“ของวิเศษที่ถูกลืม” คุณนก ปุณณมา ศิริพันธ์โนน
งานเขียนต่อยอดจากการเรียนรู้ คอร์ส เขียน=มหัศจรรย์ชีวิต
ถ้าเอ่ยถึง”เจ้าแมวสีฟ้าตัวกลม“ น้อยคนนักที่จะบอกว่าไม่รู้จัก“โดราเอมอน” โดยเฉพาะคนในวัยเดียวกับฉัน
เจ้าแมวตัวนี้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากแดนปลาดิบมาเป็นขวัญใจเด็กไทยมานานกว่า 30 ปี
… ย้อนไปในวันที่เด็กน้อยวัย 10 ขวบอย่างฉันได้อ่านเรื่องราวของเจ้าหุ่นยนต์แมวตัวนี้ที่โลดแล่นอยู่บนหน้ากระดาษในหนังสือการ์ตูนแปล มันช่างเรื่องราวที่สนุกสนาน เต็มไปด้วยจินตนาการ แตกต่างไปจากหนังสือการ์ตูนไทยที่เคยได้อ่านมา
ดังนั้นโดราเอมอนจึงกลายเป็นหนังสือการ์ตูนที่ฉันรอคอยที่จะได้อ่านเรื่องราวตอนใหม่ๆ
… อะไรที่ทำให้เจ้าหุ่นยนต์แมวตัวนี้ทำให้ฉันหลงรักได้ตั้งแต่แรกรู้จัก
ก็บรรดาของวิเศษในกระเป๋ามิติที่4 นั่นไง ใครๆก็อยากได้
โดยเฉพาะประตูไปไหนก็ได้ และคอปเตอร์ไม้ไผ่ ถือเป็นของวิเศษชิ้นโปรดของฉันเลยทีเดียว
ถ้าได้มีเจ้าโดราเอมอนอยู่ที่บ้านสักตัวก็คงดี
ปัญหาต่างๆคงแก้ไขได้ไม่ยาก ความใฝ่ฝันความคาดหวังคงสัมฤทธ์ผลอย่างแน่นอน
… เมื่อเด็กน้อยเติบโต เรื่องราวของเจ้าแมวสีฟ้าและของวิเศษก็ค่อยๆจางหายไป
แต่ในบางวันที่เป็นวันแย่ๆที่น่าเหนื่อยล้า ท้อแท้ วันที่ทุกสิ่งรอบตัวมันดูจะผิดพลาดไม่เสียหมด
ทำอะไรก็ติดขัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ประหนึ่งว่าเมื่อตอนเช้าฉันคงจะก้าวขาผิดข้างออกจากบ้าน
ในวันแบบนี้ถ้ามีเจ้าโดราเอมอน เป็น”ฮีโร่”ขี่ม้าขาวมาพร้อมของวิเศษมากมายก็คงดี
มาช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น มาฉุดฉันขึ้นจากวังวนแห่งความโชคร้ายต่างๆ
ว่าแต่ … เจ้าของวิเศษต่างๆมันช่วยฉันสมหวังได้จริงหรือ
… ในเวลาพบเจอปัญหา เวลามีความทุกข์ หลายครั้งฉันมักหวังพึ่งความช่วยเหลือจากคนอื่น
ไม่เว้นแม้การภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ เพราะเชื่อว่าคนอื่นจะเป็น”ฮีโร่” ที่หยิบยื่นทางออกดีๆให้ได้
เพราะการเฝ้ารอคอยที่จะพบ”ฮีโร่” การฝากชีวิตไว้กับคนอื่น สิ่งอื่นนี้เองที่ทำให้ฉันหลงลืมบางอย่างที่สำคัญไป
… นั่นคือ ของวิเศษภายในที่ฉันมี ฉันลืมไปเสียสนิทเลยว่าตัวเราเองต่างหากที่จะพาตนเองให้ก้าวพ้นจากปัญหาต่างๆได้
ความช่วยเหลือของคนอื่นหรือจะวิเศษไปกว่าความพยายามและความมุ่งมั่นของตัวฉันเอง
หากมองย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของเจ้าแมวโดราเอมอน และใคร่ครวญให้ดี ก็จะเห็นบทเรียนสำคัญที่ถูกซ่อนไว้
ของวิเศษมากมายไม่เคยช่วยให้โนบิตะชนะปัญหาใดๆได้
แต่ความพยายามของโนบิตะเองต่างหากที่ช่วยให้โนบิตะมีอนาคตที่สดใสกับชิซูกะ
แล้วเจ้าความพยายามและความมุ่งมั่นนี้เองก็เป็นของวิเศษที่จะพาให้ฉันก้าวไปสู่เป้าหมายที่หวังได้
ไม่ต่างกับประตูไปไหนก็ได้และคอปเตอร์ไม้ไผ่ ที่ฉันเคยชื่นชอบ
ยิ่งค้นหา ฉันก็ยิ่งเจอว่ายังมีของวิเศษอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรา เข่นเดียวกับกระเป๋ามิติที่4 ของเจ้าแมวอ้วน
… ความมีสติ ความอดทน ความใจดีมีเมตตา ความคิดบวก ความรู้ ความสามารถ …
ของวิเศษเหล่านี้คอยให้ฉันหยิบมันออกมาใช้ในสถานการณ์ต่างๆ
แต่ในบางครั้ง เมื่อเจอปัญหา ฉันมักจะเผลอจมดิ่งลงในปัญหาอย่างไม่ทันตั้งตัว
พลังด้านลบที่เกิดขึ้นกลับบดบัง จนฉันลืมที่จะหยิบของวิเศษภายในออกมาใช้
ความสับสนทำให้ฉันหาของวิเศษที่จะใช้ไม่เจอ (เหมือนเวลาที่ร้อนรน มักหาของไม่เจอ ทั้งๆที่มันวางอยู่ตรงหน้า)
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ของวิเศษที่เรียกว่า “สติ” นี่เอง
ในวันที่ฉันหลงลืมที่จะหยิบเจ้าสติขึ้นมาใช้ เรื่องง่ายๆมันก็ยากขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ฉันมองเห็นแต่ปัญหารอบตัว ฉันมัวแต่ทุกข์ล่วงหน้ากับการกังวลถึงสิ่งต่างๆที่ยังไม่เกิดขึ้น
มันเหมือนว่าฉันได้ทำกระเป๋าวิเศษหล่นหายไป …
เจ้าสติจึงถือเป็นของวิเศษที่สำคัญมาก
เพราะมันทำให้ฉันรู้ตัว รู้ว่ากำลังเผชิญกับสิ่งใด รู้ว่าในตัวฉันมีของวิเศษใดอยู่ และรู้ว่าจะหยิบชิ้นใดมาใช้
ของวิเศษภายในนอกจากจะเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่จะพาตัวฉันไปสู่สิ่งที่มุ่งหวัง
มันยังเป็นเครื่องมือให้ฉันได้ช่วยเหลือคนอื่น ได้สร้างความสุขคนอื่น แบบเดียวกับเจ้าแมวอ้วนโดราเอมอน …