บทความ “สนทนากับเจ้าตัวเล็ก…เด็กน้อยภายใน”
จากบันทึกส่วนตัวอาจารย์ผู้สอน เบื้องหลังหลักสูตร “เด็กน้อยภายใน” ขั้นต้นและขั้นกลาง
เผยแพร่เป็นวิทยาทานและกำลังหัวใจ
อนุรักษ์ เม่นหรุ่ม C.Ht
*********
สุ ข นิ ด ๆ แ ต่ มี บ่ อ ย
*********
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : วันนี้ฉันเกิดสงสัยว่า เพราะอะไรคนเราต้องรอจนถึงวันเสาร์อาทิตย์ หรือเทศกาล หรือวันหยุดยาว จึงจะมีความสุข หรือให้เวลาตัวเองพักผ่อน
ฉัน : ก็โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว มันก็มีตารางงานมาเกี่ยวข้อง ต้องทำงานง่วน อยู่กับความตึงเครียดในแต่ละวัน แต่ละวัน จนถึงวันหยุดนี่แหละ ไม่ต้องทำงาน ทุกคนในครอบครัว กลับมาพร้อมหน้า หรือได้ออกจากสภาพแวดล้อมที่ชวนอึดอัด เดินทางไปไกลๆ
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : ฉันกลับรู้สึกน่าเสียดายนะ ที่แต่ละปีมีช่วงเวลาความสุขน้อยนิดเอง ชีวิตผู้ใหญ่นี่ ทำไมดูน่าเบื่อจังนะ พวกเขาดูเบื่อๆ กับสิ่งที่ทำและต้องใช้ชีวิต จนเฝ้ารอตั้งหน้าตั้งตา เมื่อไหร่ว่าจะถึงวันหยุด
ฉัน : ส่วนหนึ่งเขาคงเบื่องาน เบื่อภาวะที่ต้องจำยอม ชีวิตหลายคนต้องอยู่กับการกัดฟันสู้ ให้ได้เงินประทังชีวิต เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว บางคนต้องทำงานที่ตนเองรู้สึกไม่พอใจหรือไม่อาจตอบได้ว่านี่คือสิ่งที่เขาเกิดมาแล้วต้องการทำมันจริงๆ
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : งานดูเป็นสิ่งที่แปลกแยกไปจากความสุขเกินไปนะ ทำไมเขาต้องหางานที่พรากจากความสุขของเขาด้วย พรากจากครอบครัวให้แยกจากกันด้วย ทั้งๆ ที่เขาต้องการความสุขและการอยู่ร่วมกัน
ฉัน : เพราะว่า เขาต้องทำงานเพื่อให้ได้ความสุขในภายหลัง จำเป็นต้องแยกจากกันเพื่อหาปัจจัยมาเลี้ยงดูกันและกัน รอช่วงเวลาแห่งความสุขที่ได้กลับมาฉลองความสำเร็จจาการอดทนอดกลั้น
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : แปลกดีนะ พวกเขาต้องการความสุข แต่กลับเก็บเอาไว้ภายหลัง พวกเขาต้องการครอบครัวที่มีความสุข แต่กลับเก็บไว้ภายหลัง เจ็ดวันในหนึ่งสัปดาห์ พวกเขากลับแบ่งช่วงเวลาครอบครัวและความสุข เก็บไว้ท้ายๆ เพียงสองวัน และบางคนก็น้อยกว่านั้น
ฉัน : ถึงแม้ พวกเขาต้องทำงานเพื่อแลกมาซึ่งความสุขและสิ่งที่ปรารถนา แต่บางทีความเหน็บเหนื่อยและตารางเวลาชีวิตก็พาให้เรามีโอกาสอยู่กับสิ่งเหล่านั้น สิ่งที่หัวใจเขาต้องการจริงๆ เพียงน้อยนิด
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : พวกเขาเหมือนกับรอถึงช่วงเวลาเฉลิมฉลองเพื่อมีความสุขเยอะๆ ทุ่มแรงสร้างความสุขเต็มที่ จนหมดแรง และต้องเหนื่อยล้าเพิ่มขึ้นอีกหลังจากช่วงเวลาเหล่านั้นหมดลง ต้องกลับมาทำงาน เหนื่อยเมื่อยล้ากลับมาบ้าน บางคนก็โมโหฉุนเฉียวง่าย บางคนก็จมอยู่กับตนเองไม่สนใจดูแลคนรอบข้าง หลายคนก็เหนื่อยเกินไปเกินกว่าจะแสดงความรักหรือดูแลกันและกัน รอ รอ แล้วก็รอ ช่วงเวลาแห่งความสุขกลับมาใหม่
ฉัน : ฟังดูเป็นวงจรแห่งความเหนื่อยนะนี่ เราต้องจ่ายกันมากขนาดนั้นเลยหรอ เพื่อให้ตัวเองมีความสุข ในช่วงเวลาสั้นๆ และกลับมาสู่ช่วงเวลา “ปรกติ” ที่แสนยาวนาน
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : ทำไมพวกเขาไม่มีความสุขไปด้วยล่ะ ทั้งในเวลาทำงาน ในเวลาปรกติที่ว่า ทำไมพวกเขาไม่สร้างความสุขในวันอื่นๆ นอกจากวัน “พิเศษ”
ฉัน : บางทีระบบงานก็กลัวคนจะทำงานไม่เต็มที่ บางทีเราก็หลงลืมความสุขเล็กๆ ระหว่างวัน ไปให้คุณค่ากับความสุขเยอะๆ ยิ่งใหญ่เกินไป ฉันว่า คนเราโปรแกรมตัวเองเหมือนหุ่นยนต์ มันก็คงเพราะวิธีการใช้ชีวิต การทำงาน สังคม และอื่นๆ ที่พาเราตั้งโปรแกรมตัวเอง มีระบบขั้นตอน วันจันทร์ตื่นเช้าไปทำงาน ฝ่ารถติด ทำงานชิ้นนั้นชิ้นนี้ตามคำสั่งและตาราง ตกเย็นกลับบ้าน ขึ้นรถ ฝ่ารถติด ทานอาหารค่ำ ดูทีวี นอน แล้วตื่นขึ้นมาทำงานต่อ รอจนถึงวันหยุด เพื่อมีความสุข ให้เป็นกำลังใจกลับมาทำงานในวงจรเดิม
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : ฉันว่าเด็กหลายคนถ้าได้รู้แบบนี้คงรู้สึกกลัวๆ ที่จะเป็นผู้ใหญ่ เอาเข้าจริง มันก็อยู่ในวงจรแบบที่เธอว่านี้มาตั้งแต่เข้าเรียนแล้ว เด็กๆ ก็จะเบื่อการบ้าน วิธีการให้การบ้านของครูเป็นสิ่งที่ทำลายความสุขในการทำงานของเด็กและติดตัวไปตลอดชีวิต ทำให้เรื่องงานเป็นเรื่องน่าเบื่อ เป็นเรื่องการถูกบังคับ ตัดสิน วิจารณ์ และทนๆ ทำไปให้เสร็จๆ แม้จะต้องโกง ต้องลอกกัน หรือทำอย่างไรก็ได้ให้เสร็จๆ เพื่อจะได้พักผ่อน มีความสุข มันติดตัวมาเป็นเด็กน้อยภายในของพวกเขาระหว่างการทำงาน
ฉัน : ฉันก็ชักอยากถามแบบเธอแล้วสิ ทำไมเด็กๆ ถึงมีความสุขไปด้วยเรียนไปด้วยไม่ได้ ทำไมชีวิตคนเรายามเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ไยจึงต้องรอเทศกาลหรือวันหยุดจึงจะดูแลตัวเองดีๆ และมีความสุข
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : ทั้งๆ ที่ ฉันว่านะ ความสุข มันกระจัดกระจาย อยู่ในวันเวลาของแต่ละวันคืน
ฉัน : มันมีอยู่ แต่มันไม่เห็น เพราะเราโฟกัสมองไปที่สิ่งใหญ่ๆ มากเกินไป หรือเราก็เร่งร้อนใช้ชีวิตไปตามวงจรแต่ละวัน จนเร็วเกินไป ที่จะเห็นสิ่งสวยงามระหว่างวันของพวกเขา
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : มันไม่ได้อยู่ในคอมพิวเตอร์ หรือเฟสบุ๊ต มันอยู่ในการเล่นกับชีวิต ยิ้มให้กับชีวิต วันนี้เธอกับฉันยังไม่ได้ออกจากบ้าน แต่การตื่นตรงตามเวลาที่ต้องการแม้ไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกก็ทำให้เรามีความสุขแล้ว อาบน้ำแล้ววันนี้น้ำเย็น ทั้งๆ ที่อากาศร้อน และเครื่องปั้มน้ำมักทำให้น้ำร้อน ก็แปลกใจ ร่างกายก็เย็นสดชื่น ภาพที่ผนังซึ่งฉัน เธอ และคนที่เรารักช่วยกันแปะติดไว้ก็ช่วยผ่อนคลาย น่ารัก ความสุขนิดๆ กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ชีวิตเราทุกคน
ฉัน : เพียงเราหยุดลง มอง และสัมผัส หัวใจเราจะรวบรวมความสุขเหล่านั้น กอบเก็บไว้ในฝ่ามือน้อยๆ ของเจ้าตัวเล็ก ในเราทุกคน ไม่จำเป็นต้องสุดเหวี่ยง ไม่จำเป็นต้องรอวันหยุดเพื่อสุขสุดเหวี่ยง ไม่จำเป็นต้องทำงานบ้าคลั่งจนบีบคั้นกายใจและอยู่กับคนรักอย่างอึดอัด เพื่อรอวันปลดปล่อยชีวิต เราเปลี่ยนทุกวันให้เป็นวันพิเศษของเราได้ ด้วยการกระทำที่แตกต่างไปจากเดิม
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : มันเล็กๆ เหมือนแมลงเต่าตัวจิ๋วๆ แต่ลายปีกมันสวย มันอาจไม่ได้ใหญ่เทอะทะจนเราแบกมันไปกับชีวิตการทำงานไม่ได้ มีความสุขนิดเดียว แต่มีมันบ่อยๆ ในทุกๆ วัน แต่ที่จะเก็บดาวไว้ปลายทางของแต่ละสัปดาห์หรือช่วงวันหยุด ฉันกับเธอแปะมันไว้ในห้องนอน เก็บมันไว้ในทุกเป้าหมายของทุกวัน
ฉัน : แต่เธอก็ยังคอยเตือนฉัน บางทีฉันก็หมกมุ่นกับการทำงานมาก จนเครียดสะสมและดูแลตัวเองกับคนรอบข้างไม่ดี เธอก็รู้ว่าบางทีฉันก็ทำงานมากจนไม่ได้ฟังเสียงร่างกายหรือเด็กน้อยภายในเลย
เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : ฉันรู้ดี ว่าจะเตือนเธออย่างไร ฉันทำเสมอ และขอแค่เธอยิ้ม ชีวิตและงานก็จะยิ้มกับเธอ
*********
ติดตามอ่านได้ที่ https://www.dhammaliterary.org/?page_id=3357