สิ่งที่ได้พัฒนาตนเองจากการเรียน พลังแห่งจิต

 

การอบรมในหลักสูตร “ห้องเรียน พลังแห่งจิต” ที่เราจัดมาแล้วทั้งหมด 18 รุ่นในขั้นต้น-กลาง เป็นการเรียนรู้เกี่ยวพลังของจิต การโปรแกรมจิต และการฝึกหัดจิต เพื่อการพัฒนาตนเองและการช่วยเหลือผู้อื่น โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ลงมือทำจริง สัมผัสจริง ผ่านการดูแลตนเองและผู้อื่น บนพื้นฐานความเข้าใจด้วยปัญญาและการฝึกจิต บนหลักการสะกดจิตบำบัดและพุทธธรรม นำสิ่งที่ดูยากแต่ใกล้ตัวให้ได้เห็นว่าเราทุกคนสามารถฝึกได้อย่างไร

“คอร์สนี้ทำให้เรารู้สึกว่าทุกๆคนมีพลังมากมายอยู่ในตัว ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้รับกุญแจดอกสำคัญที่จะไขไปสู่ทางออกที่เคยมองไม่เห็น และเปิดทางให้เราพบทางสว่างที่รออยู่ข้างหน้า สิ่งที่เรียนรู้มีประโยชน์ต่อชีวิตอย่างมากมาย และได้วิธีปฏิบัติที่เราไม่สามารถเรียนรู้ได้ผ่านการอ่านหน้งสือ ทุกๆคนเก่งและน่าทึ่งมากๆค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ มีคนแค่ส่วนน้อยที่ให้ความสนใจเรื่องเกี่ยวกับจิต เพื่อใช้ในการพัฒนาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่น ตาลดีใจที่ได้พบเพื่อนๆที่มีความสนใจในแบบเดียวกัน ซึ่งยากมากๆที่จะมีโอกาสได้พบเจอในชีวิตประจำวัน”

/ คุณตาล รุ่นที่ 16

 

“ได้เรียนรู้… กระบวนการขั้นตอนการสะกดจิตอย่างถูกวิธี ได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติจริงเพื่อเห็นเพิ่มประสบการณ์และเห็นความผิดพลาดตัวเองเพื่อนำไปปรับปรุง เรียนรู้พลังงานของครู​ขณะที่สอนและขณะสะกดจิต​นร.​ ได้เรียนรู้จักกับเพื่อนๆ​ กลุ่มคนที่มีความสนใจเหมือนกัน​ เรียนรู้ความเหมือน​ความต่างของกันและกัน และได้เรียนรู้กับตัวเองว่า​ จิต​ เรามีความพิเศษมากๆ​ มีพลังอำนาจมากๆ​ในการพาเราไปรับรู้​ทุกสิ่งที่อยากรู้​ สั่งการสมองพฤติกรรม​ของเรา​ จะทำให้ชีวิตดีขึ้นหรือแย่ลงก็เพราะ​ จิต​”

/ คุณลักษณ์ รุ่นที่ 16

 

😊 ต่อไปนี้เป็นบางส่วนของบทเรียนและสิ่งที่ได้รับ ของผู้เรียนรุ่นที่ 17

  • ที่ระลึก : จิตที่กลับมารวมกันและนิ่งลง ทำให้มีพลังไปที่ต่างๆ ได้
  • ความเพียร : ให้ทำต่อไปเรื่อยๆ ตั้งใจจดจ่อใส่ใจกับการภาวนา
  • ดูแลตัวเองนะ : สิ่งที่เห็นในการสะกดจิตทำให้รู้ว่าควรใช้ชีวิตอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความผิดเหมือนเดิม
  • Unknown : เรียนรู้จากความไม่รู้ เป็นความท้าทายทุกครั้งในการฝึกสะกดจิตและการฝึกจิตตนเอง
  • รักยังอยู่ : คนในภาพอาจไม่อยู่แล้ว แต่ความรักความรู้สึกยังคงอยู่ สิ่งที่จบลงในภพหนึ่งแล้ว 
แต่สิ่งนั้นอาจจะยังคงอยู่หรือสืบมาข้ามภพ
  • เวียนว่ายตายเกิด : เข้าใจคำๆ นี้ชัดเจนขึ้น ทำให้บอกตนเองว่า “หมั่นทำกรรมดีไว้”
  • เมตตาต่อตนเอง และรักตัวเอง : เพราะกลไกปกป้องตัวเองที่สร้างขึ้น ทำให้ไม่เห็นโลกตามจริง จนยอมตามคนอื่นเกินไปเป็นภาระต่อตัวเอง ต้องมองตามความจริง เพื่อเมตตาตัวเองมากขึ้น
  • อยู่ในใจเสมอ : “พ่ออยู่ในใจลูกเสมอนะ อย่าร้อง จงเข้มแข็ง” 
เราพร้อมทำอะไรเพื่อตนเองและคนรอบข้างอย่างมีกำลังใจ และความเข้มแข็งจากจิตใจ

 

😊 ต่อไปนี้เป็นบางส่วนของบทเรียนและสิ่งที่ได้รับ ของผู้เรียนรุ่นที่ 18

  • ได้รับพลังจิตวิญญาณ ให้จิตใจเข้มแข็ง และรู้ทางแก้ปัญหา
  • การสื่อสารที่เอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าถึงอีกฝ่ายเชิงลึก
  • สัมผัสเพื่อนด้วยใจ
  • ฝึกใช้โทนเสียงที่เหมาะสม
  • คำพูดในการบอกผู้อื่นก็เป็นการบอกตนเองด้วย
  • ฝึกให้เรารับรู้พลังงานและความรู้สึกของคนอื่น ทำให้รู้ว่าเราควรพูดใช้คำแบบไหน
  • เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น กังวลน้อยลง ไม่ยึดติดสคริปเกินไป
  • ฝึกสมาธิ นิ่งขึ้น ทำให้การพูดมีพลังมากขึ้นและย้อนกลับมาหาเรา
  • สื่อสารช้าลง มีน้ำหนักมากขึ้น ชวนจินตนาการมากกว่าเดิม
  • จิตใต้สำนึกเป็นเรื่องสำคัญมาก ใช้ได้กับทุกๆ อย่าง
  • ประยุกต์ใช้กับลูกในเรื่องการโปรแกรมจิต
  • โปรแกรมจิตตนเอง เพื่อปรับความเชื่อที่ขัดขวางเรา
  • สื่อสารและรับฟังเพื่อรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้การสื่อสารชัดเจนมากขึ้น และเข้าใจเขา
  • นำบทเรียนจากเพื่อนและคนที่ผ่านเข้ามาทบทวนตนเอง
  • ลองใช้กับนักเรียนที่สอนซึ่งมีความกังวลกับตนเองสูง ช่วยให้เขาเห็นพลังข้างในและความสามารถ
  • เพิ่มเรื่องการจินตนาการภาพเพื่อกระตุ้นสมองซีกขวา

 

ติดตามหลักสูตร #ห้องเรียน #พลังแห่งจิต
ได้ที่ https://www.dhammaliterary.org/mindpower/

 

“ความเข้าใจเกี่ยวกับจิต เหมือนยากและไกลตัว แต่จิตใจเรามีศักยภาพและพลังที่คอยกำหนดการกระทำและชีวิตเราอยู่เสมอมา มีปัจจัยภายนอกและภายในที่คอยโน้มน้าวจิตหรือสั่งจิตกำหนดการคิด ความรู้สึก และการกระทำ การเรียนรู้ “พลังแห่งจิต” เพื่อรู้ทัน และรู้ใช้ คุณสมบัติของจิตเพื่อเปลี่ยนแปลงและดูแลชีวิตได้ด้วยตัวเราเอง โดยกระบวนการสอนจะทำให้เรื่องเหล่านั้นเข้าใจได้โดยง่ายและได้ลงมือฝึกฝนในชีวิตจริงของตน ผ่านความรู้ด้านพุทธธรรมและการกำกับจิตในศาตร์การสั่งจิตบำบัด”