เรื่องเล่าจากโครงการอบรมเขียนบำบัดแก่ผู้ต้องขัง รุ่นที่ 3 ของเรา (2)
…การเรียนรู้จากการฝึกเขียนสร้างสรรค์…
หลังจากผ่านการเรียนรู้ด้วยการเขียนบำบัดผ่านการเล่าเรื่องราวในอดีต การย้อนมองชีวิตเพื่อใคร่ครวญ และการวางแผนอนาคตข้างหน้า เราได้ให้ผู้เรียนได้ฝึกเขียนงานสร้างสรรค์ ทั้งในรูปแบบกลอนไฮกุ กลอนหัวเดียว และการแต่งเรื่องราว เป็นเนื้อหา “Article Craft” ซึ่งเป็นช่วงสองครั้งสุดท้ายของการอบรมการเขียนบำบัดเพื่อพัฒนาสุขภาวะผู้ต้องขังแดนหญิง เรือนจำสมุทรปราการ
การฝึกเขียนสร้างสรรค์ของเรา ไม่ได้มุ่งหมายที่การพัฒนาทักษะทางด้านการเขียน หากเป็นทักษะในการด้านคิดและปัญญา ซึ่งกระทำผ่านการร้อยเรียงถ้อยคำ จินตนาการ การตกผลึกจากการอ่านและการทบทวนชีวิต อันจะช่วยส่งเสริมพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาให้แก่พวกเขา
หลังจบการฝึกเขียน พวกเขาเล่าว่า “ทําให้เห็นว่าชีวิตยังมีวันหน้า ต้องไม่ท้อถอย ต้องก้าวไปข้างหน้า ต้องมี ความหวังและไขว่คว้าโอกาส, ได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์ รอยหยักในสมอง จินตนาการ ทักษะการคิดเขียน, ได้เปรียบเปรยตนเองและผู้อื่นกับตัวละครต่างๆ ทําให้เห็นชีวิตที่ผ่านมา และนึกถึงคําเตือนที่คนอื่นที่เคยบอก, สอนเราว่าสิ่งที่คิดว่าดีสําหรับเรา อาจไม่ได้ดีจริงก็ได้, ทําให้ได้ใช้ความคิด เพลิดเพลิน ปลดปล่อยอารมณ์ ส่วนนิทานทําให้เห็นว่าจะไม่เป็นแบบนี้อีก เป็นบทเรียนราคาแพง ควรฟังคนอื่นบ้าง, การฟังนิทานของเพื่อนก็ทําให้คิดว่าจะอยู่อย่างไรต่อไป จะจดจําไว้, มีสติ คิดก่อนทํา ชีวิตต้องเดินไปช้าๆ อย่างมั่นคง เราจะไม่ก้าวต่อไปอย่าง ผิดพลาด และทําให้เรียนรู้บทเรียนจากกัน บางคนเห็นภายนอกโวยวาย แต่เขาเจออะไรมาเยอะ น่าเห็นใจ”
.
ผลงานที่เขาเขียน เป็นเรื่องราวที่นำส่วนหนึ่งของชีวิตออกมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวใหม่ มีทั้งเขียนสั้นบ้างและยาวบ้าง บางคนนำเหตุการณ์ที่เจอกับตนเองมาเขียนเป็นเรื่องเล่า บางคนนำความตั้งใจที่จะแก้ไขตนเองและบทเรียนจากความผิดพลาดนำมาเขียนเป็นแรงผลักดันต่อตน และเป็นข้อคิดเตือนใจแก่ผู้อ่าน
.
มีนิทานเรื่องหนึ่งจากฝีมือของพวกเขา ชื่อว่า… เลือดและชีวิตใหม่
“เป็นชีวิตจริงของลูกน้ําตัวน้อยๆสองตัว ซึ่งอาศัยอยู่ในโอ่งน้ําอันใสเย็นที่บ้านของสาวน้อยผู้น่ารักผมยาว หน้าม้า รูปร่างเล็กกระทัดรัด โอ่งน้ําตั้งเรียงรายกันอยู่ใต้ต้นหูกวาง ซึ่งสูงใหญ๋ มีกิ่งก้านสาขามากมาย มีนกน้อยหลากหลาย ชนิดมาอาศัยทํารังและเกาะกินผลหูกวางสุกบ้าง หาหนอนแก้ว หนอนบุ้งกินบ้าง ซึ่งหนอนเหล่านี้จะกลายเป็น ผีเสื้อในภายหลัง ใกล้กับโอ่งน้ํานั้น มีอ่างเลี้ยงปลาอยู่3อ่าง ซึ่งภายในอ่างน้ํานั้นมีปลาหางนกยูง ปลาบอลลูน ปลา สอด และปลาทอง มีอยู่ด้วยกันนับร้อยตัว ข้างๆอ่างปลาก็จะมีต้นกะเพรา โหระพา กอตะไคร้ กอข่า กอขมิ้น ขึ้นอยู่เป็นร่มเงาให้ปลาในอ่างรู้สึกว่าได้อยู่กับธรรมชาติ อยู่มาวันหนึ่งลูกน้ําผู้พี่เอ่ยขึ้นว่า
พี่ : น้องจ๋า พี่อยากรู้จังว่าใครนะเป็นพ่อและแม่ของพวกเรา
น้อง : จริงจ้ะ พี่จ๋า เราถูกพ่อและแม่ทอดทิ้ง ปล่อยให้เราอยู่กันตามลําพัง โดยไม่เคยมาดูแลพวกเราเลย หนูกลัวจัง เลยจ้ะพี่จ๋า
พี่ : พี่ก็กลัวเหมือนกันนะ วันดีคืนดีก็มีสาวน้อยน่ารักเอาอะไรไม่รู้มาตักพวกเราใส่กระป๋องน้ํา จนพวกเราโดนจับไป เกือบหมดโอ่ง เหลือเราแค่สองตัวเท่านั้น
น้อง : จ้ะพี่จ๋า แล้วเราจะทํายังไงดี เราจะโดนจับไหมจ๊ะ
พี่ : พี่ก็ไม่รู้หรอกนะ แต่มีทางเดียว เราต้องพยายามลงไปหลบอยู่ก้นโอ่งลึกๆ เขาตัวเตี้ย ตักลงมาไม่ถึงก้นโอ่งหรอก น้อง : แต่หนูว่ายน้ําลึกๆไม่เก่งนะ
พี่ : ไม่ต้องกลัวหรอกจ้ะน้องจ๋า เมื่อเขามาเมื่อไหร่ พี่จะคอยจับมือน้องไว้ และพากันไปหลบอยู่ก้นโอ่ง
น้อง : จ้ะพี่จ๋า เฮ้อ! ค่อยเบาใจหน่อย
พี่ : สักวันหนึ่งเมื่อเราโตกว่านี้ เราจะหาทางออกไปจากที่นี่กันนะ ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะคอยดูแลน้องเอง
อยู่ต่อมาได้ไม่นานก็เกิดความเปลี่ยนแปลงกับลูกน้ําทั้งสองตัว โดยลูกน้ําผู้พี่ได้ลอยขึ้นอยู่ผิวน้ํา และลอยอยู่อย่างนั้น โดยมันมีลําตัวที่ใหญ่ขึ้นและสั้นลง พร้อมทั้งมีขาและปีกที่ค่อยๆงอกขึ้นมา เพียงแต่รอให้ปีกนั้นแข็งแรงด้วย สัญชาตญาณของมัน ทําให้มันรู้ว่า “มันคือยุง” และมันสามารถบินได้อย่างอิสระเสรี โดยมันรู้สึกหิวอะไรนะ มันคิด อยู่ในใจ และแล้วทันใดนั้นก็มียุงอีกตัวหนึ่งลอยขึ้นมาเหนือน้ํา รูปร่างผอมเล็ก ไม่เหมือนตัวพี่ที่มีรูปร่างใหญ่และตัวลายเมื่อยุงตัวน้องได้เจอกับพี่ ลูกน้ําทั้งสองโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจนี่เราจะกลายเป็นยุงลายหรือนี่แต่ทําไม หนูรู้สึกหิวจังเลย ไม่รู้หิวอะไร
พี่ : พี่รู้สึกว่าพี่เป็นยุงตัวเมียนะ และพี่ก็อยากกินเลือดมากเลย
น้อง : แต่หนูคิดว่าหนูเป็นยุงตัวผู้ และอยากกินน้ําหวานจากเกสรดอกไม้มากเลย แต่ทําไมพี่อยากกินเลือด แล้วมัน เป็นเลือดใครล่ะ
พี่ : เลือดใครก็ได้ แต่พี่จะกินเลือดผู้หญิงผมยาวหน้าม้านั่น ผิวขาวน่ากินมาก
น้อง : เลือกกินเลือดอื่นได้ไหม ถ้าเป็นเลือดคน หนูกลัวว่าพี่จะโดนเขาตบตายนะ
พี่ : พี่จะกัดเขาให้เบาที่สุดไม่ให้เขารู้สึกเจ็บเลยล่ะ
น้อง : ทําได้หรือพี่
พี่ : ไม่ลองไม่รู้ ในเมื่อเขาจับพวกเราไปให้ลูกปลากิน พี่ก็จะกัดกินเลือดผู้หญิงคนนี้แหละ
น้อง : ไปหาน้ําหวานกินกันไหม พี่ไม่ต้องเสี่ยงตายด้วย
พี่ : ไม่ละ พี่ต้องกินเลือดเท่านั้น เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและเติบโต
และแล้วทั้งสองตัวก็บินแยกย้ายกันไปหาอาหารที่ตนเองชอบและอยากจะกิน ไม่นานร่างกายของทั้งสองตัวก็เติบโต สมวัย เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์พร้อมที่จะสร้างครอบครัวของตนต่อไป
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ทงั้ สองได้บังเอิญมาเจอกันอีกครั้ง
น้อง : สวัสดีจ้ะพี่สาว ตัวอ้วนสวยเลยนะ
พี่ : ใช่ๆ พี่ได้กินเลือดผู้หญิงคนนั้นแล้วนะ แหม! เลือดเขามันช่างหอมหวานเหลือเกิน ทําให้พี่ดูดจนเพลินเกือบ ไม่ได้ระวังตัว แต่ทําไมเขาไม่ตบพี่ล่ะ แต่เขากลับเอามือปัดๆให้พี่บินหนีไป
น้อง : อ๋อ! หนูเคยเห็นเขาเอาข้าวมาโปรยให้นกและปลาในสวนกินทุกวัน และก่อนเข้านอนเขาก็มานั่งสวดมนต์ทุก วันเลย
พี่ : นี่คงเป็นสาเหตุที่ทําให้เขาเป็นคนมีจิตใจดี และมีเมตตา แต่เขาตักพวกเราไปให้ปลากินนะ
น้อง : คงเป็นเพราะยุงลายเป็นพาหะของไข้เลือดออก ส่วนยุงก้นปล่องเป็นพาหะของโรคเท้าช้าง พวกเราเป็น พาหะจากยุงสู่คน จึงเป็นเหตุให้พวกเขาต้องกําจัดพวกเราไง
พี่ : แล้วเขาไม่กลับาปหรือ
น้อง : บาปสิ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นบาปทั้งนั้นแหละ แต่ก็ต้องดูที่เจตนาของเขาด้วยว่าเขาทําไปเพื่อสิ่งใด มัน สามารถลบล้างความบาปลงได้นะ เท่ากับว่าเขาฆ่าเราเพื่อต่อชีวิตให้คนและสัตว์อื่นๆที่พี่ไปกัดกินเลือดเขา เพราะ เราเป็นยุงที่อันตรายถึงชีวิตเลยนะ
พี่ : อ้อ! เป็นอย่างนี้นี่เอง
น้อง : พี่จ๋า นี่เวลาก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้วนะ เราไปหาคู่กันเถอะ เพื่อที่เราจะได้ขยายพันธุ์ยุงลายเยอะๆไง
พี่ : ไปสิ เพราะเรามีอายุอยู่ในโลกใบนี้เพียง7วันนะน้อง พี่ต้องไปหาคู่เพื่อวางไข่ลงในทุกๆที่ที่มีน้ําขัง เดี๋ยวนี้คนเขา เริ่มฉลาดขึ้น พวกเขาสั่งคว่ําขัน กะละมัง ล้อยางรถ ภาชนะทุกชนิดที่มีน้ําขังอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเราลงมา วางไข่ได้
น้อง : แล้วพี่จะทํายังไง
พี่ : อ๋อ! ไม่ยากหรอก ในห้วย หนอง คลอง บึงที่มีน้ํานิ่งสนิท พี่ก็สามารถวางไข่ได้แล้ว
น้อง : งั้นเราไปกันเถอะ เวลาเหลือน้อยแล้ว
พี่ : พี่ต้องไปหาเลือดกินก่อน แล้วค่อยไปหาคู่ผสมพันธุ์ ไปละ!
เมื่อยุงลายเพศเมียผู้พี่ได้วางไข่ลงในโอ่งน้ําใสที่เดิม เสร็จแล้วมันก็ตาย และก่อนตายมันจึงรู้ว่า ที่พ่อและแม่ของมัน ไม่ได้มาดูแลมันเพราะสาเหตุนี้นี่เอง
นี่คือวงจรชีวิตของยุง แต่ทว่ามนุษย์เราโชคดีที่ได้มีอายุที่ยืนยาวกว่ายุงจะมากหรือน้อยต่างกันอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับ การใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทของแต่ละบุคคล การกิน การนอน การเที่ยวเตร่ หรือการทํางานใดๆต้องให้ความสําคัญ กับชีวิตตนเอง อายุจะได้ยืนยาว ไม่มีใครลิขิตชีวิตเรานอกจากตัวของตัวเราเอง นั่นแล”
.
อ่านรายงานโครงการนี้ได้ที่
.
เข้าร่วมกิจกรรมรับสมัครบุคคลทั่วไป เพื่อสนับสนุนโครงการของเรา