่อเกิดความเข้าใจและรู้ทันการทำงานของใจที่คอยจะหนีทุกข์คอยสร้างกำแพงหลบปกป้องตัวเองของใจของกายนี้ ตอนนี้ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปและได้พบความสุขที่ลึกละเอียดได้มากขึ้นในตนเอง”

คุณสิริลดา

 

“ก่อนอบรมรู้สึกสงสัยว่าการเขียนภาวนาคืออะไร..การเขียนจะทำให้เกิดการภาวนาได้หรือ แต่หลังจากอบรมแล้วทำให้ทราบว่าแม้แต่กิจกรรมการเขียนก็สามารถทำให้ใจของเราสงบได้ เข้าอบรมแล้วได้ฝึกการทำงานทีละอย่าง ฝึกการตามลมหายใจขณะนั่ง ฝึกเขียนช้าลงตามการหายใจออก อก และฝึกใจให้อยู่กับปัจจุบันไม่กังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดและเศร้าใจกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว จิตใจและอารมณ์มีความผ่องใสมากขึ้น ความเศร้าที่เกิดจากความกังวลสิ่งที่ยังไม่เกิดลดน้อยลง ทำให้ชีวิตน่าอยู่มากขึ้น”

คุณกรรัตน์

 

“รู้สึกสุขใจ มีอารมณ์นิ่งสงบลง หลักการอบรม ตลอดเวลาการอบรมแม้จะทิ้งช่วงเวลาหายไป ไม่ต่อเนื่อง ครูโอเล่ก็ให้โอกาสและกำลังใน ยินดีกับการเริ่มต้นของดิฉันเสมอ ชอบหัวข้อ “อารมณ์แห่งใจ” “ฝนอิฐเป็นกระจกเงา” และ “ภาระความรู้” ในการเขียนภาวนา ทำให้เราเข้าใจ ได้ฟังลมหายใจ ร่างกายตัวเอง กลับมาสะท้อนย้อนคิดตัวตน รู้สึกรักและยินดีกลับการได้มีและใช้ชีวิตอยู่มากขึ้น เข้าใจความจริงของชีวิตเราในจักรวาล ผ่อนคลายกับความรู้สึกที่เคยอึดอัด ไม่เข้าใจในตัวเอง

“การกลับมาที่ลมหายใจ เข้า ออก ทำให้เรารู้ยั้งความคิดและการกระทำตนจากการปะทะกับปัจจัยที่ทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆ ขึ้น ละวางการยึดในตัวตนให้ความสำคัญและเข้าใจคนอื่นว่าแท้จริงเรามีความแตกต่าง ถูกจักรวาลสร้างมาให้ต่างกันไป เขาเป็นเขา เราเป็นเรา”

คุณริยา

ผลลัพธ์จากการเข้าร่วม

คลิกที่ปุ่มด้านล่างเพื่อศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับผลลัพธ์จากการเข้าเรียน

ติดต่ออบรมให้กับองค์กร/กลุ่มบุคคล

 

หลักสูตร เขียนภาวนา นอกจากเปิดสอนแก่บุคคลทั่วไปตามรอบที่กำหนดปีละ 1-2 แล้วนั้น ทางโครงการยังรับเชิญอบรมให้กับองค์กรหรือกลุ่มบุคคลตามระยะเวลาและเป้าหมายที่ต้องการ โดยอาจมีการประยุกต์ร่วมกับเครื่องมืออื่นเพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย อาทิ หลักสูตร “เขียน.ปล่อย.วาง” ที่ทางเราผสมผสานการเขียนบำบัดและการเขียนภาวนา เพื่อมุ่งเน้นการดูแลจิตใจและผ่อนคลายเครียมของบุคลากร

 

องค์กรและกลุ่มบุคคลที่เราได้เคยอบรมให้ : เจ้าหน้าที่เครือข่ายองค์กรงดเหล้า สคล., กิจกรรมการอบรมของ มูลนิธิกัลยาณการุณย์ (5 รอบ), กลุ่มเพื่อนรัก (ผู้ป่วย) โรงพยาบาลบางบ่อ, ผู้ต้องขังแดนหญิงเรือนจำสมุทรปราการ (2 รอบ) กลุ่มพยาบาล ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี, พนักงานบริษัท Bangkok Pacific Steel  (2 รอบ), คณะครูโรงเรียนอนุบาลช้างน้อย (3 รอบ) ฯลฯ

 

ติดต่อได้ที่ ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์

เฟสบุ๊ค : www.facebook.com/khianpianchiwit/

เว็บไซต์ : www.dhammaliterary.org

อีเมล : dhammaliterary@gmail.com

ศึกษาความรู้และเนื้อหาเพิ่มเติม