งานเขียนจาก ณภัทร กำจัดภัย ม.บูรพา การจัดการทรัพยากรมนุษย์
การอบรมการเขียนเพื่อรู้จักตนเองและการสะท้อน
ด้วยว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก มีคนมากมายเดินกันเต็มเมืองใหญ่ และพวกเราเป็นเพียงสสารที่เหมือนลอยอยู่ในเมืองนั้น ขณะนี้พวกเรามองเห็นประตูบานหนึ่งที่เปิดกว้างเหมือนกับว่ามันเป็นประตูเดียวที่พวกเราจะไปได้ ฉันต้องการที่จะผ่านประตูนั้นเข้าไป และเดินไปไม่สิ้นสุด พวกเราหวังอย่างนั้น แต่ความฝันเฟื่องเริ่มกัดกินและทำร้ายพวกเรา พวกเรามีเพิ่มขึ้นตลอดทางที่พวกเราเดินผ่าน ต่างพวกต่างคนรู้จักกลับมาเป็นมิตรกัน พวกเรามีมากพอที่จะฝ่าฟันปัญหาต่างๆ พวกเราเริ่มที่จะค้นหาประตูบานใหม่ๆ มันทำให้เส้นทางมีสีสันมากขึ้น มีเหตุการณ์มากมาย ทั้งดีและร้าย พวกเราเปิดประตูบานแล้วบานเล่า ซึ่งประตูแต่ละบานมีความแตกต่างกัน จึงทำให้ต่างคนต่างแยกกันไปในแต่ละประตู รอเพียงเวลาที่จะมีโอกาสเปิดประตูมาอยู่ในห้องเดียวกัน และพวกเราไม่สามารถรวมกันได้ครบซักที มันเหมือนว่าพวกเราทั้งหมดนั้นติดอยู่ในเขาวงกรด ที่ไม่สามารถออกมาได้ เดินวนอยู่ในที่เดิมๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อพวกเรามีความคิดมากขึ้น พวกเราต้องการที่จะไปในห้องใหม่ๆ หาประตูใหม่ๆ พวกเราเพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกัน ในตอนนี้พวกเราผ่านห้องต่างๆมามากมาย พวกเราคิดว่าพวกเราผ่านห้องต่างมามากมาย พวกเราคิดว่าพวกเรารู้ทุกอย่าง แต่จริงๆแล้วพวกเรารู้เพียงน้อยนิดมากถ้าเทียบกับคนอื่นที่ผ่านห้องมาหลายห้อง เพราะเราเป็นเพียงสสารหนึ่งบนโลกใหญ่ ที่มีประตูมากมายให้เราเปิดซึ่งเราไม่มีทางที่จะเปิดมันได้หมด พวกเราเริ่มยอมรับว่าพวกเรายังเด็กต่อโลก และประตูที่พวกเราเลือกมันพาให้เราติดและวกวนอยู่ในห้องเดิมๆ เพราะในห้องทุกห้องมีสภาพแวดล้อม สังคมที่แตกต่างกันมาก ขนาดของห้องทำให้เราใช้เวลาในการหาประตูบานถัดไปนานยิ่งขึ้น เราต้องค้นหาประตูแข่งกับเวลาชีวิต พวกเรามีเวลาไม่มากเท่าไหร่ พวกเราต้องบริหารเวลา พวกเราพยายามที่จะค้นหาประตูถัดไปในตอนนี้ เพราะพวกเราคิดว่าพวกเราอยู่ในห้องที่กว้างใหญ่นี้มานานเกินไปแล้ว และคนในห้องถัดไปก็ไม่ชอบสภาพแวดล้อมของห้องเรา แต่ต่างคนต่างมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาก็มีเหตุผลของเขาที่เลือกประตูนั้นๆ พวกเราไม่สามารถที่จะลากหรือฉุดใครให้เข้ามาในห้องที่เราต้องการได้ เขาคนนั้นเท่านั้นที่จะเป็นคนเลือก บางคนเมื่อเลือกแล้วก็อาจไม่ต้องการที่จะหาประตูใหม่ๆเพราะเขานั้นพอใจในสภาพแวดล้อมในห้องนั้นๆ เขาจะอยู่กับมันจนเขากลายหนึ่งเดียวกับห้องนั้น พวกเราก็ต้องการเช่นนั้น แต่ ณ ตอนนี้เรายังไม่อาจพอใจกับห้องที่เราเป็นอยู่เพราะพวกเรานั้นมีห้องที่ฝันไว้และพวกเรายังมีแรงที่จะค้นหาห้องต่อไปๆ เพื่อจะไปให้ถึงห้องในแบบที่พวกเราคิดไว้ พวกเราทุกคนถูกเริ่มต้นด้วยห้องที่ใหญ่มากๆ พวกเราเสียเวลาไปเยอะกับห้องแรกนี้ มันเป็นห้องบังคับ ในห้องไม่มีอุปสรรอะไรมาก แค่เพียงเดินตามทางของมันซึ่งกินเวลาไปแล้วหนึ่งส่วนสี่ของชีวิต พวกเราจึงจะเจอประตูถัดไป ขณะนี้เราอยู่ในส่วนที่สองของชีวิต ในส่วนที่สองนี้มีห้องมากมายๆ มีประตูมากมายซึ่งพวกเราอยู่ในห้องห้องหนึ่งซึ่งพวกเรายังหาประตูถัดไปไม่เจอหรือเจอแล้วก็ตามพวกเรายังไม่พร้อม ในส่วนที่สองมีห้องเยอะ ห้องแต่ละห้องไม่ใหญ่เหมือนในส่วนแรก แต่ส่วนที่สองต้องรอเวลาที่เหมาะสมในการเปิดประตู ต้องรอจังหวะที่เหมาะสมในการเปิดประตู พวกเรามีประตูที่หมายปองอยู่แล้วทุกคนแต่ยังไม่พร้อมที่จะเปิดมัน พวกเราจึงรอเวลาและเก็บเกี่ยวความรู้และประสพการณ์ตามห้องต่างๆ พวกเราพยายามจะเปิดประตูในส่วนที่สองให้มากที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเปิดประตูห้องที่พวกเราหมายปอง แต่ตอนนี้พวกเราหลงอยู่ในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง ซึ่งมีสิ่งดึงดูดไม่ให้พวกเราไปไหน พวกเราพยายามที่จะทำตัวไม่ให้สิ่งดึงดูดเหล่านั้นดึงดูดพวกเราได้อีก พวกเราเริ่มรู้ตัวก็เสียเวลากับห้องนี้ไปมาก แต่พวกเรายังคงไปด้วยกันตลอด พวกเราไม่เคยทิ้งกัน ช่วยกันในยามที่ทุก แบ่งปันความรู้ในห้องที่เคยผ่านมาให้เพื่อนที่ไม่เคยเข้าไป แนะนำซึ่งกันและกัน ขอบคุณที่พวกเรายังมีกันเสมอมา ถึงแม้ห้องบางห้องจะพาให้พวกเราแตกคอกัน แต่พวกเราก็ผ่านมันมาได้ พากันมาได้ และพวกเราขอเวลาอีกไม่นานพวกเราจะเปิดประตูบานที่เราปราถนา และคงจะเป็นครั้งนี้ที่พวกเราต้องแยกกันเพื่อที่จะกลับมาพบกันใหม่ ทุกคนมีความฝันที่ต่างกัน มีความชอบที่ต่างกัน และทุกคนต่างมีประตูที่ปราถนาต่างกัน บางคนก็ยังคงเลือกประตูเดียวกับเราหรือเขาชอบแบบเดียวกับเรา แต่ในตอนนี้พวกเราต้องค้นหาประตูกันต่อไปเพื่อที่จะสะสมประสบการณ์ให้มากที่สุด ในช่วงนี้พวกเรายังมีแรง มีคนสนับสนุน พวกเรามีเพิ่มขึ้นมากจากในตอนแรก พวกเรากล้าที่จะเผชิญสิ่งต่างๆ ล้มบ้างลุกบ้างเป็นบางคราว มันทำให้พวเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พวกเรารีบเปิดห้องในส่วนที่สองเร็วขึ้นเพราะรู้ว่ามีเวลาในส่วนที่สองนี้ไม่นานแล้ว เพราะพวกเรารู้ว่าพวกเราต้องก้าวต่อไปเพื่อความฝันและความปรารถนา บางครั้งพวกเราเปิดประตูโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เจอสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี พวกเราพบกับความผิดพลาด แต่ ความผิดพลาดเหล่านี้มันสามารถช่วยทำให้พวกเราได้เรียนรู้และรู้จักมัน เปรียบเสมือนการที่เราทำอะไรซ้ำๆจนชินเป็นกิจวัตรประจำวันของเรา และพวกเราคงต้องค้นหาประตูห้องที่เรานั้นปรารถนากันต่อไป และหวังว่าเราจะเจอมัน
ด้วยทั้งหน้าตาของประตู สีสัน หรือสภาพแวดล้อมในห้อง อาจเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีหรือไม่ดีก็ได้อยู่กับว่าพวกเราเข้มแข็งมากแค่ไหน พวกเรานั้นจะผ่านมันไปในห้องถัดๆไปได้รึป่าวเท่านั้นเอง ตราบใดถ้าพวกเรายังมีกันอะไรมันก็ง่าย พวกเรายังช่วยแชร์ความรู้ประสบการณ์ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะเป็นอย่างไร พวกเราจะไม่หยุดค้นหาประตูใหม่ๆ และพวกเราจะออกจากวังวนที่ติดอยู่ พวกเราจะพยามให้ดีที่สุดกับการพจญภัยครั้งนี้ และจะไม่เสียใจในการตัดสินใจของพวกเราถึงแม้ใครมองจะมองว่าอย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเองเสมอ หวังว่าคุณก็มีเหตุผลของคุณเช่นกัน ที่คุณยังอยู่ ในห้องๆนี้เพราะคุณคิดว่ามันดีสำหรับคุณหรือมีเหตุผลบางอย่าง ขณะเดียวกันคุณก็ควรมองหาประตูบานถัดไป และทำตัวให้พร้อมสำหรับการก้าวผ่านจุดๆเดิม ที่เป็นอยู่เพื่อก้าวไปสู่ประตูสุดท้ายที่คุณพร้อมที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของห้อง และอยู่กับมันตลอดไป เปรียบเหมือนการตายและกายเป็นธุลีดังเดิมตามธรรมชาติ
END